Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ศึกกลางปี! เทียบ C-SUV รุ่นฮอต 2025 ใครคุ้ม ใครครบ ใครควรเผลอใจหลงรัก?

ศึกกลางปี! เทียบ C-SUV รุ่นฮอต 2025 ใครคุ้ม ใครครบ ใครควรเผลอใจหลงรัก?

29 เม.ย. 68
10:00 น.
แชร์

ตลาดรถยนต์ C-SUV ในประเทศไทยปี 2025 เต็มไปด้วยตัวเลือกที่หลากหลายและน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นรถที่เน้นความคุ้มค่า เทคโนโลยีล้ำสมัย หรือดีไซน์ที่โดดเด่น ในบทความนี้จะพาไปดู 5 รุ่นฮอตที่ได้รับความนิยมในช่วงกลางปีนี้ พร้อมเปรียบเทียบจุดเด่นและจุดด้อยของแต่ละรุ่น เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

1. Honda HR-V e:HEV

Honda HR-V e:HEV คือรถอเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริดภายใต้เทคโนโลยี e:HEV ซึ่งเป็นระบบ Full Hybrid ที่ฮอนด้าพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สมรรถนะการขับขี่ดีขึ้น ควบคู่กับการประหยัดน้ำมันและลดมลภาวะ โดย e:HEV จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ขณะที่เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ทำหน้าที่ชาร์จไฟให้แบตเตอรี่และช่วยเสริมกำลังในบางช่วง

ตัวรถมีดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ตและทันสมัยมากขึ้นจากเจเนอเรชันก่อน ด้วยเส้นสายตัวถังที่คมชัด กระจังหน้าแบบรังผึ้งแนวนอนพร้อมไฟหน้า LED เต็มระบบ ภายในตกแต่งด้วยวัสดุแบบ soft-touch และมีการจัดวางอุปกรณ์อย่างเป็นระเบียบ ใช้งานง่าย พร้อมหน้าจอสัมผัสกลางสำหรับระบบอินโฟเทนเมนท์ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

ด้านความปลอดภัย Honda HR-V e:HEV มากับแพ็กเกจ Honda SENSING ที่รวมระบบช่วยขับอัตโนมัติต่าง ๆ เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติ, ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ และระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน

โดยรวมแล้ว Honda HR-V e:HEV เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่มองหารถครอสโอเวอร์ขนาดพอเหมาะ ใช้งานในเมืองสะดวก ประหยัดน้ำมัน พร้อมเทคโนโลยีไฮบริดที่ขับขี่ง่าย ไม่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จ และมีฟีเจอร์ความปลอดภัยจัดเต็มตามสไตล์ฮอนด้ายุคใหม่

จุดเด่น

  • ระบบไฮบริดประหยัดพลังงาน ขับสนุก
  • Honda SENSING ให้ความปลอดภัยครบ
  • เหมาะสำหรับคนที่อยากประหยัดระยะยาว + เทคโนโลยีล้ำ

ข้อเสีย

  • สมรรถนะโดยรวมไม่แรงมาก
  • ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับพละกำลัง

เหมาะกับคนที่เดินทางประจำ ต้องการความประหยัด + เทคโนโลยี

2. Mazda CX-30

Mazda CX-30 คือรถยนต์แบบครอสโอเวอร์เอสยูวีขนาดกะทัดรัด ที่อยู่ระหว่าง Mazda CX-3 และ Mazda CX-5 ทั้งในแง่ขนาดตัวถังและราคา โดยถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ Mazda3 เจเนอเรชันใหม่ ทำให้ได้สมรรถนะการขับขี่ที่ใกล้เคียงกับรถยนต์นั่ง แต่มีความเอนกประสงค์และพื้นที่ใช้งานแบบรถ SUV

ตัวรถเน้นดีไซน์แบบ Kodo Design ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Mazda ในยุคใหม่ เน้นเส้นสายที่ดูเรียบแต่แฝงพลัง มีความโฉบเฉี่ยวแต่ดูหรูหรา ภายในห้องโดยสารออกแบบแบบมินิมอล ใช้วัสดุคุณภาพสูงและจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างพิถีพิถัน ทำให้รู้สึกได้ถึงความพรีเมียมแม้จะเป็นรถในระดับ compact

