สำนักข่าวรายหนึ่งของญี่ปุ่น รายงานว่า บริษัท Honda Japan กำลังเล็งดำเนินการที่จะลดกำลังการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยลงถึงกว่าครึ่ง หรือร้อยละ 50 เลยทีเดียว โดยให้เหตุผลถึงการปรับตัวของค่ายรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นตามสถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในเมืองไทย ที่ในตอนนี้มีการแข่งขันที่ดุเดือดเป็นอย่างมากนับตั้งแต่มีรถยนต์ของประเทศจีนเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในปัจจุบัน Honda มีโรงงานในประเทศไทย 2 แห่งคือ ปราจีนบุรี และ อยุธยา โดยที่ก่อนหน้านี้ข่าวคราวการปรับแผนการผลิตออกมาก่อนแล้ว ที่โรงงานจังหวัดอยุธยาจะเลิกการผลิตภายในสิ้นปี 2568 โดยจะย้ายการผลิตรถยนต์แบบสำเร็จรูปเพื่อจำหน่ายและส่งออกไปรวมที่โรงงานปราจีนบุรีเพียงแห่งเดียว ส่วนที่โรงงานอยุธยาจะปรับเป็นฐานการผลิตและส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์เท่านั้น
ซึ่งจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น หากมีการปรับลดกำลังการผลิตลงกว่าครึ่งจริงของ Honda ในครั้งนี้ จะทำให้กำลังการผลิตรถยนต์ Honda ในประเทศไทย จาก 270,000 คันต่อปี เหลือเพียง 120,000 ต่อปีเท่านั้น เรียกได้ว่าลดลงเกิน 50% ด้วยซ้ำ และนั่นจะทำให้โรงงาน Honda มีกำลังการผลิตน้อยกว่าโรงงานใหม่ล่าสุดของ BYD ที่จังหวัดระยองอีกด้วย
ผู้บริหาร Honda ในญี่ปุ่นให้ความเห็นถึงสถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยว่ายังไม่เห็นวี่แวว และเขาคิดว่ายอดขายของ Honda น่าจะยังไม่ฟื้นตัวในระยะเวลาอันสั้น นั่นอาจเป็นสาเหตุของการตัดสินใจในครั้งนี้
สำหรับ Honda เริ่มเดินสายการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2535 หรือกว่า 32 ปีแล้ว ยอดการผลิตถึงจุดพีคสุดในประวัติการณ์เมื่อปี 2556 อยู่ที่จำนวน 270,000 คัน แต่ในขณะที่ปีล่าสุด คือปี 2566 ยอดขายรวมของ Honda ในประเทศไทยลดลงมาเหลือเพียง 140,000 คันเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดี ยังคงมีสัญญาณที่หนักแน่นจาก Honda ว่ายังไม่มีแนวคิดในการย้ายฐานการผลิตทั้งหมดออกจากประเทศไทยในขณะนี้
ที่ผ่านมารถยนต์ค่ายญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่มีอิทธิพลต่อยวดยานบนถนนประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยกินส่วนแบ่งของรถยนต์ทั้งหมดกว่าร้อยละ 80 เรียกได้ว่า รถ 100 คัน จะมีรถญี่ปุ่นอยู่ถึง 80 คันเลยทีเดียว แต่สถานการณ์ในตอนนี้กำลังจะแตกแต่างออกไป โดยเฉพาะการเข้ามาอย่างจริงจังของรถยนต์จากประเทศจีน โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่อย่าง BYD ที่เดินหน้าสร้างความรู้จัก และแนะนำรถรุ่นใหม่ๆ ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จนเป็นแบรนด์รถสำคัญที่เข้ามาดึงยอดขายแชร์ส่วนแบ่งการตลาดไปจากผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นนั่นเอง