กล้องหน้ารถ อุปกรณ์คู่ใจ แถมลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้สบาย

กล้องหน้ารถ (Dash Cam) เปรียบเสมือนกับตาวิเศษ ทำหน้าที่เป็นทั้งหลักฐาน เป็นทั้งเครื่องยืนยันว่าใครคือผู้กระทำ และใครเป็นผู้ถูกกระทำ และมันทำให้ช่วยลดปัญหาการถกเถียงที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงได้เป็นอย่างดี เรียกง่ายๆ ว่า ไม่ต้องเถียงกัน บริษัทประกันรถยนต์ก็ชื่นชอบ เปิดกล้องดูกันให้เห็นจะจะไปเลย ว่าใครกันนะที่เป็นฝ่ายผิด ซึ่งถ้าเป็นในอดีตยุคที่เรายังไม่มีกล้องหน้ารถ บางเหตุการณ์ซึ่งมีความก้ำกึ่งจนไม่อาจหาข้อสรุปได้ง่ายๆ ต้องยืนตากแดดตากฝนถกเถียงกันหาจุดจบไม่ได้ก็มีมาก ตัวแทนประกันรถยนต์แม้จะช่วยไกล่เกลี่ยได้ แต่บางครั้งก็ใช้เวลาหาทางลงกันจนเหงื่อตก เสียเวล่ำเวลากันไปเปล่าๆ เพราะฉะนั้นบริษัทประกันรถยนต์จึงสนับสนุนการติดตั้งกล้องหน้ารถ และยังมีส่วนลดเบี้ยให้อีกด้วย

เหตุผลที่ต้องติดกล้องหน้ารถ

สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน บางครั้งแทบไม่มีสติ ทำให้เสี้ยววินาทีที่เกิดเหตุการต่างๆ ขึ้น ทำให้ผู้อยู่ในเหตุการณ์แทบไม่ทันได้สังเกตุว่าอะไรเป็นอะไร หรือแม้กระทั่งในสถานการณ์ที่เราไม่ได้อยู่บนรถ กล้องหน้ารถบางรุ่นก็สามารถทำหน้าที่เป็นผู้เฝ้าระวัง และจับตามองเหตุการณ์รอบๆ รถแทนเราได้อีกด้วย

ภาพจากกล้องหน้ารถ สามารถใช้เป็นหลักฐานชั้นดีให้ รวมถึงเป็นประโยชน์กับประกันรถยนต์ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันปี 2024 เทคโนโลยีของกล้องหน้ารถมีพัฒนาการไปไกล ทั้งเรื่องความคมชัด ทั้งเรื่องความคงทนของตัวเครื่อง และด้วยราคาที่สามารถจับต้องได้ง่ายดาย การติดตั้งกล้องหน้ารถจึงถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ และยกให้เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นกว่าอุปกรณ์ตกแต่งรถ เรียกง่ายๆ ว่าควรยอมจ่ายเงินซื้อมันมาติดตั้งก่อนซื้ออุปกรณ์ตกแต่งนั่นเอง

แม้ว่าในหลังๆ รถใหม่ป้ายแดงหลายรุ่นนอกจากจะแถมประกันรถยนต์ในปีแรกมาให้ ก็มักจะมีโปรโมชันแถมกล้องหน้ารถมาให้จากทางฝ่ายขาย หรือบางรุ่นก็เป็นอุปกรณ์มาตรฐานติดมาจากโรงงานเลยก็มี แต่ก็ยังมีอีกไม่น้อยเช่นกันที่ยังไม่มีการติดตั้งกล้องบันทึกหน้ารถมาให้ หลังจากออกจากโชว์รูม หรือเต็นท์รถมือสองใดๆ ก็ตาม สิ่งแรกที่ควรจะทำอย่างยิ่ง คือหาร้านเข้าไปติดกล้องหน้ารถไว้บันทึกเหตุการณ์สำคัญจึงเป็นเรื่องที่เราควรตระหนักและกระทำเป็นอย่างยิ่ง

และอีกหนึ่งเหตุผลที่อาจเป็นเหมือนของแถมของการติดกล้องหน้ารถ ก็คือ การได้บันทึกเหตุการณ์การเดินทาง อาจเก็บไว้ดู หรือสำหรับเจ้าของรถเพื่อการพาณิชย์ที่มีการปล่อยเช่าให้กับผู้ขับขี่คนอื่น เราก็ยังสามารถใช้ตรวจสอบเส้นการการขับขี่ หรือลักษณะการขับขี่ได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้องรุ่นใหม่ๆ ที่ราคาสูงหน่อยยังได้มีการติดตั้ง GPS ในตัวทำให้สามารถระบุพิกัดของรถยนต์ได้แบบเรียลไทม์อีกต่างหาก บอกได้เลยว่ากล้องหน้ารถสมัยนี้ทำอะไรต่อมิอะไรได้หลากหลายฟังก์ชันเป็นอย่างมาก

