มีคำกล่าว ที่ได้ยินอยู่เสมอว่า วิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ปอร์เช่คือการนั่งอยู่หลังพวงมาลัย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Porsche World Roadshow - PWRS กลับมาจัดที่ประเทศไทยอีกครั้งหลังห่างหายไป 2 ปี ที่สนามปทุมธานี สปีดเวย์
ปอร์เช่ ประเทศไทย จัดกิจกรรมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมผัสความตื่นเต้น และรอบสำหรับผู้ที่สนใจจะเริ่มต้นความเร้าใจตั้งแต่วันที่ 16 ถึง 25 พฤศจิกายน 2024 ปอร์เช่เชิญชวนมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การทดลองขับรถรุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์รถสปอร์ตระดับตำนานจากเยอรมนี
กิจกรรมนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับคำแนะนำ เทคนิคการขับขี่โดยผู้ฝึกสอนที่ได้รับการรับรองจากโรงาน ปอร์เช่ เยอรมนี (Porsche Instructor) ทั้งจากประเทศไทยและยุโรปอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีกิจกรรมหรือสถานีจำลองต่าง ๆ เพื่อการฝึกฝนทักษะการขับขี่ในสถานการณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมรถ ทดสอบสมรรถนะและช่วงล่าง (Handling), การเบรกและหักหลบหลีกสิ่งกีดขวาง พร้อมทั้งทดสอบการควบคุมรถขณะขับเคลื่อนผ่านแอ่งน้ำ (Braking & Moose Test), การขับขี่แบบสลาลม (Slalom) ทดสอบความคล่องตัวและสมรรถนะที่เหนือชั้น ต่อด้วยสถานีโร้ดทัวร์ (Road tour) เป็นการทดสอบการขับขี่แบบในชีวิตประจำวัน บนสภาพท้องถนนสาธารณะ ปิดท้ายด้วย Taxi Laps เวลาแห่งความตื่นเต้นของผู้ร่วมกิจกรรม จะมีโอกาสได้นั่งรถที่ขับโดยผู้ผึกสอนในจังหวะความเร็วที่เร้าใจถึงขีดสุด เพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกระดับได้รับประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบครบถ้วน ผู้ที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป และมีใบขับขี่ที่ไม่หมดอายุ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้
Porsche ขนทัพรถสปอร์ตจำนวนมากถึง 26 คันให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ขับขี่และสัมผัสประสบการณ์อย่างครบครันทุกรุ่น ตั้งแต่รถที่เหมาะสำหรับสนามแข่งอย่าง 718 เคย์แทน จีที4 อาร์เอส (718 Cayman GT4 RS) ไปจนถึงรถที่มีความเร็วพุ่งทะยานดังมิสไซด์อย่าง 911 เทอร์โบ เอส คาบลิโอเล็ต (911 Turbo S Cabriolet) จากเจนเนอเรชั่น 992 รุ่นแรก โดยรถทั้งหมดนั้นมีพละกำลังรวมเกือบ 10,000 แรงม้า และที่สำคัญไฮไลต์อีกหนึ่ง คือ ไทคานน์ เทอร์โบ จีที (Taycan Turbo GT) ที่มาพร้อมพละกำลัง 1,034 แรงม้า สามารถเพิ่มพลัง 120 กิโลวัตต์ (kW) ในโหมด 'Attack Mode' เพียงแค่กดปุ่มเดียว
นายวินธร บุนนาค รักษาการกรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “Porsche World Roadshow - PWRS คือรูปแบบกิจกรรมทดลองขับรถยนต์ที่ดีที่สุดในเรื่องของการพิสูจน์ศักยภาพทางพลศาสตร์สูงสุดของรถสปอร์ตประสิทธิภาพสูงของเรา เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้จัดงาน PWRS ในประเทศไทยอีกครั้ง ในขณะที่เราส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่น่าประทับใจ เรายังให้ความสำคัญกับการส่งมอบประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืมให้กับลูกค้าและแฟน ๆ ของเราในอีกด้วย”
