คนไทยอายุน้อยกว่า 50 ปี เป็นมะเร็งมากกว่าค่าเฉลี่ยโลก 2 เท่า เผย 5 ปัจจัยกระตุ้นเป็นโรคร้าย
หมอเจด นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ให้ความรู้ด้านสุขภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเผยว่า คนไทยอายุน้อยกว่า 50 ปี เป็นมะเร็งมากกว่าทั่วโลก 2 เท่า เพราะอะไรมาฟังกัน
"เคยคิดกันไหมว่าทำไมเดี๋ยวนี้เราถึงได้ยินข่าวคนอายุน้อย ๆ เป็นมะเร็งกันเยอะขึ้น ซึ่งอันนี้ไม่ใช่แค่รู้สึกไปเองนะ จากข้อมูลของ Our World in Data ในปี 2021
พบว่า คนไทยอายุต่ำกว่า 50 ปีเป็นมะเร็งมากกว่าค่าเฉลี่ยของโลกถึง 2 เท่า ! อันนี้นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย เพราะแต่ก่อนเราอาจจะคิดว่ามะเร็งเป็นเรื่องของคนอายุเยอะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันกำลังกลายเป็นโรคของวัยรุ่นและวัยทำงานไปแล้ว
แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้น? อะไรคือปัจจัยที่ทำให้คนไทยเสี่ยงมากกว่าคนทั่วโลก? วันนี้มาดูกันครับว่า 5 ปัจจัยที่ทำให้คนไทยอายุน้อยเป็นมะเร็งกันเยอะขึ้นมีอะไรบ้าง
พูดถึงอาหารไทยแล้วมันน่าอร่อยใช่ไหม แต่อาหารที่เรากินกันทุกวันบางอย่างมี สารก่อมะเร็งแบบเน้น ๆ โดยที่เราอาจไม่รู้ตัว เช่น หมูปิ้ง ไก่ย่าง เนื้อย่าง หมูกระทะ อะไรพวกนี้ ถ้ามีรอยไหม้เกรียมเมื่อไหร่ ให้รู้ไว้เลยว่ามีสาร PAHs (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons) ที่ก่อให้เกิดมะเร็ง
ไม่ใช่แค่นั้นนะ อาหารหมักดองที่คนไทยชอบ เช่น แหนม ปลาร้า ไส้กรอกอีสาน ล้วนมี ไนเตรต ไนไตรต์ ซึ่งเป็นสารกันเสียที่แปรสภาพเป็นสารก่อมะเร็งในร่างกาย นอกจากนี้ ปลาร้าและอาหารหมักดองยังมี สารอะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของมะเร็งตับ
แล้วจะแก้ยังไงดี ?
• ถ้าจะกินปิ้งย่างให้เลือกที่ไม่ไหม้เกรียม หรือเลี่ยงไปเลย
• ลดอาหารหมักดอง และถ้าจะกินก็เลือกที่สะอาด ไม่ใส่สารกันเสียมาก
• กินผักผลไม้เยอะๆ เพื่อช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกาย
ถ้าใครอยู่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ หรือเมืองใหญ่ๆ ต้องเจอกับปัญหา PM2.5 กันบ่อยๆ นะ ซึ่งมันไม่ได้มีผลแค่ทำให้เป็นภูมิแพ้หรือหายใจลำบาก
แต่ องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้ PM2.5 เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม 1 คือมันเล็กพอที่จะเข้าไปในปอดและเลือดเรา แล้วไปกระตุ้นให้เซลล์กลายพันธุ์
นอกจากนี้เรายังต้องเจอกับ สารเคมีจากยาฆ่าแมลงที่ตกค้างในผักผลไม้ และ โลหะหนักในอาหารทะเล เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งพวกนี้จะสะสมในร่างกายเราไปเรื่อยๆ และไปทำลายเซลล์จนกลายเป็นมะเร็ง
• ใส่หน้ากากกันฝุ่นเวลามี PM2.5 สูง ๆ
• ล้างผักผลไม้ให้สะอาด หรือเลือกแบบออร์แกนิกถ้าทำได้
• ถ้ากินอาหารทะเล ควรเลือกจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
คนยุคนี้ใช้ชีวิตหนักขึ้น ทำงานดึก พักผ่อนน้อย กินอะไรง่ายๆ ความเครียดสะสมเป็นตัวเร่งให้เซลล์ผิดปกติ เพราะไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิด ออกซิเดชัน (Oxidative stress) ซึ่งเป็นภาวะที่อนุมูลอิสระทำลายเซลล์
นอกจากนี้ พฤติกรรมดื่มหนัก สูบบุหรี่ หรือแม้แต่ดื่มน้ำไม่พอ ก็ส่งผลโดยตรงต่อการเกิดมะเร็ง เช่น
• แอลกอฮอล์ เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งตับ และมะเร็งทางเดินอาหาร
• บุหรี่ มีสารก่อมะเร็งกว่า 70 ชนิด และทำให้เป็นมะเร็งปอด ช่องปาก และหลอดอาหาร
• น้ำน้อย ทำให้ของเสียตกค้างในร่างกาย เสี่ยงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะและไต
พยายามลดความเครียด นอนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ และหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรหาวิธีดูแลตัวเอง
ถ้าพ่อแม่หรือญาติใกล้ชิดเคยเป็นมะเร็งมาก่อน โอกาสที่เราจะเป็นมะเร็งก็สูงกว่าคนทั่วไป ยีนบางตัวมีผลทำให้ร่างกายของเรามีแนวโน้มที่จะกลายพันธุ์และเกิดมะเร็งได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น
• ยีน BRCA1 และ BRCA2 ที่เพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งเต้านมและรังไข่
• ยีนที่เกี่ยวกับการเผาผลาญสารพิษ ทำให้บางคนไวต่อสารก่อมะเร็งมากกว่าคนอื่น
• ถ้ามีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ
• ออกกำลังกาย และกินอาหารที่ช่วยลดความเสี่ยง เช่น ผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
มะเร็งบางชนิดไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่มาจาก การติดเชื้อเรื้อรัง เช่น
• ไวรัส HPV ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ช่องปาก และลำคอ
• ไวรัสตับอักเสบบี และ ซี เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งตับ
• แบคทีเรีย H. pylori ทำให้เกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร
• ฉีดวัคซีนป้องกัน HPV และไวรัสตับอักเสบบี
• ใช้ถุงยางอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV
• ตรวจสุขภาพและหาเชื้อ H. pylori หากมีอาการปวดท้องเรื้อรัง
ถึงคนไทยจะเป็นมะเร็งกันเยอะ และมะเร็งจะฟังดูน่ากลัว แต่เราป้องกันได้ถ้ารู้จักดูแลตัวเอง เริ่มจากอาหาร ไลฟ์สไตล์ และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ไม่ต้องรอให้ร่างกายส่งสัญญาณเตือน เพราะมะเร็งส่วนใหญ่เมื่อรู้ตัวแล้วมักจะสายไป แค่ดูแลตัวเองวันนี้ ลดความเสี่ยงไปได้มากแล้วนะครับ
อัตราส่วนประชากรที่เป็นมะเร็ง แบ่งตามอายุ ในปี 2021 เปรียบเทียบระหว่าง ทั่วโลก (World), เอเชีย (Asia), และประเทศไทย (Thailand) โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Our World in Data และ IHME (Global Burden of Disease 2024)
Cr. อ.ภาสกร
Advertisement