เด็กชายชาวจีน วัยเพียง 4 ขวบ ต้องมาป่วยเป็นโรคร้าย "มะเร็งกระเพาะอาหาร" หมอสอบสวนโรคพบ ย่าของเด็กให้กินไข่ดิบทุกวัน เพราะเชื่อว่ากินแล้วแข็งแรง โตไว
เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า เด็กชายชาวจีน วัย 4 ขวบ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น "มะเร็งกระเพาะอาหาร" ซึ่งแพทย์คาดว่าเกิดจากการบริโภค "ไข่ดิบ" ทุกวัน
ตามรายงานระบุว่า นางหวัง คุณย่าของเด็ก มีความเชื่อฝังหัวว่าการรักษาแบบภูมิปัญญาชาวบ้านดีที่สุด โดยเธอเคยได้ยินมาว่า ไข่ดิบ สามารถเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่เด็ก กระตุ้นให้เด็กเติบโตอย่างรวดเร็ว นางหวัง เชื่อดังนั้นจึงป้อนไข่ดิบให้กับหลานชายวัย 4 ขวบทุกวัน โดยหวังว่าจะช่วยให้สุขภาพของเขาดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติด้วยเจตนาดีของเธอกลับกลายเป็นเรื่องน่าเศร้าเมื่อเด็กเริ่มรู้สึกไม่สบายท้อง เบื่ออาหาร และน้ำหนักลดอย่างมาก
นางหวัง พาหลานชายของเธอไปโรงพยาบาลด้วยความกังวลเกี่ยวกับอาการเหล่านี้ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น มะเร็งกระเพาะอาหาร ระยะเริ่มแรก
ความจริงนี้ทำเอา นางหวัง ช็อกและเสียใจอย่างมาก ไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์จะส่งผลเสียต่อหลานชายของเธออย่างร้ายแรง
แพทย์เตือนเธอเกี่ยวกับ อันตรายของไข่ดิบ โดยไข่ดิบมีแบคทีเรียซาลโมเนลลา ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง
อันตรายจากการกิน ไข่ดิบ
ข้อมูลจาก รพ.สมิติเวช อ้างอิงข้อมูลจาก องค์กรอาหารและยา โดยระบุว่า มีการค้นพบและคาดการณ์ว่ามีคนประมาณ 79,000 คนที่ป่วยเป็นโรคจากการทานอาหาร และ 30 คนที่เสียชีวิตในแต่ละปี เนื่องมาจากการรับประทานไข่ที่มีสารปนเปื้อนด้วยเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ ซาลโมเนลลา (Salmonella) ที่มีอยู่ในไข่ดิบ เนื่องมาจาก แม่ไก่บางตัวมีเชื้อ Salmonella typhimurium และ Salmonella enteritidis อยู่ในอวัยวะสืบพันธุ์
และข้อมูลด้านสุขภาพ อ้างอิง รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า การรับประทานไข่ดิบปริมาณมากอย่างต่อเนื่องทุกวัน อาจทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหารไบโอติน (biotin) เนื่องจากโปรตีนในไข่ขาวดิบจะขัดขวางการดูดซึมสารดังกล่าว ส่งผลต่อการมองเห็น การทำงานของระบบประสาทและอาจทำให้มีผิวหนังและเล็บผิดปกติได้
เพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว ควรรับประทานไข่ที่สะอาด และปรุงสุก เท่านั้น