Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์คืออะไร? ทำไมถึงกลายเป็นจุดอ่อนในรถรุ่นใหม่

ระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์คืออะไร? ทำไมถึงกลายเป็นจุดอ่อนในรถรุ่นใหม่

28 เม.ย. 68
16:00 น.
แชร์

หากพูดถึงหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รถยนต์ยุคใหม่ให้ความสำคัญมากที่สุด ระบบอินโฟเทนเมนท์ (Infotainment System) คือหัวใจหลักที่หลายคนคาดหวังว่าจะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สะดวก สนุก และปลอดภัยยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ระบบนี้กลับกลายเป็นแหล่งรวมปัญหาหลักในรถใหม่หลายรุ่น โดยเฉพาะในผลการศึกษาของ J.D. Power ที่พบว่า "ระบบอินโฟเทนเมนท์" เป็นหมวดที่พบปัญหามากที่สุดในกลุ่มเจ้าของรถยนต์ในประเทศไทยปี 2568

คำถามสำคัญคือ...ระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์คืออะไร และทำไมมันถึงเป็นจุดอ่อนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้?

ระบบอินโฟเทนเมนท์คืออะไร?

คำว่า อินโฟเทนเมนท์ (Infotainment) มาจากการรวมคำสองคำคือ Information (ข้อมูล) และ Entertainment (ความบันเทิง) ระบบนี้คือศูนย์รวมการจัดการข้อมูลและความบันเทิงภายในรถยนต์ โดยมักแสดงผลผ่านหน้าจอสัมผัสกลางคอนโซล มีฟังก์ชันมากมายที่เชื่อมต่อทั้งภายในและภายนอกรถ เช่น:

  • ระบบนำทาง (Navigation System) ที่แสดงแผนที่แบบเรียลไทม์
  • การเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน (Smartphone Integration) เช่น Apple CarPlay, Android Auto
  • ระบบโทรศัพท์และบลูทูธ (Hands-Free Bluetooth Calling)
  • เครื่องเสียง (Audio Player) ที่เชื่อมต่อเพลงจาก USB, Bluetooth หรือแอปสตรีมมิง
  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง (Voice Command)
  • หน้าจอแสดงข้อมูลรถ (Vehicle Info Display) เช่น ระดับน้ำมัน การแจ้งเตือนระบบต่าง ๆ

ทำไมอินโฟเทนเมนท์ถึงเป็นปัญหาใหญ่ในรถรุ่นใหม่?

แม้จะดูเหมือนระบบที่ควรจะช่วยให้การขับขี่ดีขึ้น แต่การออกแบบที่ไม่เข้าใจผู้ใช้งานจริง กลับกลายเป็นต้นตอของปัญหา โดยเฉพาะในประเด็นเหล่านี้

  • การเชื่อมต่อบลูทูธไม่เสถียร ผู้ใช้หลายรายรายงานว่าโทรศัพท์เชื่อมต่อยาก หรือหลุดการเชื่อมต่อเองขณะใช้งาน
  • ระบบ Apple CarPlay/Android Auto ไม่เสถียร ฟีเจอร์นี้แม้จะเป็นจุดขายสำคัญ แต่หลายรุ่นกลับมีปัญหาการโหลดแอปช้า หรือใช้งานแล้วเครื่องค้าง
  • ช่องชาร์จไฟไม่พอ หรือชาร์จช้าเกินไป ในยุคที่ทุกคนใช้สมาร์ตโฟนตลอดเวลา ช่อง USB น้อย หรือไม่มีระบบชาร์จเร็ว กลายเป็นจุดอ่อนที่กระทบชีวิตประจำวัน
  • หน้าจอสัมผัสตอบสนองช้า ทำให้ต้องละสายตาจากถนนเพื่อกดหลายครั้ง เพิ่มความเสี่ยงอุบัติเหตุ
  • ซอฟต์แวร์ไม่เสถียร บางระบบเกิดอาการค้าง รีเซตเอง หรือบู๊ตช้าทุกครั้งที่สตาร์ตรถ

ระบบอินโฟเทนเมนท์กับความคาดหวังของผู้ใช้ยุคใหม่

พฤติกรรมของผู้ใช้รถในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเมื่อสิบปีก่อนอย่างมาก สมาร์ตโฟนกลายเป็นอุปกรณ์หลักที่อยู่ติดตัว 24 ชั่วโมง และผู้ใช้คาดหวังว่าการเชื่อมต่อระหว่างรถกับมือถือควร “ไร้รอยต่อ” พอขึ้นรถปุ๊บ ต้องพร้อมใช้งานทันที ทั้งนำทาง โทรศัพท์ ฟังเพลง หรือดูข้อความผ่านหน้าจอกลาง โดยไม่ต้องกดหลายขั้นตอน

เมื่อประสบการณ์ใช้งานไม่ตอบโจทย์ สิ่งแรกที่ผู้ใช้จะสะท้อนก็คือ “คุณภาพรถไม่ดี” แม้ปัญหานั้นอาจเป็นเพียงเรื่องของซอฟต์แวร์ก็ตาม

อินโฟเทนเมนท์ สงครามใหม่ของผู้ผลิตรถยนต์

ในอดีตผู้ผลิตรถยนต์แข่งกันที่พละกำลัง แรงบิด ความทนทาน หรือความประหยัดน้ำมัน แต่ปัจจุบัน สงครามอยู่ที่ประสบการณ์ดิจิทัล การออกแบบระบบอินโฟเทนเมนท์ที่ดีต้องคำนึงถึง UX/UI, การตอบสนองรวดเร็ว, รองรับระบบปฏิบัติการใหม่ ๆ ของมือถือ และมีอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง

รถบางค่ายเริ่มหันมาใช้ระบบปฏิบัติการ Android Automotive ที่ฝังในรถโดยตรง ไม่ต้องพึ่งสมาร์ตโฟนข้างนอก หรือบางค่ายใช้ OTA (Over-the-Air Update) เพื่อแก้บั๊กหรือเพิ่มฟีเจอร์ใหม่แบบไม่ต้องเข้าศูนย์ฯ

ระบบอินโฟเทนเมนท์ไม่ใช่แค่เรื่อง "บันเทิง" อีกต่อไป

ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต ระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์ได้กลายเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างคนกับรถ และเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดประสบการณ์ผู้ใช้ที่ชัดเจนที่สุด ผู้ผลิตที่มองข้ามจุดนี้ กำลังเสี่ยงที่จะสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้า และพลาดโอกาสในการแข่งขันกับแบรนด์หน้าใหม่ที่พัฒนาเทคโนโลยีเร็วกว่า

แชร์
ระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์คืออะไร? ทำไมถึงกลายเป็นจุดอ่อนในรถรุ่นใหม่