ทำความรู้จักกับ VKH หรือ Vogt-Koyanagi-Harada Disease หนึ่งในโรคจอประสาทตาอักเสบ เพราะอะไร ทำไมถึงสูญเสียการมองเห็น
เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ การใช้ชีวิตล้วนต้องใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 มาโดยตลอด การมองเห็นยิ่งเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตต่อ แต่ถ้าเมื่อใดที่เกิดล้มป่วยด้วยโรค VKH หรือ Vogt-Koyanagi-Harada Disease หนึ่งในโรคหายากที่มีผลต่อร่างกายหลายระบบ ส่งผลกระทบต่อดวงตาโดยตรง หนึ่งในโรคที่ทำให้จอประสาทตาอักเสบ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มองไม่เห็น การรู้จักสาเหตุและวิธีป้องกัน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
VKH คืออะไร
VKH หรือ Vogt-Koyanagi-Harada Disease (โวกต์–โคยานางิ–ฮาราดะ) ตั้งตามชื่อของแพทย์ 3 คน ที่เป็นผู้อธิบายอาการโดยรวมของโรค VKN คือ อัลเฟรด โวกต์, โยชิโซ โคยานางิ และเอโนสุเกะ ฮาราดะ เป็นโรคอักเสบเรื้อรังที่หายาก ก่อให้เกิดอาการกับร่างกายหลายระบบ มักพบในชาวเอเชีย ชาวฮีสแปนิกและชาวพื้นเมืองอเมริกัน มากกว่าชาวยุโรป ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหลายดาน โดยทั่วไปจะเริ่มมีอาการเมื่ออายุประมาณ 30-40 ปี
สาเหตุของโรค VKH ยังไม่ทราบแน่ชัด จากงานวิจัยส่วนใหญ่มีข้อมูลว่า เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าใจผิดและโจมตีเซลล์ที่มีเม็ดสีเมลานินของตัวเอง ทำให้เกิดการอักเสบในส่วนต่าง ๆ คือ ดวงตา ผิวหนัง เส้นผม หูชั้นใน และระบบประสาทส่วนกลาง โดยในรายงานเคยพบว่ามีผู้ป่วยเป็นเด็ก อายุ 4 ขวบ อีกทั้งยังมีข้อสงสัยว่า "อาจถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้เช่นกัน"
อาการ VKH หรือ Vogt-Koyanagi-Harada
อาการของโรค VKH หรือ Vogt-Koyanagi-Harada เกิดขึ้นกับหลายระบบ จึงแสดงอาการที่หลากหลาย ทั้งทางตา, ผิวหนัง, หู และอาการอื่น
ผู้ป่วยโรค VKH หรือ Vogt-Koyanagi-Harada ที่แสดงอาการทางตา มักจะมีอาการตาแดง เจ็บตา ปวดตารุนแรง ตาพร่ามัว มองเห็นภาพเป็นวงกลม มีจุดดำลอยในสายตา เห็นภาพซ้อน มีฝ้าบังตา กลัวแสง จอประสาทตาอักเสบ โดยมีอาการคล้ายกับต้อกระจกและต้อหิน
ผู้ป่วยโรค VKH หรือ Vogt-Koyanagi-Harada ที่แสดงอาการทางผิวหนังจะมีผิวเผือก (Vitiligo) จุดขาวกระจายทั่วศีรษะ เปลือกตา ลำตัว จากการสูญเสียเซลล์สร้างเม็ดสี ตามมาด้วยขนตาขาว ผมร่วง ผิวหนังอักเสบ สีของผมและขนเปลี่ยนไป อาการเหล่านี้ อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้แพทย์วินิจฉัยว่าป่วยโรคด่างขาว
ผู้ป่วยโรค VKH หรือ Vogt-Koyanagi-Harada ที่แสดงอาการทางหู โดยส่วนใหญ่จะมีอาการหูอื้อ เวียนหัว ได้ยินเสียงดังในหู รวมไปถึงการสูญเสียการได้ยิน
ผู้ป่วยโรค VKH หรือ Vogt-Koyanagi-Harada ที่มีอาการแฝงอื่น จะเริ่มด้วยการปวดหัว เวียนหัว เป็นไข้ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ หากเป็นมาก ๆ อาจมีอาการคอแข็ง อ่อนแรง และชักได้ในที่สุด บางรายอาจมีอาการทางหู และทางตาร่วมด้วย
การรับการรักษาโรค VKH
โดยส่วนใหญ่แล้ว แพทย์จะมุ่งเน้นไปที่การลดการอักเสบ และป้องกันภาวะแทรกซ้อน โดยทั่วไปจะใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ในขนาดสูง ร่วมกับยากดภูมิคุ้มกันชนิดอื่น ผู้ป่วยบางรายอาจได้รับการรักษาตามอาการที่เป็น หรือหากผู้ป่วยมีอาการทางใดทางหนึ่งที่เด่นชัด จะต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ในสาขานั้น ๆ เพื่อควบคุมอาการในระยะยาว
นอกจากนี้ผู้ป่วยโรค VKH ที่มีอาการรุนแรง อาจต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีอื่น ร่วมกับการรักษาเฉพาะทาง เช่น การฉายแสง หรือการผ่าตัดต้อกระจก ผ่าตัดเพื่อลดความดันลูกตา หรือการรักษารูจอประสาทตา เป็นต้น
วิธีตรวจหาโรค VKH
ทั้งนี้ การตรวจหารอยโรค VKH เป็นการตรวจหารอยโรคที่มีความคล้ายคลึงกับโรคอื่น แพทย์จึงจำเป็นต้องวินิจฉัยอย่างละเอียด โดยพิจารณาจากประวัติการเจ็บป่วย อาการทางคลินิก และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ร่วมกับการตรวจหารอยโรคอื่นเพื่อเปรียบเทียบ และหาการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยที่สุด
โรค VKH มีความอันตราย หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง การรับการรักษาในระยะอันตราย อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ อาทิ ต้อกระจกและต้อหิน, สูญเสียการมองเห็น, เยื่อหุ้มสมองอักเสบ โดยส่วนใหญ่แล้วหากได้รับการรักษาเร็ว จะช่วยลดความรุนแรงของโรค ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และไม่สงผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
VKH หรือ Vogt-Koyanagi-Harada Disease เป็นหนึ่งในโรคที่มีความซํบซ้อน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อร่างกายหลายด้าน หากปล่อยไว้นานยิ่งรุนแรงจนเกินควบคุม หากมีอาการเข้าข่ายต้องสงสัยดังกล่าว ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
ที่มา : Eye South East Asia : EyeSEA (thaijo.org) / National Organization of Rare Disorders : NORD (rarediseases.org) National Library of Medicine : NIH (ncbi.nlm.nih.gov)
Advertisement