ปีที่ผ่านมา รถยนต์เอสยูวี J7 ได้เผยโฉมสู่สายตาทุกคนทั่วโลก ในฐานะรถยนต์ออฟโรดระดับไฮเอนด์สุดยิ่งใหญ่ โดยมาเติมเต็มแบรนด์ JAECOO ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยสมรรถนะชั้นยอดมาพร้อมบริการระดับพรีเมี่ยม ทำให้ J7 ได้สร้างแรงกระเพื่อมให้กับวงการรถยนต์ออฟโรดในหลายตลาดทั่วโลก
สำหรับปีนี้ JAECOO ยังคงมุ่งทะยานสู่เป้าหมายของการเป็นรถยนต์ออฟโรดสุดลักชูรี ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองรถยนต์ระดับพรีเมียม โดยยึดมั่นในปรัชญาของแบรนด์ “From Classic, Beyond Classic” ซึ่งรถยนต์ JAECOO ยกระดับคุณค่าของผลิตภัณฑ์ผ่านความเป็น “ออฟโรด” ผสานกัน “เทคโนโลยียานยนต์ฉัจฉริยะ” รวมถึงโมเมนตัมของแบรนด์ที่ไม่เกรงกลัวใคร เพื่อขยายธุรกิจในตลาดยานยนต์ออฟโรดระดับโลกอย่างเข้มข้นต่อไป
JAECOO เดินหน้าขยายแบรนด์อย่างต่อเนื่องและมั่นคง กับการเปิดตัวรถยนต์ J7 พร้อมกับเปิดให้ทดลองขับขี่แบบเต็มสมรรถนะในหลายภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งกวาดคำชื่นชมจากผู้ขับขี่ไปไม่น้อย พร้อมยกให้เป็นรถยนต์ออฟโรดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีเสน่ห์ชั้นนำไม่เหมือนใคร
ในประเทศมาเลเซีย รถยนต์ JAECOO 7 ได้ถูกทดสอบสมรรถนะในสนามแข่งรถออฟโรด M4TREC อันโด่งดัง ผ่านการทดสอบสุดหินหลากหลายด่าน ทั้งการทดสอบความลาดเอียง (Roller slope) การทดสอบความยืดหยุ่นของระบบกันสะเทือน (Articulation test) ทดสอบการข้ามแนวสัน (Ridge crossing) ทดสอบการลงทางลาดชันอย่างลื่นไหล (Gentle descent on steep slopes) และการทดสอบลุยน้ำ (Water fording) ซึ่งทั้งหมดถูกทดสอบโดยผู้ขับขี่มืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในการขับเส้นทางวิบาก ซึ่งรถยนต์ JAECOO 7 ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามด้านสมรรถนะความเป็นรถยนต์ออฟโรด และการควบคุมรถที่โดดเด่น
นอกจากนี้ ในงานทดสอบขับขี่รอบพิเศษที่ประเทศซาอุดิอาระเบียและเม็กซิโก ผู้ร่วมงานได้ทดลองขับขี่รถยนต์ JAECOO7 บนเส้นทางออฟโรดในพื้นที่จริง ทั้งลุยน้ำในระดับต่ำ การขับขึ้นทางลาดชันสูง รวมไปถึงการขับขี่ในพื้นที่ขรุขระเป็นหลุม โดยรถยนต์ JAECOO7 สามารถสร้างประสบการณ์การขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยมไม่ว่าจะบนเส้นทางขรุขระหรือเส้นทางตรง มอบอิสระในการขับขี่แบบที่รถยนต์รุ่นอื่นเทียบได้ยาก
เห็นได้ชัดว่าการทำการตลาดที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของ JAECOO7 ไม่ว่าจะเป็นระบบออฟโรดอัจฉริยะ ARDIS (All Road Drive Intelligent System) ที่ถูกเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีการขับขี่ออฟโรดแบบคลาสสิค ระบบความปลอดภัย 5 ดาวระดับโลก รวมไปถึงประสบการณ์การขับขี่และการใช้รถแบบอัจฉริยะในห้องโดยสารของผู้ขับขี่ สิ่งเหล่านี้ช่วยทำให้สมรรถนะอันโดดเด่นของ JAECOO7 ในฐาะนะรถยนต์ออฟโรดถูกยกระดับให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นไปอีก
หลังจากที่ได้จัดกิจกรรมทดลองขับ JAECOO 7 ในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก JAECOO ยังเดินหน้าเปิดศูนย์บริการและดีลเลอร์ทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นที่นวัตกรรมที่สร้างประสบการณ์แก่ลูกค้า เพื่อสร้างช่องทางในการให้บริการต่างๆ อย่างเป็นระบบ ในแต่ละตลาดท้องถิ่น พร้อมขยายธุรกดจิให้ครอบคลุมทั่วโลก
ในการประชุมคู่ค้าที่ประเทศมาเลเซีย มีตัวแทนจำหน่าย JAECOO ในท้องถิ่นมากกว่า 50 ราย เข้าร่วมกิจกรรม โดยในงานได้มีการจัดแสดงรถยนต์ JAECOO 7 และ JAECOO 8 พร้อมเปิดตัวเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในมาเลเซียเพิ่มเติมตามแผนการดำเนินธุรกิจ โดยตั้งเป้าว่าจะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายอีก 30 ราย ภายในปีนี้ พร้อมริเริ่มการสรรค์สร้างนวัตกรรมตลอดจนรูปแบบการให้บริการใหม่ๆ ร่วมกับคู่ค้า เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสู่ผู้บริโภคท้องถิ่น
ยิ่งไปกว่านั้น ในฟิลิปปินส์ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ (Memorandum of Cooperation) กับ DB Schenker บริษัทโลจิสติกส์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยทั้งสองฝ่ายจะบริหารจัดการทรัพยากรต่าง ๆ ร่วมกันและใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของทั้งคู่ ช่วยเสริมศักยภาพและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ขับขี่ชาวฟิลิปปินส์ รวมถึงการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศของโลจิสติกส์ด้านยานยนต์ให้ดีมากขึ้นไปอีก
การเข้าสู่ตลาดรถยนต์แต่ละประเทศของ JAECOO มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในช่องทางการให้บริการของแต่ละท้องถิ่น ตลอดจนการรวมรวมทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อช่วยเสริมสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะหรือเพิ่มศักยภาพการให้บริการ ทั้งหมดเพื่อให้แบรนด์ JAECOO เดินหน้าขยายธุรกิจในตลาดรถออฟโรดระดับโลก