Mazda CX-30 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังประมาณ 165 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แบบไม่มีระบบไฮบริดหรือปลั๊กอิน ระบบขับเคลื่อนส่วนใหญ่เป็นแบบล้อหน้า (FWD) แต่ในบางประเทศมีเวอร์ชัน AWD ให้เลือกด้วย

จุดเด่นของรถรุ่นนี้คือการควบคุมที่แม่นยำและให้ฟีลลิ่งการขับขี่ที่คล่องตัว ตอบสนองได้ดีทั้งในเมืองและทางไกล เสริมด้วยระบบ G-Vectoring Control Plus ที่ช่วยเพิ่มความนิ่งให้กับตัวรถขณะเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลน

ระบบความปลอดภัยก็ติดตั้งมาให้ครบถ้วน ทั้งระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเตือนมุมอับสายตา และกล้องมองรอบคัน ในบางรุ่นย่อยจะมาพร้อมระบบ Mazda i-Activsense ซึ่งเป็นชุดช่วยขับอัตโนมัติของแบรนด์

Mazda CX-30 จึงเหมาะกับผู้ที่มองหารถ SUV ที่ไม่ใหญ่เกินไป ขับขี่สนุก ให้ความรู้สึกพรีเมียมทั้งด้านดีไซน์และวัสดุ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ระบบไฮบริดหรือระบบไฟฟ้า เป็นรถที่ให้ความสมดุลระหว่างความสปอร์ต ความหรู และความเอนกประสงค์ในคันเดียว

จุดเด่น

  • ขับมันส์ เครื่องยนต์ 2.0 Skyactiv-G
  • ภายในหรูหรา เบาะนั่งสบาย
  • i-Activsense ครบครันเรื่องความปลอดภัย

ข้อเสีย

  • ห้องเก็บสัมภาระเล็กกว่าคู่แข่ง
  • ไม่มีรุ่นไฮบริด

เหมาะกับคนเมืองที่ต้องการสไตล์ + สมรรถนะ + ความพรีเมียม

3. Toyota Corolla Cross

Toyota Corolla Cross คือรถอเนกประสงค์แบบ SUV ขนาดคอมแพกต์ ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากพื้นฐานเดียวกับ Toyota Corolla แต่ปรับให้มีความสูง โปร่ง และใช้งานได้อเนกประสงค์มากขึ้น ตัวรถมีการออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งในเมืองและเดินทางไกล รองรับการใช้งานของครอบครัวหรือผู้ที่ต้องการพื้นที่เก็บสัมภาระมากขึ้นจากรถเก๋งทั่วไป

รุ่นนี้มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 1.8 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยระบบไฮบริดของ Toyota ถือเป็นจุดเด่นด้านความประหยัดเชื้อเพลิงและความนุ่มนวลในการขับขี่ เครื่องยนต์ตอบสนองดีแม้ในการใช้งานในเมืองหรือช่วงเร่งแซง

ตัวรถมาพร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ซึ่งรวมเทคโนโลยีช่วยขับขี่อย่างระบบเตือนการชนพร้อมเบรกอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบช่วยให้อยู่ในเลน และระบบไฟสูงอัตโนมัติ

การออกแบบภายนอกของ Corolla Cross เน้นความทันสมัย ดูแข็งแรงและมีความเป็น SUV อย่างชัดเจน ไฟหน้า LED กระจังหน้าขนาดใหญ่และกันชนทรงหนาให้ภาพลักษณ์ที่แข็งแรง ส่วนภายในห้องโดยสารออกแบบให้ใช้งานง่าย เบาะนั่งกว้าง รองรับการโดยสารทั้งแถวหน้าและหลังได้ดี

Toyota Corolla Cross จึงเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถ SUV ขนาดไม่ใหญ่เกินไป มีชื่อเสียงด้านความทนทาน ประหยัดน้ำมัน ขับขี่ง่าย และมีความครบเครื่องทั้งในแง่ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความคุ้มค่าในการใช้งานระยะยาว

