เคล็ดลับไม่ลับขับรถเที่ยวภู เที่ยวเขา เที่ยวดอย ให้ปลอดภัยในช่วงหน้าฝน

ความปลอดภัยบนท้องถนน เป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญสูงสุดในทุกฤดูกาล ทั้งผู้ขับขี่และคนเดินถนนควรมีความระมัดระวังอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม เรายิ่งต้องเพิ่มความใส่ใจมากขึ้น เมื่อต้องเดินทางสัญจรท่ามกลางสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยอย่างในฤดูฝน หรือเมื่อต้องขับขี่บนเส้นทางที่ลาดชันอย่างบนภูเขาสูง รถยนต์ที่ใช้ควรได้รับการตรวจเช็คสภาพอย่างสม่ำเสมอเช่นกันเพื่อให้มีความพร้อมในการใช้งานตลอดเวลา รวมถึงศึกษาวิธีการขับเมื่อต้องขึ้น-ลงทางลาดชัน อย่างเช่น ขึ้นภูเขา ขึ้นดอย เป็นต้น

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

• ตรวจสอบสภาพรถเบื้องต้น ทั้งใบปัดน้ำฝน แรงดันลมยาง น้ำมันเครื่อง แบตเตอรี่ และระบบไฟส่องสว่าง ควรเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนเดินทางขึ้นภูเขา ขึ้นดอยต่างๆ ตรวจสอบแรงดันลมยางทั้ง 4 ล้อด้วย หากรถยนต์มีระบบตรวจสอบแรงดันลมยางก็ให้ทำการเติมลมยางนั้นง่ายกว่าเดิม
• วางแผนเส้นทางก่อนออกเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไปในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย การขึ้นเขา หรือขึ้นดอยต่างๆ ควรคิดเสมอว่าอาจหลงทาง ซึ่งจะส่งผลต่อสมาธิในการขับขี่ การขับขี่รถบนถนนที่ลาดชันและคดเคี้ยวบนภูเขาควรใช้ความเร็วต่ำ ยิ่งสภาพอากาศไม่ดีและทัศนวิสัยเลวร้ายยิ่งต้องลดความเร็ว และเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่มากขึ้น ระบบนำทางเนวิเกชั่นบนรถยนต์รุ่นใหม่ๆ หรือแม้แต่แอปพลิเคชันแผนที่บนมือถือที่ใช้งานง่าย ช่วยให้ผู้ขับขี่วางแผนการเดินทางอย่างสะดวกสบาย
• ใช้เกียร์ต่ำ ห้ามให้เกียร์ว่างในการวิ่งลงเขา เมื่อต้องขับขี่ขึ้นภู ขึ้นเขา ขึ้นดอย หรือแม้แต่การลงเขา ก็เช่นกัน ทางลาดชันและเปียกลื่น การเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำทำให้เกิดแรงหน่วงของเครื่องยนต์ ช่วยให้สามารถควบคุมความเร็วได้ดียิ่งขึ้น และรักษาสภาพเบรกให้ใช้งานได้นานขึ้น 
• รักษาระยะเบรก ทางลงเขาซึ่งจะมีความชันมาก ต้องกะระยะเบรกเพิ่มขึ้นยาวกว่าปกติ เนื่องจากความลาดชันของพื้นที่และน้ำหนักของตัวรถมีผลให้รถเบรกได้ช้าลง ยิ่งถนนที่เปียกและลื่น ดังนั้น เมื่อใช้เบรกขณะอยู่บนทางลงเขา ควรคำนวณระยะเบรกเพิ่มขึ้นด้วย
• การเร่งเครื่องขึ้นเขา ต้องเหยียบคันเร่งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อส่งกำลังให้รถมีกำลังขึ้นเขาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งในทางชันยาวๆ ควรเร่งต่อเนื่อง เพราะหากเหยียบคันเร่งถี่ๆ ปล่อยๆ จะทำให้รถเสียกำลังและไหลลงได้ ยิ่งถนนลื่นและเปียกอาจเกิดอันตรายได้มากขึ้น
• แตะเบรกเป็นระยะ เมื่อต้องใช้เบรก สำหรับทางลงเขานั้น แรงฉุดจากเครื่องยนต์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงต้องมีการแตะเบรกช่วยเพื่อชะลอความเร็วของรถ สิ่งที่ไม่ควรทำคือแตะเบรกแช่ เนื่องจากจำทำให้เบรกไหม้ได้ และอาจทำให้เบรกไม่อยู่ ควรแตะเบรกในจังหวะที่จำเป็น ตรวจสอบระบบเบรกให้พร้อมใช้งานในการเดินทางระยะไกล เพื่อเพิ่มความปลอดภัย  
• รักษาสภาพรถให้มีความพร้อมขับขี่อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องยนต์ รถยนต์ส่วนใหญ่สามารถขับขี่ขึ้นลงภูเขาได้อย่างสบายๆ หากใครใช้รถยนต์ที่มีแรงบิดสูงกว่าย่อมให้สมรรถนะในการขับขี่ที่สะดวกสบายกว่าเช่นกัน  
• อดทน แม้จะเดินทางในช่วงหน้าฝนที่ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว แต่ผู้ขับขี่ควรเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพการจราจรที่หนาแน่น หลีกเลี่ยงการแซงในที่คับขัน หรือบนถนนที่อาจมองไม่เห็นเส้นทางด้านหน้าได้อย่างชัดเจน อย่างทางโค้ง สะพาน เนินเขา และทางลาดชัน  
• ใช้เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ที่รถยนต์มีมาให้ อย่างเช่น ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบป้องกันการพลิกคว่ำต่างๆ สามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดของผู้ขับขี่ลงได้ นอกจากนี้ รถยนต์บางรุ่นมีระบบที่พัฒนาขึ้นสำหรับการใช้งานบนถนนลาดชันโดยเฉพาะ อย่างระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ จะทำงานอย่างอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด หรือแม้แต่การเลือกปรับฟังก์ชันโหมดการใช้งาน โดยทำการเปลี่ยนการขับขี่ได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว