ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศไทยมีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ (CPI) และค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น การปรับค่าจ้างขั้นต่ำไม่เพียงเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน แต่ยังสะท้อนถึงความพยายามของภาครัฐในการสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจระหว่างแรงงาน ธุรกิจ และการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
1. ค่าจ้างขั้นต่ำปี 2559–2563
2. การเปลี่ยนแปลงในปี 2564–2566
3. ปี 2567: การพัฒนาต่อเนื่อง
สำหรับปี 2568 คาดการณ์ว่าค่าจ้างขั้นต่ำจะอยู่ในช่วง 337–400 บาท/วัน โดยบางจังหวัด เช่น สุราษฎร์ธานี, เชียงใหม่ และสงขลา จะมีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 2 ระดับ ซึ่งสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่เน้นความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับต้นทุนค่าครองชีพในแต่ละพื้นที่
การปรับค่าจ้างขั้นต่ำในปี 2568 มีเป้าหมายหลักเพื่อ:
1. เพิ่มกำลังซื้อให้แก่แรงงาน
2. สนับสนุนการบริโภคในประเทศ
3. สร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
ความสัมพันธ์ระหว่างค่าจ้างขั้นต่ำกับเงินเฟ้อ
อัตราเงินเฟ้อ (CPI) เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อค่าครองชีพของแรงงาน การเปรียบเทียบในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ในบางปีค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นไม่ทันกับอัตราเงินเฟ้อ เช่น ปี 2565 ซึ่งเงินเฟ้อสูงถึง 6.08% ในขณะที่ค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเพียง 1.26% อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มค่าจ้างในปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.90% อาจช่วยลดผลกระทบดังกล่าวในระยะยาว
1. ผลกระทบต่อแรงงาน : การเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงาน ลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และเพิ่มกำลังซื้อในครัวเรือน
2. ผลกระทบต่อภาคธุรกิจ : สำหรับธุรกิจที่พึ่งพาแรงงานจำนวนมาก เช่น ภาคการผลิตและบริการ อาจเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับราคาสินค้าและบริการ
3. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม : การเพิ่มกำลังซื้อของแรงงานจะส่งผลให้การบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19
1. การจัดการค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละพื้นที่ : การกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำที่แตกต่างกันในแต่ละจังหวัด เช่น ปี 2568 ที่มีอัตรา 2 ระดับในบางพื้นที่ อาจเป็นแนวทางที่ช่วยตอบโจทย์ความแตกต่างด้านค่าครองชีพได้ดี
2. การเชื่อมโยงกับอัตราเงินเฟ้อ : รัฐบาลควรติดตามอัตราเงินเฟ้อและปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้สอดคล้องกัน เพื่อรักษากำลังซื้อและลดผลกระทบต่อแรงงาน
ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในประเทศไทยสะท้อนถึงความพยายามของภาครัฐในการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน แม้ในบางปีอัตราการเพิ่มขึ้นอาจไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ แต่การปรับปรุงในปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วง 337–400 บาท/วัน แสดงถึงการพัฒนาที่สำคัญเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์