จุดเด่น

  • ชื่อเสียงความทนทาน + การซ่อมบำรุงง่าย
  • Toyota Safety Sense + ความสะดวกสบาย
  • เหมาะทั้งครอบครัวและผู้สูงวัย

ข้อเสีย

  • ดีไซน์อาจดู “ไม่หวือหวา”
  • อัตราเร่งกลางๆ ไม่ดึงใจสายขับแรง

เหมาะกับคนที่ต้องการรถเน้นใช้งานยาวๆ ไม่จุกจิก

4. MG ZS

MG ZS คือรถยนต์อเนกประสงค์แบบ SUV ขนาดซับคอมแพกต์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานในเมืองเป็นหลัก ด้วยขนาดที่กะทัดรัด ขับขี่ง่าย พื้นที่ใช้สอยพอเหมาะ และมีราคาจับต้องได้ จุดเด่นของ MG ZS คือการให้ฟีเจอร์ที่ค่อนข้างครบครันเมื่อเทียบกับรถในระดับราคาใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีและความคุ้มค่า

ตัวรถมีดีไซน์ทันสมัย ทั้งกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม ไฟหน้า LED และเส้นสายตัวถังที่เน้นความโฉบเฉี่ยว ด้านในห้องโดยสารออกแบบสไตล์ยุโรป มาพร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนท์ระบบสัมผัสที่รองรับ Apple CarPlay (และในบางรุ่น Android Auto) รวมถึงระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย “i-SMART” ซึ่งเป็นฟีเจอร์เด่นของแบรนด์ MG ที่ให้ผู้ขับสามารถควบคุมระบบต่าง ๆ ของรถได้ผ่านเสียงหรือแอปพลิเคชัน

MG ZS มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบไม่มีระบบเทอร์โบ และรุ่นขับเคลื่อนไฟฟ้า 100% ในนาม MG ZS EV ซึ่งเป็นหนึ่งในรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรก ๆ ที่เข้ามาทำตลาดในไทยอย่างจริงจัง โดยรุ่น EV นี้จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว วิ่งได้ไกลกว่า 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ขึ้นอยู่กับรุ่นและการใช้งาน)

ด้านความปลอดภัย MG ZS มีระบบช่วยขับขี่พื้นฐานครบครัน เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา และกล้องมองรอบคัน 360 องศา

โดยรวม MG ZS เป็นรถที่เน้นความคุ้มค่า ฟีเจอร์ครบ ใช้งานง่าย มีตัวเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและไฟฟ้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถ SUV ไว้ใช้งานในเมืองหรือเป็นคันแรกในชีวิตที่มีความทันสมัยในราคาที่ไม่สูงนัก

จุดเด่น

  • ราคาคุ้มค่าที่สุดในกลุ่ม
  • ได้อุปกรณ์ทันสมัยเกินราคา เช่น จอ 10 นิ้ว, กล้อง 360°
  • รูปทรงสปอร์ต ทันสมัย

ข้อเสีย

  • สมรรถนะไม่แรง เครื่องยนต์เก่า (1.5L 114 แรงม้า)
  • ระบบเกียร์ 4AT ไม่ทันสมัย

เหมาะกับมือใหม่ งบน้อย แต่ชอบเทคโนโลยีทันสมัย

5. BYD Atto 3

BYD Atto 3 คือรถยนต์อเนกประสงค์แบบ SUV ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% จากแบรนด์ BYD ของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก รถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะตลาดทั่วโลก รวมถึงตลาดเมืองไทย โดยเน้นกลุ่มผู้ใช้งานที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากรถเครื่องยนต์สันดาปไปสู่รถ EV อย่างเต็มตัว

ตัวรถใช้แพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ได้การออกแบบที่มีประสิทธิภาพทั้งในด้านการจัดวางอุปกรณ์ภายในรถ ความสมดุลในการขับขี่ และความปลอดภัย แบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแบบ Blade Battery ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ BYD มีจุดเด่นที่ปลอดภัยสูงและทนทานกว่าระบบแบตเตอรี่ทั่วไป

