Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
สาเหตุไหนกันแน่ ที่ทำให้รถยนต์กินน้ำมันมากกว่าปกติ

สาเหตุไหนกันแน่ ที่ทำให้รถยนต์กินน้ำมันมากกว่าปกติ

15 ม.ค. 68
17:00 น.
|
2.5K
แชร์

ปัญหารถกินน้ำมันนั้นไม่ได้มาจากระบบเผาไหม้จากเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว อีกหนึ่งปัญหาสำคัญมาจากตัวผู้ขับขี่เองที่มักจะเป็นผู้ที่ทำให้รถกินน้ำมัน ทั้งพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ดูแลรถยนต์ ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ของรถตามมาได้ ลองมาดูกันว่าสาเหตุอะไรที่พอจะทำได้บ้าง หรือเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ให้รถกินน้ำมันจนเกินไป

ขับรถเร็ว

ยิ่งขับรถรถเร็วมากเท่าไหร่ รถยิ่งกินน้ำมันมากเท่านั้น และการขับรถช้าจนเกินไป ก็ไม่ได้ช่วยประหยัดน้ำมันอย่างที่เข้าใจเช่นเดียวกัน ควรจะขับขี่ตามกฎหมายกำหนด หรือขับอยู่ที่ประมาณ 80 – 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ช่วงความเร็วประมาณนี้ จะทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพในการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้ดีที่สุด ร่วมกับการใช้เกียร์ที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้รอบเครื่องยนต์สูงเกินไป และควรจะขับโดยรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอ

ใช้เบรกแบบผิดๆ

ใช้เบรกอย่างหนักและเร่งความเร็วบ่อย ๆ จะยิ่งเพิ่มอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากถึง 40% เลยทีเดียว ดังนั้นตลอดเวลาที่ขับรถ ควรจะสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัว มองไกลเพื่อประเมินสถานการณ์ข้างหน้า และวางแผนการขับรถให้เหมาะสม เมื่อต้องเจอสิ่งกีดขวางหรือทางเลี้ยว ก็สามารถค่อย ๆ ชะลอความเร็วได้ ไม่ต้องเบรกบ่อย ๆ หรือเบรกแบบกะทันหัน ซึ่งการเบรกมีผลต่อการกินน้ำมันเชื้อเพลิง ก็เป็นเพราะทุกครั้งที่กดเบรก ความเร็วจะลดลง หากกดคันเร่งต่อ เพื่อเพิ่มความเร็ว นอกจากจะเปลืองน้ำมันแล้ว ยังทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก

ออกรถกระชาก เร่งแบบไม่จำเป็น

การออกรถแบบกระชาก ชนอกจากจะทำให้ชเปลืองน้ำมันแล้ว ยังทำให้เครื่องยนต์เกิดการสึกหรอได้ไวขึ้นชด้วย ชการขับรถยนต์ชต้องไม่เบิ้ล ไม่กระชาก หรือลากเครื่องยนต์ เพราะทุกครั้งที่เร่งเครื่อง หรือเหยียบคันเร่งเกินไป จะทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงถูกฉีดเข้าห้องเผาไหม้มากยิ่งขึ้น อาจทำให้เครื่องยนต์พังเร็ว และยิ่งไปกว่านั้น โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุมีมากขึ้นด้วย รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนที่เกิน จะทำให้เกิดการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เกิดเป็นมลพิษตามมาอีกด้วย ยิ่งในเครื่องยนต์ดีเซลก็จะทำให้เกิดควันดำ เพิ่มปริมาณฝุ่น PM2.5 ในอากาศ ควรขับรถให้นุ่มนวล ใช้ความเร็วสม่ำเสมอ

รถติดไม่ใส่เกียร์ว่าง

ถ้าต้องเจอกับไฟแดงนานหลายนาที หรือติดแหง็กอยู่บนท้องถนนนาน ๆ จากการจราจรที่หนาแน่น จนขยับไปไหนไม่ได้ สิ่งที่ควรทำคือการเข้าเกียร์ว่าง (N) แทนที่จะเข้าเกียร์เดินหน้า (D) ทิ้งไว้ เพราะจากผลการทดสอบยืนยันว่า วิธีนี้สามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้จริง และยังช่วยให้ไม่เมื่อยเท้า จาการที่ต้องเหยียบเบรกตลอดเวลาอีกด้วย

ไม่ดับเครื่องยนต์เมื่อจอดรถ

การติดเครื่องยนต์จอดรถรอเป็นเวลา 5 นาที จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน และถ้ายิ่งติดเครื่องยนต์จอดรอนานมากกว่านั้น ก็จะยิ่งสิ้นเปลืองน้ำมันยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นหากมีความจำเป็นต้องจอดรถนานเกิน 5 นาทีขึ้นไปควรจะทำการดับเครื่องยนต์ เพื่อประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษทางอากาศ ยกเว้นติดไฟแดงอันนั้นก็เลี่ยงไม่ได้

ไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด

น้ำมันเครื่องเป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่องเบนซิน หรือน้ำมันเครื่องดีเซล การใช้รถเป็นประจำทำให้ไส้กรองน้ำมันเสื่อมสภาพตามการใช้งาน และน้ำมันเครื่องเองก็เสื่อมสภาพลงด้วย ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะ และตรวจเช็กสภาพความพร้อมการใช้งานของของยนต์เครื่องอยู่เสมอ การใช้น้ำมันเครื่องที่มีมาตรฐาน และคุณภาพสูง รวมถึงใช้ตามความเหมาะสมของรถยนต์ เพื่อการเผาไหม้ที่ไหลลื่นไม่สะดุด ไม่ส่งผลให้รถกินน้ำมันหรือเครื่องยนต์มีปัญหาตามมา การใช้น้ำมันเครื่องที่หนืดเกินไปก็ทำให้รถกินน้ำมันได้เช่นกัน

ไม่เปลี่ยนไส้กรองอากาศ

นอกจากสาเหตุไส้กรองอากาศอุดตันหรือเสื่อมสภาพทำให้รถกินน้ำมันผิดปกติแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อระบบหายใจของผู้ขับขี่ได้อีกด้วย เพราะประสิทธิภาพในการกรองสิ่งสกปรกผ่านช่องทางแอร์ลดลง ทำให้ฝุ่นละอองเข้าสู่ภายในรถได้ง่ายขึ้น แนะนำให้ถอดไส้กรองอากาศออกมาล้างทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หากใช้รถเยอะมากจะถอดมาล้างเร็วกว่านั้นก็ได้ และเปลี่ยนใหม่ตามระยะที่สมควร

ระบบเผาไหม้มีปัญหา

ชิ้นส่วนประกอบสำคัญของระบบเผาไหม้ ก็คือ หัวเทียน หากเกิดการชำรุดจะส่งผลให้เครื่องยนต์ไม่สามารถจุดระเบิดได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้รถกินน้ำมันผิดปกติได้ แนะนำให้นำรถเข้าเช็กตรวจสภาพและเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ตามระยะ และการใช้รถยนต์มากน้อย

บรรทุกของหนักเกินไป

รถยนต์ก็เหมือนคน เมื่อบรรทุกของที่มากเกินไป หรือหนักเกินความจำเป็น ทำให้พลังงานของรถหมดลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งรถก็ต้องการพักเติมพลังด้วยเหมือนกัน จึงไม่ควรบรรทุกสัมภาระหนักมากเกินไป

ขับขี่ขณะลมยางอ่อน

การขับขี่รถยนต์ในขณะลมยางอ่อน หรือแรงดันลมยางต่ำกว่าปกติ ก็ส่งผลให้เกิดแรงเสียดทานระหว่างรถกับพื้นมากขึ้น และเป็นเหตุที่ทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้นได้ อีกทั้งปัจจัยนี้เกี่ยวกับกับการบรรทุกของที่มากเกินไปอีกด้วย

ชอบขับขี่ด้วยความเร็วสูง

ผู้ที่ชอบขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วสูงนั้นมีผลต่อรถยนต์ในการกินน้ำมันอย่างแน่นอน ทำให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วแล้ว สิ่งที่เกี่ยวข้องก็จะตามมา เช่น น้ำมันเครื่อง ยางต่างๆ การขับเร็วแล้วเบรกแรงๆ หรือการออกตัวแบบกระชากเพื่อให้รถพุ่งไปอย่างรวดเร็ว ก็จะส่งผลให้กับเครื่องยนต์เช่นเดียวกัน

กรองอากาศสกปรก

กรองอากาศนั้นเปรียบเสมือนกับปอดของรถยนต์ และเป็นส่วนที่มีความสำคัญต่อระบบเผาไหม้ในเครื่องยนต์ หากมีสิ่งสกปรกสะสมอยู่เป็นจำนวนมากจนเกิดการอุดตัน จะทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งสังเกตได้ง่ายว่ารถคันนั้นจะมีควันสีดำ และทำให้น้ำมันหมดเร็วขึ้น

เปิดแอร์เย็นมากเกินไป

การตั้งอุณหภูมิภายในรถยนต์ไว้ต่ำมากหรือเย็นมากเกินไป ก็ส่งผลให้เกิดการใช้พลังงานที่มากขึ้น ยิ่งมีความเย็นมากแค่ไหน รถยนต์ก็จะต้องเร่งการใช้พลังงานมากขึ้น และทำให้น้ำมันรถยนต์หมดเร็วขึ้นการปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม การเปิดแอร์ไม่เย็นจนเกินไปจะช่วยให้ระประหยัดพลังงานได้มากตามไปด้วย

แชร์
สาเหตุไหนกันแน่ ที่ทำให้รถยนต์กินน้ำมันมากกว่าปกติ
ข่าวแนะนำ
Icon