GWM จูงมือไทยเดินหน้าส่งออกตลาดโลกเต็มรูปแบบ ประกาศเพิ่มกำลังการผลิตรถ
(GWM Thailand) บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเดินหน้ายกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์พลังงานทางเลือกทุกประเภทในระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยแนวคิดหลัก “All Scenarios, All Powertrains, All Users” ที่มุ่งเน้นการพัฒนายานยนต์ให้ครอบคลุมทุกการใช้งาน ทุกกลุ่มผู้ใช้งาน และทุกประเภทของระบบขับเคลื่อน โดยล่าสุด GWM Thailand ได้ประกาศเพิ่มกำลังการผลิตจากโรงงานอัจฉริยะ GWM Smart Factory ที่จังหวัดระยอง เพื่อรองรับแผนการส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดต่างประเทศอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 2 ปี 2568
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เพิ่มกำลังการผลิต รองรับการส่งออกสู่ตลาดโลก
โรงงาน GWM Smart Factory ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง นับเป็นโรงงานการผลิตแบบครบวงจรแห่งที่ 2 ของ GWM นอกประเทศจีน ถัดจากโรงงานในประเทศรัสเซีย โดยมีศักยภาพการผลิตสูงสุดถึง 80,000 คันต่อปี และดำเนินการโดย พนักงานคนไทยกว่า 1,100 คน ภายใต้มาตรฐานการผลิตระดับโลก พร้อมด้วยสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local Content) อยู่ที่ประมาณ 45 – 50% ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถของประเทศไทยในการผลิตรถยนต์คุณภาพสูงและส่งออกได้จริงในระดับโลก
ในปี 2568 นี้ GWM Thailand เตรียมเดินหน้าส่งออกรถยนต์ครอบคลุมหลายรุ่น หลายพลังงานไปยังตลาดสำคัญทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศในกลุ่มอาเซียน ออสเตรเลีย และลาตินอเมริกา โดยมีรายชื่อรุ่นรถและประเทศปลายทางที่ชัดเจนดังนี้
- GWM TANK 500 HEV เตรียมส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย
- GWM TANK 300 HEV ขยายการส่งออกต่อเนื่องไปยังอินโดนีเซีย
- GWM HAVAL H6 HEV และ GWM HAVAL JOLION HEV บุกตลาดประเทศเวียดนาม
- NEW GWM ORA Good Cat รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่ผลิตในประเทศไทย พร้อมส่งออกสู่ บราซิล ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นครั้งแรกในเดือนเมษายน 2568
ทั้งนี้ GWM ได้เริ่มส่งออกรถยนต์จากประเทศไทยตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้แล้ว โดยเฉพาะรุ่นยอดนิยมอย่าง GWM HAVAL H6 HEV, GWM TANK 300 HEV และ GWM HAVAL JOLION HEV ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาดอินโดนีเซียและเวียดนาม
GWM Go With More ยุทธศาสตร์ระดับโลกที่เริ่มต้นจากประเทศไทย
แนวทางการดำเนินธุรกิจของ GWM Thailand ในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงแค่การขายรถยนต์ในประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานระยะยาวเพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์ระดับโลก โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือก (xEV) และรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV)
เจมส์ หยาง รองประธาน GWM ฝ่ายตลาดต่างประเทศ เปิดเผยว่า
“GWM และทีมงานชาวไทยล้วนมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมเศรษฐกิจไทย ด้วยการผลิตรถยนต์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกประเภทพลังงาน เพื่อตอบสนองผู้ใช้งานในทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และลาตินอเมริกา การส่งออกรถยนต์ในไตรมาสที่ 2/2568 นี้ คือหลักฐานชัดเจนถึงคุณภาพการผลิตระดับโลกจากโรงงานของเราที่จังหวัดระยอง”
GWM ยังย้ำว่าจะเดินหน้าลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักของแบรนด์ GWM ในระดับนานาชาติ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงข้างลูกค้า พันธมิตร และสังคมไทย
รถยนต์ใหม่จากสายการผลิตในไทย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา GWM Thailand ได้เปิดตัว ALL NEW GWM HAVAL H6 ทั้งรุ่นไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด รวมถึง NEW GWM TANK 300 DIESEL ที่เผยโฉมในงานมอเตอร์โชว์ 2025 ซึ่งต่างก็ได้รับการตอบรับที่ดี และเริ่มทยอยส่งมอบรถเรียบร้อยแล้ว โดยรถยนต์เหล่านี้ล้วนผลิตในประเทศไทยทั้งหมด นอกจากความสามารถด้านการผลิตแล้ว GWM Thailand ยังมีเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยทั้งระบบ และเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารซัพพลายเชนและบริการหลังการขายในอนาคต
GWM Thailand กำลังยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในระดับสากล
ด้วยการลงทุนอย่างจริงจัง และการขับเคลื่อนโรงงาน GWM Smart Factory ที่ระยองให้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พลังงานหลากหลายในระดับโลก ประเทศไทยกำลังได้รับการยอมรับในฐานะ “ศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ทางเลือกของภูมิภาคอาเซียน” และกำลังเติบโตเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในแผนการขยายธุรกิจทั่วโลกของ GWM