BYD Atto 3 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง ส่งแรงบิดได้ทันทีเมื่อเหยียบคันเร่ง ทำให้รถตอบสนองได้รวดเร็ว มีอัตราเร่งที่ดี และขับขี่สนุก โดยในเวอร์ชันที่จำหน่ายในไทย สามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 400–480 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและมาตรฐานการวัด)

ภายในห้องโดยสารมีดีไซน์แปลกใหม่และโดดเด่น มีลูกเล่นการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากโลกกีฬาและฟิตเนส เช่น ที่เปิดประตูทรงดัมเบลล์, สายรัดคล้ายสายเครื่องออกกำลังกาย และการตกแต่งที่เน้นสีสันสดใส หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบหมุนได้ (หมุนเป็นแนวนอนหรือแนวตั้ง) และระบบเชื่อมต่อที่ทันสมัย เช่น รองรับ Apple CarPlay/Android Auto และแอปควบคุมรถจากมือถือ

ด้านระบบความปลอดภัย BYD Atto 3 ติดตั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะครบ เช่น ระบบเตือนการชนด้านหน้า, เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ, ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ และกล้องรอบคัน

โดยรวมแล้ว BYD Atto 3 เป็นรถ EV ที่มีดีไซน์สะดุดตา เทคโนโลยีล้ำหน้า วิ่งได้ไกล ฟีเจอร์ครบถ้วน เหมาะกับผู้ใช้งานยุคใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนสู่รถพลังงานไฟฟ้าอย่างมั่นใจในคุณภาพและความคุ้มค่า

จุดเด่น

  • รถยนต์ไฟฟ้า 100% แรงสุดในกลุ่ม
  • อัตราเร่งดีมาก แรงบิด 310 Nm
  • เทคโนโลยี ADAS ครบ ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม

ข้อเสีย

  • ความกังวลเรื่องสถานีชาร์จ + เครือข่ายศูนย์บริการ
  • ไม่เหมาะกับสายวิ่งทางไกลนอกเมืองบ่อย

เหมาะกับคนเมืองที่อยากเริ่มใช้ EV แต่ไม่อยากจ่ายแพง

ตารางเปรียบเทียบภาพรวม

รายการ

Honda HR-V e:HEV

Mazda CX-30

Toyota Corolla Cross

MG ZS

BYD Atto 3

ราคาเริ่มต้น (บาท)

979,000

989,000

1,099,000

659,900

799,900

ระบบขับเคลื่อน

AWD

FWD

FWD

FWD

FWD

ระบบส่งกำลัง

CVT

6AT

CVT

4AT

EV Single-Speed

พลังสูงสุด (แรงม้า)

131 (รวมมอเตอร์)

165

140

114

204

แรงบิดสูงสุด (Nm)

253

213

175

150

310

ระบบความปลอดภัยหลัก

Honda Sensing

i-Activsense

Toyota Safety Sense

ครบพื้นฐาน

ADAS เต็มระบบ

รูปลักษณ์/ดีไซน์

โมเดิร์น, สปอร์ต

หรู, เรียบหรู

เรียบง่าย, มั่นคง

ล้ำ, สปอร์ต

ล้ำ, จัดจ้าน

ใครเหมาะกับใคร?

รุ่นรถ

เหมาะกับคนที่...

Honda HR-V e:HEV

เดินทางบ่อย ประหยัดน้ำมัน เน้นเทคโนโลยี

Mazda CX-30

ชอบขับรถ รักดีไซน์ + ต้องการรถหรูในงบไม่เกินล้าน

Toyota Corolla Cross

ครอบครัว เน้นใช้งาน ทนทาน ประหยัด

MG ZS

งบจำกัด แต่ต้องการฟีเจอร์ครบ ใช้งานในเมือง

BYD Atto 3

สายเขียว EV เน้นแรง ประหยัดพลังงาน เทคโนฯล้ำ

แชร์
ศึกกลางปี! เทียบ C-SUV รุ่นฮอต 2025 ใครคุ้ม ใครครบ ใครควรเผลอใจหลงรัก?