อีกหนึ่งข้อดี ถ้าจะนับว่าเป็นประโยชน์ด้วยก็คงไม่ผิด นั่นก็คือเมื่อคนขับรถเห็นกล้องหน้ารถที่ติดตั้งอยู่ ก็เหมือนกับการเตือนสติว่า เรามีเครื่องบันทึกเหตุการณ์ติดตัวมาด้วย การจะทำอะไรที่มันสุ่มเสี่ยงก็อาจทำให้ได้ยั้งคิดมากขึ้น คงไม่มีใครอยากมีภาพหลักฐานตัวเองบนโลกโซเชียลสมัยดีแน่ๆ เพราะถ้าเกิดเป็นเหตุการณ์ไม่ทางไม่ดีละก็ มีหวังโดนถล่มจากชาวเน็ตกลายเป็นไวรัลพลิกชีวิตเอาง่ายๆ ดังนั้นการติดกล้องหน้ารถจึงดูจะมีความศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อยเลยในการช่วยระงับอารมร์ ช่วยเรียกสติให้อยู่กับเนื้อกับตัวนั่นเอง

กล้องหน้ารถช่วยลดค่าประกันรถยนต์ได้?

สำหรับผลประโยชน์ด้านเงินๆ ทองๆ ก็มีด้วยเช่นกัน รู้หรือไม่ว่าการติดตั้งกล้องหน้ารถสามารถใช้เป็นตัวช่วยในการลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ได้ เพราะการมีกล้องหน้ารถจะช่วยบันทึกเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐานได้อย่างชัดเจนที่สุด ซึ่งมันจะกลายเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการชี้ตัวผู้กระทำผิด รวมถึงทำให้การเคลมประกันรถยนต์ง่ายขึ้นและลดข้อโต้แย้งได้อีกด้วย ทำให้ทาง คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) จึงได้มีการออกคำสั่งในกาบังคับใช้ ให้บริษัทประกันปรับลดค่าเบี้ยลง สำหรับผู้ทำประกันรถยนต์ที่มีกล้องติดหน้ารถ เนื่องจากเล็งเห็นถึงข้อดีในการผลักดันให้ผู้ใช้รถบนท้องถนนได้ติดตั้งกล้องหน้ารถไว้ใช้งาน

ผู้ใช้รถที่มีการติดตั้งกล้องบันทึกหน้ารถจะสามารถได้รับส่วนลดในการซื้อประกันภัยรถยนต์ได้ที่ insurverse ได้ด้วยทางเว็บไซต์ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://insurverse.co.th/car-insurance/camera-reduce-insurance-fee/

เลือกกล้องหน้ารถแบบไหนดี

• ความละเอียดวิดีโอ ถือเป็นหัวใจสำคัญอันดับต้นๆ ของกล้องบันทึกหน้ารถ เพราะถ้ากล้องขาดความคมชัดจนมองไม่เห็นรายละเอียดใดๆ แล้วละก็ แทบจะไม่มีประโยชน์อันใดที่จะนำมาใช้เป็นหลักฐานได้เนื่องจากอาจไม่ระบุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงได้นั่นเอง กล้องหน้ารถที่ดีควรมีความละเอียดตั้งแต่ Full HD 1080 pixel ขึ้นไป เพื่อให้ภาพที่บันทึกออกมามีความคมชัด และสามารถมองเห็นรายละเอียดต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดแจ้งแดงแจ๋ ไม่ใช่ต้องมานั่งเดาเหตุการณ์ พาลไปต้องนั่งถกเถียงเพราะมองไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร อีกทั้งกล้องหน้ารถที่มีความละเอียดมากพอยังส่งผลต่อการมองเหตุรายละเอียดต่างๆ กับภาพการบันทึกยามค่ำคืนอีกด้วย
• ค่าการรับแสง เป็นรายละเอียดปลีกย่อย แต่ก็ถือว่าเป็นส่วนสำคัญไม่น้อยเช่นกัน เนื่องการการเดินทางเราไม่สามารถเลือกช่วงเวลาได้ตลอดเวลา บางครั้งอาจต้องเข้าไปในสถานที่แสงน้อย อย่างเช่น ในอุโมงค์ หรือตึกจอดรถต่างๆ ถ้ากล้องบันทึกหน้ารถไม่สามารถเก็บแสงได้ดีพอ ก็ย่อมทำให้ภาพที่ออกมามองไม่เห็นอะไรอยู่ดี รูรับแสงจะใช้ตัว F เป็นเหมือนสัญลักษณ์การบอกค่า ค่ายิ่งน้องทำกับรูรับแสงยิ่งกว่า ทำให้กล้องหน้ารถนั้นๆ จะสามารถบันทึกภาพได้ที่มืดได้ดีมากขึ้น ตัวอย่างเช่นกล้องหน้ารถที่มี F1.4 ก็จะสามารถถ่ายภาพวิดีโอออกมาได้สว่างและเห็นรายละเอียดของภาพในที่มืดได้ดีกว่ากล้องหน้ารถที่มี F2.8 นั่นเอง
• องศาของมุมกล้อง กล้องบันทึกหน้ารถมีองศาอยู่หลายรูปแบบ ซึ่งถ้าเลือกใช้แบบมุมที่กว้างจะยิ่งทำให้สามารถเห็นรายละเอียดที่ด้านข้างได้มากยิ่งขึ้น มีมุมอับที่น้อยลง แต่บางครั้งกล้องที่มุมกว้างมากๆ แต่คุณภาพไม่ดีอาจส่งผลต่อความคมชัดของภาพได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเลือกกล้องนอกจากมุมองศาที่ควรกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นได้แล้ว ก็ควรมองที่คุณภาพของไฟล์ด้วยเช่นกัน
• โปรแกรมการใช้งาน ในกล้องหน้ารถนอกจากจะทำหน้าที่บันทึกภาพได้แล้ว ก็ควรที่ต้องมีฟังก์ชันในการใช้งานเป็นตัวเสริมเพื่อให้การใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ ระบบถ่ายวิดีโอในที่มืด ระบบบันทึกภาพอัตโนมัติขณะปิดเครื่อง ระบบล็อกไฟล์เมื่อเกิดอุบัติเหตุป้องกันไฟล์สูญหาย เป็นต้น
• กล้องแบบมีแบตเตอรีหรือไม่มีแบตเตอรี มีข้อดีข้อเสียที่คนละแบบ กล้องแบบมีแบตเตอรีในตัวจะสามารถใช้งานได้แม้ไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์ บางรุ่นสามารถตั้งค่าให้กล้องเริ่มต้นถ่ายภาพอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุขณะปิดกล้อง ส่วนกล้องที่ไม่มีแบตเตอรีในตัวมีข้อดีคือไม่ต้องห่วงเรื่องความร้อน หรือแบตเตอรีที่อาจเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วในสภาวะอากาศที่ไม่เหมาะสม บ้างครั้งส่งผลให้กล้องหน้ารถค้างเลยก็เป็นได้

 

วิธีการติดตั้งกล้องหน้ารถ

ถ้าเราไม่สามารถนำรถไปติดตั้งกล้องบันทึกได้ที่หน้าร้าน และมีความจำเป็นต้องสั่งซื้อมาติดตั้งเอง บอกได้เลยว่ามันไม่ใช่เรื่องยากสักนิด เนื่องจากกล้องหน้ารถมีการออกแบบให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย และติดตั้งได้ไม่ยาก เพียงแต่ว่าหากต้องการติดตั้งให้เรียบร้อยสวยงามอาจต้องใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นสักหน่อย

ขั้นตอนแรก เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ไม่ว่าจะตัวกล้อง เมมโมรี ตัวยึดกระจก (อาจเป็นทั้งแบบดูดกระจก, หรือบางรุ่นเป็นแบบกาวสองหน้า) สายชาร์จ และอ่านคู่มือให้ละเอียดเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งาน

ขั้นตอนที่ 2 หาตำแหน่งที่จะติดตั้ง ควรอยู่บริเวณกึ่งกลางของกระจก และต้องไม่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ เมื่อได้จุดที่ต้องการแล้วก็ทำความสะอาดบริเวณกระจกหน้า หรือบางรุ่นมีกล้องหลัง ก็ทำความสะอาดบริเวณที่จะติดตั้งอุปกรณ์ให้สะอาดเรียบร้อย เพื่อการยึดเกาะที่ดีและทนทานที่สุด

ขั้นตอนที่ 3 เดินสายไฟ โดยไล่จากช่องชาร์จไฟ 12V หรือเรียกกันง่ายว่า “ที่จุดบุหรี่” แต่สมัยนี้รถรุ่นใหม่ไม่มีตัวจุดบุหรี่มาให้อีกแล้วนะครับ แต่เรายังคงเรียกันติดปาก จากจุดเริ่มต้นไล่สายไปมาเรื่อยๆ โดยซ่อนเข้าเข้าไปในบริเวณลิ้นชักเก็บของด้านหน้า อาจทำการเปิดลิ้นชักออกมาให้สุด แล้วเดินสายเจ้าไปด้านใน

