Maserati มาเซราติ จัดกิจกรรมพิเศษ ‘Made in Thunder’ เป็นโชว์ในบรรยากาศ การเปลี่ยนแปลงยุคความเป็นเอกลักษณ์ เป็นการโหมโรงของ ‘โฟลกอเร’ ยนตรกรรมสายพันธุ์ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% พร้อมนำพาค่ายตรีศูลสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
การแสดงเริ่มขึ้นช่วงเย็น ด้วยเสียงดนตรีจาก ดาร์ดัสท์ (Dardust) ศิลปินชื่อดัง ชาวอิตาเลียน ผู้ซึ่งคุ้นเคยกับค่ายตรีศูล เป็นการต้อนรับยุคใหม่ โฟลกอเร
จากนั้นนักแสดงสาวชาวอิตาเลียน มาทิลดา เด แองเจลิส (Matilda De Angelis) พร้อมกับนักวิทยาสตร์ ดาราศาสตร์ และนักสื่อสารชาวอิตาเลียนอีกท่านหนึ่งคือ เอ็ดวิดจ์ เพซซุลลี (Edwige Pezzulli) มาเป็นแขกพิเศษ ก็ได้ขึ้นบนเวทีเพื่อเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มจากการเล่าประวัติยุคแรกของแบรนด์ จนถึงในปีนี้ที่มีอายุครบ 110 ปี และมีประวัติความเป็นมา ซึ่งในวันเดียวกันนี้ ก็เป็นวันคล้ายวันเกิดของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี และเป็นวันเฉลิมฉลองผลิตภัณฑ์ที่ ‘ผลิตในอิตาลี’ (Made in Italy)
หลังจากทั้งสองท่านได้เล่าประวัติความเป็นมา ก็ได้เวลาเปิดตัวสู่สายตาทั่วโลก ‘มาเซราติ กรันคาบริโอ โฟลกอเร’ (GranCabrio Folgore) สปอร์ตเปิดประทุน ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ซึ่งผลิตในอิตาลีทั้งคัน
มาเซราติ กรันคาบริโอ โฟลกอเร หรูหรา สง่างาม สะกดสายตาด้วยบุคลิกรถสปอร์ต เป็นรถยนต์เปิดประทุน ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% รุ่นแรก ในเซกเมนท์ลักชัวรี่ ที่มากับสมรรถนะสูงต่อเนื่องจาก มาเซราติ เกรคาเล่ โฟลกอเร (Grecale Folgore) รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์รุ่นแรก ในประวัติศาสตร์ของค่ายตรีศูล ส่งผลให้ มาเซราติ มียนตรกรรมไฟฟ้าหลากหลายประเภท ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
จากนั้นเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ โดย มร. เคลาซ์ บุสซ์ (Klaus Busse) หัวหน้าฝ่ายออกแบบ มาเซราติ และ มร. ดาวิเด กราสโซ (Davide Grasso) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่ง มร. เคลาซ์ บุสซ์ ได้นำเสนอ มาเซราติ กรันคาบริโอ โฟลกอเร ตัวถังสีทองชมพู (Liquid Rose Gold) พร้อมกับหลังคาผ้าใบ สีเทา (Titan Grey) ห้องโดยสารโทนฟ้าและขาว (Denim and Ice) เย็บตะเข็บสีตัดกัน เป็นหนึ่งในจุดเด่น ของโปรแกรม มาเซราติ ฟูโอริเซรี (Maserati Fuoriserie) ให้ลูกค้ากำหนดรายละเอียดการตกแต่งได้ตามต้องการ และเทคโนโลยีจากรถแข่ง ฟอร์มูล่า อี ที่นำมาปรับใช้กับรถในสายการผลิต
หลังจากนั้น มร. ดาวิเด กราสโซ ได้ขึ้นมากล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติ ที่สละมาร่วมงานเพื่อเป็นสักขีพยาน ในการไปสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ก่อนจะกล่าวถึงช่วงเวลาหลายศตวรรษที่ผ่านมา ที่มีการผสานความโดดเด่นด้านศิลปะ เข้ากับวิทยาศาสตร์ได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของแบรนด์จากอิตาลี พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า “หากไม่มีอิตาลี ก็คงไม่มี มาเซราติ ซึ่งวันนี้ ได้เริ่มการเข้าสู่ยุคแห่งยนตรกรรมขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เต็มรูปแบบ”
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: มาเซราติ ประเทศไทย
เว็บไซต์: http://Thailand.Maserati.com/