หากพูดถึงหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รถยนต์ยุคใหม่ให้ความสำคัญมากที่สุด ระบบอินโฟเทนเมนท์ (Infotainment System) คือหัวใจหลักที่หลายคนคาดหวังว่าจะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สะดวก สนุก และปลอดภัยยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ระบบนี้กลับกลายเป็นแหล่งรวมปัญหาหลักในรถใหม่หลายรุ่น โดยเฉพาะในผลการศึกษาของ J.D. Power ที่พบว่า "ระบบอินโฟเทนเมนท์" เป็นหมวดที่พบปัญหามากที่สุดในกลุ่มเจ้าของรถยนต์ในประเทศไทยปี 2568
คำถามสำคัญคือ...ระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์คืออะไร และทำไมมันถึงเป็นจุดอ่อนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้?
คำว่า อินโฟเทนเมนท์ (Infotainment) มาจากการรวมคำสองคำคือ Information (ข้อมูล) และ Entertainment (ความบันเทิง) ระบบนี้คือศูนย์รวมการจัดการข้อมูลและความบันเทิงภายในรถยนต์ โดยมักแสดงผลผ่านหน้าจอสัมผัสกลางคอนโซล มีฟังก์ชันมากมายที่เชื่อมต่อทั้งภายในและภายนอกรถ เช่น:
แม้จะดูเหมือนระบบที่ควรจะช่วยให้การขับขี่ดีขึ้น แต่การออกแบบที่ไม่เข้าใจผู้ใช้งานจริง กลับกลายเป็นต้นตอของปัญหา โดยเฉพาะในประเด็นเหล่านี้
พฤติกรรมของผู้ใช้รถในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเมื่อสิบปีก่อนอย่างมาก สมาร์ตโฟนกลายเป็นอุปกรณ์หลักที่อยู่ติดตัว 24 ชั่วโมง และผู้ใช้คาดหวังว่าการเชื่อมต่อระหว่างรถกับมือถือควร “ไร้รอยต่อ” พอขึ้นรถปุ๊บ ต้องพร้อมใช้งานทันที ทั้งนำทาง โทรศัพท์ ฟังเพลง หรือดูข้อความผ่านหน้าจอกลาง โดยไม่ต้องกดหลายขั้นตอน
เมื่อประสบการณ์ใช้งานไม่ตอบโจทย์ สิ่งแรกที่ผู้ใช้จะสะท้อนก็คือ “คุณภาพรถไม่ดี” แม้ปัญหานั้นอาจเป็นเพียงเรื่องของซอฟต์แวร์ก็ตาม
ในอดีตผู้ผลิตรถยนต์แข่งกันที่พละกำลัง แรงบิด ความทนทาน หรือความประหยัดน้ำมัน แต่ปัจจุบัน สงครามอยู่ที่ประสบการณ์ดิจิทัล การออกแบบระบบอินโฟเทนเมนท์ที่ดีต้องคำนึงถึง UX/UI, การตอบสนองรวดเร็ว, รองรับระบบปฏิบัติการใหม่ ๆ ของมือถือ และมีอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง
รถบางค่ายเริ่มหันมาใช้ระบบปฏิบัติการ Android Automotive ที่ฝังในรถโดยตรง ไม่ต้องพึ่งสมาร์ตโฟนข้างนอก หรือบางค่ายใช้ OTA (Over-the-Air Update) เพื่อแก้บั๊กหรือเพิ่มฟีเจอร์ใหม่แบบไม่ต้องเข้าศูนย์ฯ
ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต ระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์ได้กลายเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างคนกับรถ และเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดประสบการณ์ผู้ใช้ที่ชัดเจนที่สุด ผู้ผลิตที่มองข้ามจุดนี้ กำลังเสี่ยงที่จะสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้า และพลาดโอกาสในการแข่งขันกับแบรนด์หน้าใหม่ที่พัฒนาเทคโนโลยีเร็วกว่า