Ford มองแง่ดี เปิดกลยุทธ์ดุดันรอบด้าน สู้ศึกตลาดรถที่ภาพรวมยังไม่สดใส
Ford Ranger และ Ford Everest ยังถือเป็นพระเอกสำคัญและครองตำแหน่งรถที่มียอดขายดีที่สุดอันดับ 3 ทั้งในกลุ่มรถกระบะ และรถ PPV ทำยอดขายรวม 11,282 คัน ท่ามกลางความหม่นหมองของยอดขายรถยนต์รวมภายในประเทศ ในขณะที่กลุ่มรถ 4x4 แบบ 4 ประตู ค่าย Ford ถือว่าทำผลงานโดดเด่นรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ในตลาดอย่างเหนียวแน่น ครองส่วนแบ่งในตลาดถึง 37% ด้าน Ford Everest ไม่น้อยหน้าครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 27% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังการเปิดตัวของ Ford Everest Platinum
คอนเทนต์แนะนำ
แต่อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์รวมภายในประเทศถือว่าซบเซาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะที่ส่วนแบ่งเดิมจาก 42% ลดเหลือ 24% เท่านั้นในตอนนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ Ford รับรู้ถึงปัญหาเป็นอย่างนี้ และมองว่าเป็นเรื่องของปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดี รวมถึงการอัดฉีดเม็ดเงินและนโยบายของภาครัฐที่ยังล่าช้า และไม่ต่อเนื่อง แม้ที่ผ่านมาจะเริ่มมองเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐอยู่บ้าง แต่ตัวเลขยอดขายรถยนต์ภายในประเทศตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ค. ที่ผ่านมา ยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างเด่นชัด โดยเฉพาะรถกระบะกลุ่มที่มีราคาต่ำกว่า 6 แสนบาท เป็นกลุ่มที่มองว่าได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ
เชื่อ 6 เดือนหลังจะสถานการณ์ดีขึ้น
โดย Ford ยังมองเป็นบวกสำหรับ 6 เดือนหรือครึ่งปีหลังจากนี้ ตัวเลขยอดขายรถยนต์รวมภายในประเทศน่าจะกระเตื้องขึ้น โดยวางเป้ายอดขายรวมในปี 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 640,000 คัน ประเมินว่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก 10-20%
Ford มองกลุ่มรถ EV เป็นอย่างไร
ส่วนเรื่องการเข้ามาในตลาดของกลุ่มรถยนต์พลังงานใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ทาง Ford มองว่ากลุ่มรถประเภทนี้ยังไม่ถือเป็นคู่แข่งโดยตรง และยังส่งผลกระทบต่อบริษัทไม่มากนัก แม้ในปัจจุบันประเทศไทยจะมีรถ EV มากถึง 42 รุ่นด้วยกัน แต่ยังกระจุกอยู่ในกลุ่ม C Segment และ SUV เป็นหลัก ประกอบกับสถานการณ์การเติบโตในปีนี้ของรถกลุ่ม EV มีแนวโน้มไม่สดใสตามที่หลายฝ่ายคาดหมาย แต่กลับกลายเป็นกลุ่มของรถยนต์ประเทศลูกผสมโดยเฉพาะรถกลุ่ม Hybrid (HEV) ที่กลับได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ จะเห็นได้จากสถิติในปี 2566 รถ EV ครองส่วนแบ่งตลาดที่ 8.9% และปีนี้เขยิบเป็น 10-11% เท่านั้น ในขณะที่กลุ่มรถ xHEV ปีที่แล้วมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 15-20% เท่านั้น แต่ครึ่งปีแรก 2567 รถกลุ่มนี้กลับเติบโตขึ้นเป็น 32% เลยทีเดียว
เห็นด้วยรัฐสนับสนุน xHEV
สำหรับมาตรการล่าสุดจากภาครัฐ ที่หันมาให้การสนับสนุนรถกลุ่มพลังงานใหม่ (xHEV) หรือ Hybrid มากขึ้น ทาง Ford เห็นด้วยและให้การสนับสนุน พร้อมทั้งอยากให้ภาครัฐอย่าลืมมองยังค่ายรถเดิมๆ ที่ยังดำเนินกิจการ รวมถึงมีโรงงานผลิตรถในประเทศไทย และยังเป็นเสาหลักในการทำธุรกิจของอุตสาหกรรมด้วยเช่นกัน เนื่องจากเริ่มจะเห็นได้ชัดว่าสัญญาณการเติบโตของกลุ่ม EV ยังไม่ใช่คำตอบในตอนนี้
กลยุทธ์ Ford ปี 2567
ในส่วนของแผนการตลาด Ford ชูความแกร่งของแบรนด์ในฐานะผู้นำตลาดรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อผ่านกิจกรรม ‘King of Tough’ ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าและผู้ที่สนใจรถ Ford Ranger Raptor ร่วมทดสอบรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงในสนามที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ 3 สนาม ในจังหวัดชลบุรี เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี ซึ่งตลอดกิจกรรม ผู้เข้าร่วมงานจะได้มีโอกาสแข่งขันเพื่อคัดเลือกผู้ชนะจากแต่ละสนามรวม 6 คน เป็นตัวแทนร่วมทริปสุดพิเศษบนเส้นทางลาวและเวียดนามในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้
