Golden Week ญี่ปุ่น เริ่มแล้ว! มือใหม่หัดเที่ยว ต้องเตรียมตัววางแผน

Golden Week ญี่ปุ่น เริ่มแล้ว! มือใหม่หัดเที่ยว ต้องเตรียมตัววางแผนให้ดี มีที่เที่ยวและกิจกรรมให้ทำเพียบ

Golden Week (โกลเด้นวีค) ในญี่ปุ่นก็คือ ช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน ที่สำคัญมากที่สุดช่วงหนึ่งของปี มักจะอยู่ในปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศดี เหมาะกับการท่องเที่ยว ทำให้คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับปี 2025 นี้ Golden Week จะอยู่ในช่วงวันอังคารที่ 29 เมษายน (วันโชวะ) ถึง วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม (วันเด็ก) โดยมีวันหยุดราชการ 4 วันหลัก ๆ ในช่วงนี้คือ

• 29 เมษายน: วันโชวะ (Showa no Hi) เป็นวันเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ (ฮิโรฮิโตะ) และเป็นวันที่ให้ระลึกถึงช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

• 3 พฤษภาคม: วันรัฐธรรมนูญ (Kenpo Kinenbi) เป็นวันรำลึกถึงการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งประเทศญี่ปุ่นในปี 1947

• 4 พฤษภาคม: วันสีเขียว (Midori no Hi) เป็นวันแห่งการขอบคุณธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

• 5 พฤษภาคม: วันเด็ก (Kodomo no Hi) เป็นวันเฉลิมฉลองเพื่อความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กผู้ชาย (เดิม) แต่ปัจจุบันถือเป็นวันสำหรับเด็กทุกคน

ทำไมถึงเรียกว่า Golden Week?

มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับที่มาของชื่อ แต่ทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือ ในช่วงทศวรรษ 1950 บริษัทภาพยนตร์ Daiei Film ใช้คำว่า "Golden Week" เพื่อโปรโมทภาพยนตร์ในช่วงวันหยุดยาวนี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่คนมีเวลาว่างและนิยมไปชมภาพยนตร์ ทำให้ภาพยนตร์ทำรายได้เป็น "ทอง" อีกทฤษฎีหนึ่งก็คือ เปรียบเทียบกับช่วงเวลา "Golden Time" ของรายการวิทยุ ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้ฟังมากที่สุด

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Golden Week

• สัปดาห์ทองเริ่มขึ้นในปี 1948 และได้กลายเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวพักผ่อนและการรวมตัวของครอบครัว

• เป็นช่วงที่มีการเดินทางท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุด ทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางกันมาก ทำให้ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และตั๋วรถไฟ (โดยเฉพาะชินคันเซ็น) มักจะเต็มและมีราคาสูง ควรจองล่วงหน้านาน ๆ

• บางร้านค้าและธุรกิจอาจปิดทำการโดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและในพื้นที่ชนบท

• บริษัทบางแห่งอาจเสนอวันหยุดเพิ่มเติมเพื่อให้มีช่วงวันหยุดยาวขึ้น ส่งผลให้บางปีมีวันหยุดยาวถึง 10 วัน

• เนื่องจากมีเทศกาล ขบวนพาเหรด และงานกิจกรรมต่างๆ มากมายเกิดขึ้น การวางแผนจึงเป็นสิ่งสำคัญ จัดตารางเวลาของคุณล่วงหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่พลาดสถานที่ท่องเที่ยวใดๆ

• ห้ามพลาดการเข้าร่วมพิธีกรรมแบบโบราณ เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงาม และลิ้มลองอาหารท้องถิ่น ใช้ช่วงเวลานี้ให้เป็นประโยชน์เพื่อสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอันหลากหลายและเทศกาลต่างๆ ของ Golden Week

กิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วง Golden Week

ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากเดินทางทั้งในและต่างประเทศ จุดหมายปลายทางยอดนิยม ได้แก่ โตเกียว เกียวโต โอซาก้า และรีสอร์ทน้ำพุร้อน นอกจากนี้ยังมีเทศกาลและงานกิจกรรมในท้องถิ่นต่างๆ จัดขึ้นในช่วงเวลานี้ ในช่วงสัปดาห์ทอง ผู้คนจำนวนมากยังใช้ประโยชน์จากอากาศที่เย็นสบายในฤดูใบไม้ผลิเพื่อไปเยี่ยมชมสวนสาธารณะ สวน และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ การเดินป่า ปิกนิก และชมดอกไม้ (ฮานามิ) เป็นที่นิยมอย่างมาก ในช่วงสัปดาห์ทอง การลดราคาและโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ มักเกิดขึ้น ทำให้เป็นช่วงเวลาที่นิยมช้อปปิ้งด้วยเช่นกัน