ก่อนที่จะเดินสายต่อไปยังบริเวณเสา A หรือเสาหน้าของรถยนต์นั่นเอง เราสามารถแกะแผงพลาสติกของบริเวณเสา A ออกมาได้เลย รถใหม่อาจจะแน่นสักหน่อย แต่ค่อยงัดขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ก็สามารถถอดออกมาได้ไม่ยาก เมื่อถอดออกแล้วให้สอดสายไฟไล่ไปตามเสาจนเรียบร้อยแล้วค่อยปิดแผลพลาสติกกลับเข้าไปตามเดิม หลังจากนั้นเดินสายต่อมาพันไว้ตรงบริเวณก้านของกระจกมองหลัง ให้ได้ขนาดความยาวพอเหมาะที่จะสามารถเสียบต่อเข้าตัวกล้องได้ เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับวิธีการติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์ เท่านี้ก็พร้อมเปิดใช้งาน

กล้องหน้ารถรุ่นฮิตปี 2024

Xiaomi 70mai Dash Cam Pro (ราคาประมาณ 3,090-3,990 บาท)
กล้องหน้ารถแบรนด์ 70mai จาก Xiaomi มีจุดเด่นที่ความละเอียดสูง 2.7K และมีฟีเจอร์พิเศษ DeFog Algorithm ช่วยให้รถความเพี้ยนของภาพในยามอากาศแปรปรวน ตัวบอดี้มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และสามารถทำงานผ่าน Application ได้อีกด้วย

Morestech G1W-S Plus (ราคาประมาณ 1,800-1,950 บาท)
กล้องหน้ารถรุ่นนี้คือตำนานที่หลายคนรู้จักกันดี มีการปรับปรุงรุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง มีหน้าจอที่แสดงผลที่ด้านหลังกล้อง สามารถดูเหตุการณ์ได้แบบทันที ความละเอียดระดับ Full HD ใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX323 ทำให้สามารถถ่ายวิดีโอในที่แสดงน้อยได้เป็นอย่างดี และระบบที่สำคัญมากๆ คือ Smart G-Sensor ที่จะทำการล็อกไฟล์เกิดเหตุอัตโนมัติ ป้องกันการเซฟทับโดยไม่ตั้ง รวมถึงสามารถตรวจจับวัตถุเคลื่อนไหวทำให้กล้องสามารถบันทึกทุกเหตุการณ์แบบไม่คลาดสายตาในยามจอดรถเอาไว้เฉยๆ

DDPAI Mini Dash Cam 1080P (ราคาประมาณ 4,990-5,490 บาท)
เป็นกล้องหน้ารถอีกหนึ่งรุ่นที่มีฟีเจอร์ G-Sensor ทำให้หมดห่วงเรื่องไฟล์ถูกบันทึกทับหรือลบโดยไม่ตั้งใจ และยังเสริมด้วยระบบ WDR (Wide Dynamic Range) ช่วยให้แสงในคลิปวิดีโอมีความสมดุลมากขึ้น ส่วนจุดเด่นของกล้องรุ่นนี้คือการมีระบบ Wi-Fi ในตัวทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือและดูภาพผ่านหน้าจอโทรศัพท์ได้อย่างง่ายดาย และคมชัด รวมถึงทำงานผ่าน Application ได้อีกเช่นกัน สามารถแชร์วิดีโอร่วมกับผู้อื่นได้อย่างรวดเร็ว

สรุปการติดตั้งกล้องหน้ารถ

จะเห็นได้ว่าการติดตั้งกล้องหน้ารถเป็นเรื่องไม่ยากเลย ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้านอย่างแน่นอน แต่ผลประโยชน์ที่จะได้รับ ไม่ว่าจะการใช้เป็นพยานหลักฐานในยามเกิดเหตุเพื่อลดความขัดแย้งโต้เถียงที่บางครั้งอาจบานปลายไปไกลใหญ่โต ในบางสถานการณ์ยังช่วยเตือนสติให้ผู้ขับขี่ใจเย็นลงได้อีก และที่สำคัญ กล้องหน้ารถยังสามารถใช้เป็นส่วนลดพิเศษของเบี้ยประกันรถยนต์ได้อีกต่างหาก จากข้อดีทั้งหมดที่กล่าวมา กล้องหน้ารถจึงกลายเป็นอุปกรณ์แรกที่เราควรติดตั้งให้รถคู่ใจเลยทีเดียว สำหรับใครที่ติดตั้งพร้อมแล้วสำหรับการได้รับส่วนลดจากประกันภัยรถ สามารถเช็กเบี้ยประกันออนไลน์ได้เลย https://insurverse.co.th/car-insurance/type1/