“หลังจากผ่านงานสำคัญและช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จ อย่างเช่น การเปิดตัว คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) รุ่นประกอบในภูมิภาคเป็นครั้งแรก และการพรีวิว มาคันน์ใหม่ (Macan) รุ่นพลังงานไฟฟ้า 100% ตอนนี้เราจะนำพาความตื่นเต้นขึ้นอีกระดับที่สนามปทุมธานี สปีดเวย์แห่งนี้ ที่ซึ่งเราจะได้ค้นพบความหลงใหล นวัตกรรม และสมรรถนะของปอร์เช่ ซึ่งดีที่สุดเมื่อได้สัมผัสโดยตรงจากที่นั่งของผู้ขับขี่หลังพวงมาลัยในรถสปอร์ตปอร์เช่” นายวินธร กล่าวเสริม
นับเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า (Porsche 911 Carrera) รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการปรับปรุงพัฒนา จะถูกนำมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในงาน Porsche World Roadshow - PWRS ครั้งนี้ ห้องโดยสารดิจิตอลใหม่ และเครื่องยนต์บ็อกเซอร์แบบทวินเทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร
ดีไซน์ภายนอกอันโฉบเฉี่ยวของ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) ใหม่ กันชนหน้าเฉพาะรุ่นและไฟหน้า Matrix LED ที่มีดีไซน์ 4 จุดอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมไฟ LED สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันที่ด้านหน้าของรถ ซึ่งทำหน้าที่เป็นไฟสัญญาณเลี้ยวอีกด้วย และช่วยเพิ่มพื้นที่ให้กับช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าของรถ สีภายนอกใหม่ เช่น สีฟ้า Lugano Blue และ สีเขียว Shade Green
ในส่วนของภายในห้องโดยสาร 911 Carrera มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ อาทิ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ด้านซ้ายของพวงมาลัย ที่สืบทอดดีไซน์จากรถแข่ง GT และเป็นครั้งแรกที่ 911 มาพร้อมกับแผงมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.6 นิ้ว ที่สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้ 7 รูปแบบ รวมถึงโหมด หน้าจอคลาสสิค (Classic) ที่มีดีไซน์แบบดั้งเดิม โดยมีหน้าปัดวงกลม 5 อัน และมีมาตรวัดการหมุนรอบเครื่องยนต์ที่อยู่ตรงกลา
เครื่องยนต์ใหม่ อาทิ เทอร์โบชาร์จเจอร์จากรุ่น GTS ของเจเนอเรชั่นก่อน และเครื่องทำความเย็นแบบอัดอากาศจากรุ่นเทอร์โบ (Turbo) กำลังสูงสุด 290 กิโลวัตต์ (394 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร และสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในเวลา 4.1 วินาที (และ 3.9 วินาที เมื่อติดตั้งแพ็คเกจ Sport Chrono)
รถปอร์เช่ E-Performance รุ่นล่าสุด อย่างไทคานน์ (Taycan) ที่ได้รับการพัฒนารอบด้าน และ มาคันน์ (Macan) ใหม่ ที่เป็นยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% โดยทั้ง 2 รุ่นใหม่จะโชว์สมรรถนะด้านพลศาสตร์บนสนามแข่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่งานนี้
หลังจากทำลายสถิติเวลาต่อรอบจากสนามแข่ง 3 แห่งใน 3 ทวีป - ได้แก่ เวทเทอเทค เรซเวย์ ลากูน่า เซก้า (Weathertech Raceway Laguna Seca) ในอเมริกาเหนือ, Nürburgring Nordschleife (นูร์บูร์กริง นอร์ดสไลฟ์เฟอ) ในยุโรป และ เซี่ยงไฮ้ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต (Shanghai International Circuit) ในเอเชีย ในครั้งนี้ ไทคานน์ เทอร์โบ จีที (Taycan Turbo GT) พร้อมจะมาเป็นหนึ่งในรถไฮไลต์ที่จัดแสดงในงาน PWRS Thailand