• การชมดอกซากุระในโทโฮคุ ฤดูดอกซากุระในญี่ปุ่นเริ่มต้นจากทางใต้และค่อยๆ เลื่อนขึ้นทางเหนือ ในช่วงสัปดาห์ทอง ยังคงมีดอกซากุระให้ชมมากมายในพื้นที่ทางตอนเหนือของโทโฮคุ ซากุระกำลังบานสะพรั่งอย่างสวยงาม ทั้งยังสามารถชมทิวทัศน์ของกำแพงหิมะขนาดยักษ์ไม่เหมือนใครได้อีกด้วย การได้เพลิดเพลินชมวิวซากุระอันสวยงามและกำแพงหิมะขนาดใหญ่นับเป็นเสน่ห์แห่งฤดูใบไม้ผลิที่หาชมได้เฉพาะในภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่นเท่านั้น

• เทศกาลโคอิโนะโบริหรือเทศกาลธงปลาคาร์ป วันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่ชาวญี่ปุ่นจะขอพรให้บุตรของตนเจริญเติบโตแข็งแรง โดยในวันเด็กจะมีธรรมเนียมการประดับตกแต่งบ้านเรือน และรับประทานขนมคะชิวะโมจิ (Kashiwa-mochi) นอกจากนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวยังมีการจัดงาน “เทศกาลธงปลาคาร์ป ทั่วทุกแห่งในญี่ปุ่นให้เราได้เพลิดเพลินกับสีสันอันสวยงามหลากหลายของธงปลาคาร์ฟกันอีกด้วย เป็นเทศกาลที่ไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่ง

• เยี่ยมชมสวนดอกไม้วิสทีเรียคาวาจิ ดอกวิสทีเรีย (Wisteria) หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า ดอกฟูจิ มีลักษณะเป็นดอกไม้เล็กๆ จำนวนมากรวมตัวกันเป็นพวงระย้าคล้ายผลองุ่น และเป็นดอกไม้ที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบมาแต่ครั้งโบราณ บานสะพรั่งเต็มที่หลังสิ้นสุดฤดูกาลของดอกซากุระในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม "อุโมงค์ดอกวิสทีเรีย" ที่สวนคาวาจิ ฟูจิ การ์เด้น (Kawachi Fuji Garden) ได้รับการแนะนำให้เป็นหนึ่งใน “10 สุดยอดสถานที่วิวสวยที่สุดในโลก” เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะได้เห็นภาพที่สวยงามมหัศจรรย์ไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นดอกวิสทีเรียทั้งหมด 22 สายพันธุ์ที่บานสะพรั่งเต็มพื้นที่กว้างใหญ่ขนาดถึง 10,000 ตารางเมตร อุโมงค์ดอกวิสทีเรียที่แน่นขนัดไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน โดมดอกวิสทีเรียขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นจากต้นวิสทีเรียเพียงต้นเดียว หรือจะเป็นระแนงต้นวิสทีเรียขนาดใหญ่ที่มีอายุกว่า 100 ปี ให้ได้เพลิดเพลินกับการเก็บภาพสวยๆ เป็นที่ระลึกท่ามกลางกลิ่นหอมหวานของดอกไม้

• เทศกาลฮากาตะ ดงทะคุ จัดขึ้นในวันที่ 3-4 พฤษภาคมของทุกปีในช่วงพีคของโกลเดนวีค ผู้คนนับหมื่นคนพากันแต่งชุดญี่ปุ่นดั้งเดิมสีสันสวยงามและออกมาเต้นรำไปตามถนนแห่งเมืองฟุกุโอกะ เทศกาลนี้ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1179 ในสมัยเฮอัน และต่อเนื่องมายาวนานกว่า 800 ปี เทศกาลนี้จัดขึ้นทั่วเมืองฟุกุโอกะ แต่เส้นทางแห่ขบวนจะเริ่มตั้งแต่สถานีโกฟุคุ-มาจิไปจนถึงสวนสาธารณะเทนจินเซ็นทรัลพาร์ก

• การตั้งแคมป์ริมทะเลสาบโมโตสุโกะ ทะเลสาบโมโตสุโกะ (Lake Motosuko) เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดและน้ำใสที่สุดในบรรดาทะเลสาบทั้งห้ารอบภูเขาฟูจิ ตั้งอยู่บนระดับความสูง 900 เมตร และจุดที่ลึกที่สุดมีความลึกถึง 121.6 เมตร จึงเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความงามมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินและช่างภาพมากมาย รวมถึงเป็นภาพที่นำมาใช้เป็นต้นแบบในการออกแบบธนบัตร 5,000 เยนในปี ค.ศ. 1984 และธนบัตร 1,000 เยน ในปี ค.ศ. 2004 สามารถมาทำกิจกรรมกลางแจ้งยอดนิยม เช่น ตั้งแคมป์ เดินป่า ตกปลา พายเรือ และกีฬาทางน้ำอื่นๆ สามารถเลือกได้ว่าต้องการพักในกระท่อมหรือกางเต็นท์เพื่อสัมผัสประสบการณ์การตั้งแคมป์แบบดั้งเดิม ขับรถเพียง 2-3 ชั่วโมงจากโตเกียวก็จะได้สัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบและสวยงาม

• การเดินป่าในคะมิโคจิ คะมิโคจิในจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการเดินป่าที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในด้านรีสอร์ทบนเนินเขาที่โดดเด่น เพลิดเพลินกับการเดินเล่น ถ่ายรูปไปกับธรรมชาติที่สวยงาม คะมิโคจิเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถมาเที่ยวได้ทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับและสามารถไปพักแรมโดยการตั้งแคมป์ตามจุดต่างๆ โดยมีจุดเด่นคือแหล่งน้ำพุร้อน คะมิโคจิอนเซ็น (Kamikochi Onsen) และ นะกะโนะยุอนเซ็น (Naka-no-Yu Onsen) หากพอมีเวลาแนะนำให้พักค้างแรมเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามยามพระอาทิตย์ขึ้นและตกด้วย เพราะมีแต่ผู้ที่พักค้างแรมเท่านั้นที่จะมีโอกาสเพลิดเพลินกับความเงียบสงบในยามค่ำคืน ดวงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับบนท้องฟ้า อากาศบริสุทธิ์บนความสูง 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทิวทัศน์งดงามท่ามกลางหมอกยามเช้า รวมถึงเสียงนกร้องอันไพเราะ

• เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะเป็นเส้นทางชมภูเขาระหว่างทาเตยามะ โทยามะ และโอมาจิ จังหวัดนางาโนะ เปิดใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 1971 มีความยาว 37 กิโลเมตร โดยมีความสูงต่างกันถึง 1,975 เมตร เส้นทางนี้ขึ้นชื่อในเรื่องทัศนียภาพที่สวยงามตระการตา และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในช่วงสัปดาห์ทอง

• เยี่ยมชมอามาโนะฮาชิดาเตะ Amanohashidate ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น (อีก 2 แห่ง ได้แก่ อ่าวมะทสึชิม่า เมืองเซ็นได จ.มิยางิ และ เกาะมิยะจิม่า จ.ฮิโระชิมะ) ที่นี่มีต้นสนราว 8,000 ต้นบนสันทราย ก่อให้เกิดภูมิทัศน์ทางธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเคเบิลคาร์ชมวิวทิวทัศน์ หรือนั่งเรือให้อาหารนกนางนวลและนกอินทรี เพลิดเพลินกับการอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ

• พักผ่อนที่คิโนะซะกิออนเซ็น คิโนะซะกิเป็นรีสอร์ทออนเซ็นที่มีประวัติยาวนานโดยตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะ เมืองนี้ล้อมรอบด้วยเทือกเขาและทะเล ที่นี่มีสิ่งที่น่าสนใจแตกต่างกันไปตามฤดู เช่น ดอกซากุระที่ผลิบานในฤดูใบไม้ผลิ งานดอกไม้ไฟในฤดูร้อน และหิมะในฤดูหนาว ห้ามพลาดเยี่ยมชมบ่อน้ำพุร้อนสาธารณะ 7 แห่ง สวมยูกาตะเดินเล่นในเมือง แวะขอพรและเที่ยววัดอนเซ็นจิต้นกำเนิดแห่งการเป็นเมืองน้ำพุร้อน

• เยี่ยมชมเกาะฮาจิโจจิมะ ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ความร้อนที่ให้ฤทธิ์เยียวยา และกระแสน้ำอุ่น รวมทั้งร่วมกิจกรรมผจญภัยดำน้ำตื้นในสรวงสวรรค์ริมทะเล พลาดไม่ได้กับการเปิดประสบการณ์ดำน้ำหรือดำน้ำตื้นเพื่อชมปลาเขตร้อนชื้น เดินไต่เขาเพื่อสัมผัสธรรมชาติบนเกาะแห่งนี้ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เกาะฮาจิโจ

ขอบคุณภาพจาก องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น