รวมทั้งยังโหมกระแส Ford Ranger ให้แรงต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง จับมือนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ‘มนต์แคน แก่นคูน’ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เปิดตัวเพลงใหม่ล่าสุด ‘สิพาความคิดฮอด...มากอดเด้อ’ เพื่อสานต่อความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งระหว่าง Ford และลูกค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับเพลง ‘พร้อมสู้ไหวกับอ้ายบ่’ เมื่อปีที่ผ่านมา
ด้านงานบริการลูกค้า Ford เผยว่ายอดการใช้งานนวัตกรรมบริการลูกค้าเพิ่มขึ้นทุกบริการในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีแล้ว ทั้งบริการนัดหมายออนไลน์เติบโต 44.3% หน่วยบริการเคลื่อนที่เติบโต 78% เพียงครึ่งปีแรกมีการใช้บริการกว่า 1.9 หมื่นครั้ง บริการรับ-ส่งรถนอกสถานที่เติบโต 21% และบริการตรวจเช็กตามระยะรวดเร็วภายในเวลา 60 นาที โดยใน 6 เดือนหลังของปี 2567 Ford เตรียมพัฒนาส่วนงานบริการ อาทิ
- การเพิ่มหน่วยให้บริการเคลื่อนที่ที่รองรับงานบริการซ่อมสีและตัวถังตามมาตรฐานฟอร์ดอีก 6 แห่ง จากเดิม 40 แห่งในปีที่แล้ว
- การพัฒนาช่องทางการสื่อสารผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ที่จะรองรับฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่อให้การสื่อสารระหว่างแบรนด์กับลูกค้ารวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นการอัปเดตสถานะงานซ่อม
- การยกระดับการจัดการอะไหล่รูปแบบใหม่ เสริมความแม่นยำและรวดเร็วในการกระจายอะไหล่ได้อย่างครอบคลุม
- การเน้นย้ำความคุ้มค่าของการเป็นเจ้าของรถฟอร์ด โดยค่าใช้จ่ายในการเช็กระยะของฟอร์ดเมื่อครบ 120,000 กิโลเมตร หรือ 6 ปี อยู่ในระดับที่คุ้มค่าและแข่งขันได้เมื่อพิจารณาต้นทุน บาท ต่อ กิโลเมตร
แคมเปญ Ford 28th Anniversary
ในโอกาสครบรอบ 28 ปีในประเทศไทย Ford ยังได้เปิดตัวแคมเปญ ‘Ford 28th Anniversary’ มอบสิทธิ์ลุ้นรับเงินคืนรวมมูลค่ากว่า 2,240,000 บาท เมื่อจองและออกรถฟอร์ดระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน 2567 ประกอบด้วย
- รางวัลเงินคืนมูลค่า 280,000 บาท จำนวน 5 รางวัล
- รางวัลเงินคืนมูลค่า 28,000 บาท จำนวน 30 รางวัล
- การจอง 1 คัน จะได้รับ 1 สิทธิ์ พิเศษ! รับสิทธิ์ในการจับฉลากรางวัลเงินคืน 28 สิทธิ์ต่อการจองรถ 1 คัน หากจองรถฟอร์ดระหว่างวันที่ 17-18 สิงหาคม 2567
นอกจากแคมเปญ Ford 28th Anniversary ยังมีข้อเสนอสุดด้านบริการที่หลากหลายระหว่างเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 2567 ได้แก่
- ส่วนลดพิเศษ 28% เมื่อซื้ออุปกรณ์ตกแต่งแท้ฟอร์ด ได้แก่ ฝาปิดท้ายกระบะทุกรุ่น และ/หรือ สปอร์ตบาร์ Hamer จำนวนจำกัด 100 สิทธิ์ตลอดระยะเวลาแคมเปญ (อุปกรณ์ตกแต่งแท้ฟอร์ดรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
- เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรองในราคาเพียง 280 บาท จำนวน 1,000 สิทธิ์ต่อเดือน ครอบคลุมถึงน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 913D SAE 5W30 ไส้กรองน้ำมันเครื่อง และชุดแหวนรอง โดยลูกค้าต้องทำการนัดหมายผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น
- ส่วนลดพิเศษ 2,800 บาท เมื่อซื้อโปรแกรมขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ Ford Care Gold และ Driveline ทุกแพ็กเกจ จำนวน 500 สิทธิ์ ส่วนลดโปรโมชั่นสามารถใช้ซื้อโปรแกรมขยายระยะการรับประกันคุณภาพรถยนต์ฟอร์ดแพ็กเกจใดก็ได้ สำหรับรถที่ยังอยู่ในเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพจากโรงงานที่บริษัทฯ กำหนดเท่านั้น
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและเงื่อนไขแคมเปญพิเศษได้ที่เว็บไซต์ www.ford.co.th และช่องทางโซเชียลมีเดียของฟอร์ด ประเทศไทย ทั้ง Facebook ฟอร์ด YouTube Ford Thailand TikTok Ford Thailand และ Line @FordThailand