ด้วยการใช้เทคนิคการผลิตที่เน้นน้ำหนักเบา Porsche จึงสามารถลดน้ำหนักของ ไทคานน์ เทอร์โบ จีที (Taycan Turbo GT) ได้ถึง 75 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับ ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Taycan Turbo S) โดยไทคานน์ เทอร์โบ จีที (Taycan Turbo GT) มาพร้อมกำลังสูงสุด 1,034 แรงม้าเป็นมาตรฐาน และยังสามารถเพิ่มพลังชั่วขณะผ่านโหมด “Attack Mode” สูงสุด 120 กิโลวัตต์ ทำให้กลายเป็นรถ Porsche ที่ทรงพลังที่สุดในบรรดารถยนต์สายการผลิตจากโรงงานในปัจจุบัน
Porsche ได้อัปเดต ไทคานน์ (Taycan) โดยเพิ่มพละกำลัง ระยะทางขับขี่ที่ไกลขึ้นอัตราเร่งที่เร็วกว่าเดิม และการชาร์จที่เร็วขึ้นและเสถียรยิ่งขึ้น นอกจากนี้แบรนด์รถสปอร์ตระดับตำนานจากประเทศเยอรมนีนี้ยังได้ปรับแต่งดีไซน์ของรถให้คมชัดยิ่งขึ้น และสร้างความแตกต่างจากรถรุ่นอื่น ๆ ได้อย่างเด่นชัดยิ่งขึ้นสำหรับรุ่นเทอร์โบ (Turbo)
ไทคานน์ (Taycan) ทุกรุ่นมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครันขึ้น และยังมาพร้อมกับ Porsche Driver Experience รุ่นล่าสุด ซึ่งประกอบด้วยหน้าจอแสดงผลดิจิทัลเต็มรูปแบบ ความสามารถในการปรับแต่งที่หลากหลาย และการใช้งานที่เข้าใจง่าย
นอกจากนี้ จะยังได้พบกับ มาคันน์ (Macan) ใหม่ รถพลังงานไฟฟ้า SUV รุ่นแรกของ Porsche มาพร้อมกับดีไซน์ สมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของ Porsche ระยะทางขับขี่ทางไกล และความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ลูกค้าปอร์เช่ที่ชื่นชอบรถ SUV
มาคันน์ (Macan) มีพละกำลังได้สูงสุดถึง 265 กิโลวัตต์ (360 แรงม้า) ด้วยโหมด overboost ในขณะที่ มาคันน์ เทอร์โบ (Macan Turbo) รุ่นท็อป สามารถผลิตพละกำลังได้สูงสุดถึง 470 กิโลวัตต์ (639 แรงม้า) แรงบิดสูงสุดในทุกรุ่นอยู่ในช่วง 563 นิวตันเมตร ถึง 1,130 นิวตันเมตร นอกจากนี้ มาคันน์ (Macan) ยังสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 5.7 วินาที ขณะที่ มาคันน์ เทอร์โบ (Macan Turbo) ใช้เวลาเพียง 3.3 วินาที
รูปลักษณ์อันคุ้นเคยของ มาคันน์ (Macan) ได้รับการยกระดับด้วย Porsche Active Aerodynamics (PAA) เพื่อสร้างค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำเพียง 0.25 Cd พื้นที่ภายในที่กว้างขวางขึ้น และฟังก์ชั่นการใช้งาน เช่น กระโปรงท้ายขนาดใหญ่และช่องเก็บสัมภาระหน้ารถ ขนาด 84 ลิตร ทำให้ มาคันน์ (Macan) พร้อมที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ในฐานะเอสยูวีคอมแพคต์ (compact SUV)
Porsche World Roadshow จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-25 พฤศจิกายน 2567 ที่สนามปทุมธานี สปีดเวย์ บัตรเข้าชม เริ่มต้นที่ 25,000 บาท สำหรับช่วงวันธรรมดา (วันจันทร์ถึงวันศุกร์) และ 30,000 บาทสำหรับช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ (วันเสาร์และวันอาทิตย์) โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถมีผู้ติดตามได้ 1 ท่าน (ผู้ติดตามไม่สามารถนั่งในรถได้)
สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ได้ที่ศูนย์ปอร์เช่ (Porsche Centre) และปอร์เช่ สตูดิโอ (Porsche Studio) ทุกแห่งทั่วประเทศไทย