ช่วงนี้บ้านเมืองเราดูจะร้อนรุ่มไม่น้อย หลังจากก่อนหน้านี้ มาสด้าแดง ก็เพิ่งอาละวาดสังคมจนเป็นประเด็นครึกโครมมาหมาด ๆ ยังไม่ทันได้ความคืบหน้า ก็เหมือนกระแสสังคมจะส่งไม้ต่อให้กับ ฟอร์ด เรนเจอร์ แดง ต่อซะแล้ว หลังมีประเด็นความเสียหายของรถที่ทางเจ้าของรถออกอาการเล่นใหญ่จนเป็นที่ถกเถียงกันเต็มสังคมออนไลน์ โดยประเด็นหลักคือการที่รถเหมือนจะฝาสูบโก่ง ซึ่งสาเหตุมาจากอะไรยังสรุปไม่ได้ โดยในไลฟ์สดทางเจ้าของรถได้มีการโวยวายพาดพิงถึง บีควิก ลามไปจนถึงโชว์รูมฟอร์ด จนทำให้เหมือนเรื่องราวจะบานยาวใหญ่โตเสียแล้ว เพราะงานนี้ตอนจบจะมีใครไหว้สวยหรือไม่ ต้องรอติดตามต่อไป
ประเด็นที่ถูกพูดถึงบ่อย ๆ คือมีการกล่าวอ้างว่ามีการแอบเติมน้ำเปล่าเข้าไปในรถ ฟอร์ด คันเกิดเรื่อง จนทำให้ระบบภายในมีปัญหานำไปสู่อาการน้ำดัน หลายคนน่าจะเริ่มสงสัยว่าจริง ๆ แล้วในหม้อน้ำของรถนั้น สามารถใช้น้ำเปล่าได้หรือไม่ หรือว่าต้องใช้น้ำยาหล่อเย็นเท่านั้น ในบทความนี้มีคำตอบมาให้
เราสามารถเติมน้ำเปล่าเข้าไปในหม้อน้ำรถยนต์ได้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น เมื่อน้ำในหม้อน้ำลดลงอย่างรวดเร็วและไม่มีน้ำยาหล่อเย็นสำรอง แต่ควรใช้น้ำกลั่น หรือน้ำดื่มสะอาดหากจำเป็นต้องเติมน้ำเปล่า ไม่ควรใช้น้ำสกปรก หรือน้ำที่มีการเจือปนสิ่งแปลกปลอม เพื่อลดโอกาสในการเกิดตะกรันและสนิมในระบบหล่อเย็น แต่อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้ใช้น้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็นเป็นประจำ หรือแบบถาวร เพราะจะลดประสิทธิภาพของระบบระบายความร้อน และอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ หากเป็นการเติมเพราะน้ำยาขาดเพียงเล็กน้อยจึงสามารถกระทำได้ แต่ถ้าเป็นการเติมเพื่อทดแทนน้ำยาที่แห้งสนิทในปริมาณมาก เมื่อรถสามารถเคลื่อนที่เข้าอู่ซ่อมได้แล้ว ก็ควรซ่อมบำรุงและเปลี่ยนถ่ายเป็นน้ำยาหล่อเย็นโดยเฉพาะ
ถึงแม้ว่าเราจะสามารถใช้น้ำเปล่า หรือน้ำบริสุทธิ์เติมเข้าไปในระบบหล่อเย็นของรถได้ในกรณีฉุกเฉินก็ตาม แต่ไม่ใช่ว่าการใช้น้ำเปล่านั้นจะสามารถกระทำได้เป็นปกติ เพราะน้ำเปล่ามีจุดอ่อนมากมายเมื่อต้องอยู่ในระดับอุณหภูมิที่สูงเกิดปกติ รวมถึงประสิทธิภาพในการระบายความร้อนไม่ดีพอสำหรับการทำงานอย่างหนักของเครื่องยนต์ภายในรถยนต์นั่นเอง
จุดเดือดต่ำ เสี่ยง Overheat
น้ำเปล่ามีจุดเดือดเพียง 100°C ขณะที่น้ำยาหล่อเย็นมีจุดเดือดสูงกว่า (110-130°C หรือมากกว่านั้นเมื่อใช้แรงดันในระบบ) เมื่อน้ำเดือดเร็วขึ้นจะเกิดไอน้ำและฟองอากาศในระบบ ส่งผลให้การระบายความร้อนลดลง หากเครื่องยนต์ร้อนเกินไปอาจทำให้ฝาสูบโก่ง และเสี่ยงต่อการรั่วของปะเก็นฝาสูบ
เกิดสนิมและตะกรันในระบบหล่อเย็น
ในน้ำเปล่ามีแร่ธาตุที่อาจสะสมเป็นตะกรันและสนิมในหม้อน้ำ ท่อน้ำ และปั๊มน้ำ เมื่อเกิดการอุดตัน การไหลเวียนของน้ำหล่อเย็นลดลง ส่งผลให้เครื่องยนต์ร้อนง่ายขึ้น เพราะระบบหล่อเย็นจะมีประสิทธิภาพที่ลดลง และถ้ายิ่งอุดตันมาขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้ไม่สามารถระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้ รวมถึงสนิมอาจทำให้เกิดรอยรั่วในจุดที่มองเห็นได้ยาก ทำให้การซ่อมบำรุงต้องใช้ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
เสี่ยงช็อกความร้อน หากเติมน้ำขณะเครื่องยนต์ร้อน
หากเติมน้ำเปล่าขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัด อาจทำให้เกิด Thermal Shock หรือช็อกความร้อน ความแตกต่างของอุณหภูมิสูงอาจทำให้ฝาสูบหดตัวและขยายตัวเร็วเกินไป เสี่ยงต่อการแตกร้าวหรือโก่งตัวของฝาสูบ การซ่อมแซมมีหลายระดับขึ้นกับความเสียหายที่เกิดขึ้นว่ารุนแรงไปถึงอุปกรณ์ชิ้นใดบ้าง แต่อย่างไรก็ตามค่าซ่อมบำรุงมีจุก ๆ แน่นอน
ระบบปั๊มน้ำเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
การใช้น้ำเปล่าที่ไม่มีสารป้องกันสนิม อาจทำให้ปั๊มน้ำและซีลยางในระบบหล่อเย็นเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ส่งผลให้ปั๊มน้ำรั่วหรือหมุนได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้การระบายความร้อนลดลง เพราะปั๊มน้ำถือเป็นอีกอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในระบบหล่อเย็น หากปั๊มน้ำรั่วหรือเสียเมื่อไหร่เท่ากับระบบหล่อเย็นจะไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไปนั่นเอง
การเติมน้ำเปล่าในหม้อน้ำรถยนต์เป็นประจำ อาจทำให้ฝาสูบโก่งได้จริง! เพราะทำให้ระบบหล่อเย็นทำงานได้ไม่เต็มที่ เสี่ยง Overheat และสะสมสนิมในหม้อน้ำ แต่ต้องใช้ระยะเวลานานเป็นปี ไม่ใช่เกิดแบบปัจจุบันทันด่วน ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรง เช่น เครื่องยนต์พัง หรือค่าซ่อมแพงมหาศาล ดังนั้น อย่าใช้น้ำเปล่าเป็นหลักในระบบหล่อเย็น แต่ควรเลือกใช้น้ำยาหล่อเย็น หรือ Coolant ที่เหมาะสมเพื่อให้เครื่องยนต์ของรถปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานตามอายุการใช้งานที่สมควร