อุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดแต่ก็ยากที่จะคาดเดา ผู้ใช้รถส่วนมากลดขั้นตอนความวุ่นวายด้วยการทำประกันอุบัติเหตุรายปีจบๆ ไป ถึงแม้จะดวงแตกเกิดอุบัติเหตุ แต่อย่างน้อยก็มีตัวกลางคอยประสานและดูแลขั้นตอนต่างๆ รวมถึงดูแลค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแทนเราได้ แน่นอนหากเหตุเกิดขึ้นบนถนนหนทางปกติก็คงไม่มีอะไรน่าตระหนกตกใจ เพราะการเรียกประกันภัยมาช่วยเคลียร์ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร
เกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน ประกันภัยเข้าไปช่วยเคลียร์ไม่ได้!
แต่รู้หรือไม่ว่า หากเหตุเกิดขึ้นบนทางด่วนหรือทางพิเศษบริษัทประกันไม่สามารถเข้ามาดำเนินการ ณ จุดเกิดเหตุได้! แล้วต้องทำอย่างไร? ลองนึกภาพบนทางด่วนที่เป็นเส้นทางที่รถยนต์ล้วนใช้ความเร็วสูงแทบทั้งสิ้น (ถ้ารถไม่ติดอ่ะนะ) แล้วมีเจ้าหน้าที่ประกันกับผู้เกิดเหตุยืนเคลียร์กันบนถนน แค่นึกก็หวาดเสียวแล้วนะครับ นั่นแหละคือสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ประกันภัยไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเคลียร์เหตุในพื้นที่พิเศษเหล่านั้น เพราะมันเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขึ้นมาได้นั่นเอง
ทำอย่างไร เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน
ดังนั้นเมื่อพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกเกิดเหตุการไม่คาดฝันสิ่งที่ควรทำคือ ใจเย็นๆ พยายามควบคุมรถเข้าข้างทางเป็นลำดับแรกเสียก่อน อีกหนึ่งจุดสำคัญคือห้ามลงจากรถโดยเด็ดขาด หลังจากรถจอดนิ่งสนิทให้ติดต่อหาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด่วน เป็นต้น เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นและฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
เบอร์โทรเหตุฉุกเฉินบนถนน
191 - แจ้งเหตุด่วน
1586 - สายด่วนมอเตอร์เวย์
1356 - ศูนย์ความปลอดภัยคมนาคม
1584 - กรมการขนส่งทางบก
1543 - ทางการพิเศษ
ติดต่อเจ้าหน้าที่ประกันภัยตอนไหน?
หลังทำการติดต่อเจ้าหน้าที่เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือติดต่อเจ้าหน้าที่ประกันภัยรถยนต์เพื่อเล่าเหตุการณ์อย่างละเอียด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถขึ้นมาดำเนินการเองได้ ซึ่งเมื่อถึงขั้นตอนนี้ เราอาจได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ประกันให้ทำการถ่ายภาพหรือถ่ายคลิปที่เกิดเหตุ บางบริษัทฯ อาจสามารถ VDO Call เพื่อประสานงาน ณ จุดเกิดเหตุเลยโดยตรง แต่ที่สำคัญทุกอย่างต้องดำเนินการหลังจากมีเจ้าหน้าที่ทางด่วนหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง และทำการกั้นเขตป้องกันเหตุซ้ำซ้อนแล้วเท่านั้น ห้ามลงจากรถยนต์มาทำโดยพลการเด็ดขาด
เกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน ต้องเจรจากันที่ไหน
หลังทำตามขั้นตอนเรียบร้อยให้นัดคู่กรณีไปเจรจากันที่สถานีตำรวจท้องที่ หรือสถานีตำรวจของทางด่วนบริเวณจุดขึ้นลงก็ได้เช่นกัน ในกรณีที่รถไม่สามารถขับเคลื่อนได้ เจ้าหน้าที่ที่มาดูแลจะประสานงานนำรถยกมาเคลื่อนย้ายต่อไป
หวังว่าบทความนี้จะเป็นข้อมูลดีๆ สำหรับใครที่อาจเจอเหตุร้ายๆ โดยไม่คาดคิดนะครับ โดยเฉพาะเหตุเกิดบนทางด่วนคงไม่มีใครเกิดเหตุกันบ่อยๆ นัก อาจทำให้ตกใจและทำอะไรไม่ถูก ลองทำตามขั้นตอนที่เล่ามา เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเองและเพื่อนร่วมทาง ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพในทุกเส้นทางครับ