ลองมาดูข้อแนะนำในการดูแลรักษารถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่จะทำให้เข้าใจว่าจริงๆ แล้ว การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้านั้นสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย และการดูแลรักษาก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด
ช่วงฝนตกอย่ากังวล รถยนต์ไฟฟ้าใช้งานได้สบายๆ
• เมื่อก่อนเรามักจะได้ยินว่ายามฝนฟ้าคะนอง ต้องรีบถอดปลั๊กหรือหยุดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดเพื่อป้องกันอันตราย ทำให้บางคนอาจเป็นห่วงว่าการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าก็ต้องห้ามโดนน้ำไม่ต่างกัน แต่ความจริงแล้วรถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ตามปกติแม้โดนฝน เพราะมอเตอร์ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์เชื่อมต่อระบบไฟฟ้าต่างได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีด้วยฉนวนไฟฟ้า รวมถึงมีเซ็นเซอร์ตรวจจับไฟฟ้ารั่ว และระบบป้องกันการลัดวงจรลงดิน (Ground Fault Protection) ที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย
• สำหรับการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าในช่วงฝนตก ยังต้องใช้ความระมัดระวังไม่ต่างจากการขับรถเครื่องยนต์น้ำมันเช่นเดียวกัน ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ อย่างเช่น ORA Good Cat ของทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ก็มีกล่องหุ้มเซลล์แบตเตอรี่ที่แข็งแรง รองรับความปลอดภัยทางไฟฟ้า ป้องกันน้ำ การกัดกร่อน การชน การกระแทก และการเกิดเพลิงไหม้ โดยหากเกิดการชนที่กระทบแบตเตอรี่ รถยนต์จะดับภายใน 50 มิลลิวินาทีเพื่อความปลอดภัย และยังมีการควบคุมอุณภูมิและระบายความร้อน ป้องกันการเผาไหม้ที่อาจเกิดขึ้นเองของแบตเตอรี่อีกด้วย
ฝนตก รถติด แบตฯ ใกล้จะหมด ชาร์จไฟได้ไร้กังวล
• ปัจจุบันมีแท่นชาร์จมากมายให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จรถได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งแบบ DC และ AC โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายรถยนต์อย่าง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ก็มีการวางแผนที่จะขยายจุดชาร์จเพิ่มเป็น 55 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้อีกต่างหาก
• แท่นชาร์จที่ได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน จะมีระบบป้องกันที่สามารถระบายน้ำได้ถึงแม้ในช่วงฝนตกหรือมีน้ำขัง รวมถึงมีการติดตั้งระบบตัดไฟรั่ว และลงสายดินไว้ ส่วนของตัวรถยังมีซีลกันน้ำ กันฝุ่น และกันน้ำสาดได้ ป้องกันน้ำฝนกระเด็นเข้าขั้วชาร์จไฟฟ้า และยังมีระบบเซ็นเซอร์จะตัดกำลังไฟฟ้าทันที หากพบกระแสไฟรั่วไหลในวงจร
อย่างไรก็ตาม ควรสำรวจบริเวณแท่นชาร์จ หัวประจุ และสายไฟทุกครั้งก่อนชาร์จว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ รวมถึงเช็ดทำความสะอาดบริเวณจุดที่ชาร์จให้แห้งก่อนปิดฝา
น้ำท่วม ปัญหาคู่สังคมไทย รถยนต์ไฟฟ้าในไทยลุยไหวไหม?
• ฝนตกหนัก รถติด ชีวิตที่อยากสู่ขิตของชาวกรุงฯ แถมยังต้องกังวลว่าน้ำท่วมขังจะทำให้รถดับกลางอากาศหรือไม่ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ใต้ท้องรถ แต่ด้วยระบบในรถได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีและป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในระบบ ก็พอจะมั่นใจได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้านั้นสามารถใช้งานอย่างปลอดภัยในสภาวะน้ำท่วม
• รถยนต์ไฟฟ้ามีการทดสอบ IP Rating (Ingress Protection) ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานในการป้องกันของแข็งและของเหลวเล็ดลอดเข้าภายในตัวรถ ซึ่งค่ามาตรฐานอยู่ที่ IP67 การันตีว่าสามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมไม่เกิน 1 เมตรได้ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที
• หากจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำท่วม ควรเพิ่มความระมัดระวัง ใช้ความเร็วต่ำ คอยระวังสิ่งกีดขวางบนท้องถนน เช่น ท่อนไม้ หรือก้อนหิน ซึ่งอาจสร้างความเสียหายกับแบตเตอรี่ หลังจากที่ขับรถลุยน้ำในระดับสูงและเป็นเวลานาน อาจนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กรถยนต์ เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานได้อีกทาง
นอกจากนั้น ผู้ใช้งานก็ควรศึกษาคู่มือการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้ดี เพื่อที่จะได้ใช้งานรถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ขอบคุณข้อมูล: เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM Thailand)
ที่มาของข้อมูล:
- ความรู้ยานยนต์ไฟฟ้าเบื้องต้น, โครงการศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า สถาบันยานยนต์
- รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการ “การศึกษาเทคโนโลยีอุปกรณ์ประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์นั่งที่ใช้พลังงานไฟฟ้า” โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย