Porsche ปอร์เช่ ด้เปิดตัวรถฟอร์มูล่าอี (Formula E) สำหรับ 2 ฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง นั่นคือ ปอร์เช่ 99X อิเล็คทริค (Porsche 99X Electric) ใหม่ รถแข่งแบบเปิดล้อ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับกฎระเบียบของรถฟอร์มูล่าอี (Formula E) เจนเนอเรชันที่ 3 ที่ปรับปรุงใหม่ มีชื่อเรียกว่า GEN3 Evo และมาพร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีภายในของปอร์เช่อย่างรอบด้าน โดย Porsche 99X Electric ใหม่ ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ด้วยวีดีโอที่นำเสนอโดย บรูโน คอเรอา (Bruno Correia) นักขับรถเซฟตี้ คาร์ (Safety Car) ของการแข่งขันฟอร์มูล่าอี (Formula E) และนักพัฒนาของ GEN3 Evo ในด้านนวัตกรรมทางเทคนิคหลักประกอบด้วย การเปิดใช้งานระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ยางรถยนต์ที่มีแรงยึดเกาะสูงขึ้น และปีกหน้าที่มีการปรับเปลี่ยน โดยปาสคาล เวียร์ไลน์ (Pascal Wehrlein) ที่ครองตำแหน่งแชมป์โลก และ อันโตนิโอ เฟลิกซ์ ดา คอสต้า (António Félix da Costa) นักขับที่มีชัยชนะมากที่สุดในฤดูกาลที่แล้ว ยังคงเป็นนักขับของทีม TAG Heuer Porsche Formula E Team ส่วนรถแข่งฟอร์มูล่าอี (Formula E) อีก 2 คัน ที่เป็นของทีมลูกค้า อย่างแอนเดร็ตติ (Andretti) จะมีเจค เดนนิส (Jake Dennis) อดีตแชมป์โลก และนิโก มุลเลอร์ (Nico Müller) นักขับรถพัฒนาประจำโรงงานปอร์เช่คนใหม่เป็นผู้ขับ
รถรุ่นใหม่นี้ สืบทอดมาจากสูตรสำเร็จของรถแข่งสปอร์ตที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของปอร์เช่ (Porsche) ปัจจุบัน โดยรถ Porsche 99X Electric ในเวอร์ชัน GEN3 ได้ผ่านการคว้าตำแหน่งแชมป์โลกมาเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน ด้วยฝีมือการควบคุมหลังพวงมาลัยของเดนนิส (Dennis) ในฤดูกาลปี 2022/2023 และเวียร์ไลน์ (Wehrlein) ในปี 2023/2024 ที่ยังคงมีแนวคิดเฉกเช่นเดิม นั่นคือการยึดมั่นตามกฎระเบียบ ในการใช้พลังงานที่มีอยู่ได้อย่างจำกัด ส่งผลบังคับให้ทีมและนักขับต้องเพิ่มประสิทธิภาพของรถในทุกด้าน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ GEN3 Evo มีส่วนประกอบซึ่งพัฒนาโดยผู้ผลิต ที่ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงได้ ด้วยเหตุนี้ แผนกพัฒนาของปอร์เช่ในไวส์ซัค (Porsche’s development department in Weissach) จึงถือโอกาสนี้ เพิ่มประสิทธิภาพจากศักยภาพที่ระบุไว้ในช่วงสองฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของระบบขับเคลื่อน การรับรองส่วนประกอบของผู้ผลิตที่มีการปรับปรุงนี้จะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 2 ฤดูกาล ในส่วนของรถรุ่นเจเนอเรชันที่สี่ GEN4 กำหนดเปิดตัวสำหรับฤดูกาลที่ 13 (2026/2027)
นวัตกรรมทางเทคนิคหลักของ GEN3 Evo เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์มาตรฐานที่ใช้โดยทุกทีมและผู้ผลิตรถที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้ จากนี้ไป ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าสามารถใช้งานได้ในรอบการแข่ง เพื่อกำหนดตำแหน่งสตาร์ทในการแข่งขัน (qualifying duels) ระหว่างการเริ่มการแข่งขัน และโหมดโจมตี (Attack Mode) ซึ่งจะทำให้รถมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อชั่วคราว ช่วยให้ Porsche 99X Electric เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลาประมาณ 2 วินาที การทำให้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเป็นอีกหนึ่งความท้าทายทางเทคนิค ซึ่งสิ่งที่ได้รับถือเป็นประโยชน์ในการพัฒนารถยนต์ที่ใช้ขับบนท้องถนนทั่วไปของปอร์เช่ด้วย
ยางประสิทธิภาพสูง จากผู้ผลิตโดยเฉพาะอย่างฮังคุก (Hankook) จะช่วยให้รถฟอร์มูล่าอี (Formula E) สามารถทำความเร็วได้สูงขึ้นในฤดูกาลใหม่ และเพื่อเป็นการลดการใช้ทรัพยากร รถแต่ละคันจะมียางให้ใช้งานเพียงแค่ 2 ชุด ต่อสุดสัปดาห์การแข่งขัน (3 ชุดสำหรับการแข่งขันแบบนักขับคู่) รูปแบบยางทำให้ยางเหมาะสมกับสภาพทั้งสภาพพื้นผิวแห้งและเปียก จุดสังเกตุของรถรุ่นใหม่นี้ ดูได้จากปีกหน้าที่ปรับเปลี่ยนใหม่ รูปทรงใหม่จะทำให้รถมีความเสถียรมากขึ้น ช่วยให้ทนต่อแรงกระแทกได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมในส่วนคลุมหลังแถบโรลบาร์และด้านหน้าล้อหลัง
สีใหม่ที่ใช้บนตัวรถของ Porsche 99X Electric จะเป็นสีม่วงเมทัลลิก (Purple Sky Metallic) และสีเขียวเมทัลลิก (Shade Green Metallic) ซึ่งเป็นสีเดียวกับที่ปอร์เช่ (Porsche) ใช้ในรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ในสายการผลิตสำหรับขับขี่บนท้องถนนเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา อย่าง ไทคานน์ เทอร์โบ จีที (Taycan Turbo GT) รถยนต์ผลิตที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่แบรนด์เคยสร้างมา โดยเปลี่ยนเป็นเฉดสีม่วงและเขียว แทนการผสมผสานแบบดั้งเดิมของสีดำ ขาว และแดง เพื่อสื่อความหมายถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากกีฬามอเตอร์สปอร์ตสู่สายการผลิต การเปลี่ยนแปลงด้านสีนี้ยังแสดงถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าและจิตวิญญาณแห่งความเป็นผู้นำของปอร์เช่ โดยมีเป้าหมายเพื่อสื่อสารความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมการสร้างสรรค์ของบริษัท ในการแข่งขันฟอร์มูล่าอี (Formula E) ที่ก้าวหน้านี้
ทีม TAG Heuer Porsche Formula E และ Andretti Formula E จะเข้าร่วมการทดสอบก่อนฤดูกาลอย่างเป็นทางการของการแข่งขันฟอร์มูล่าอี (Formula E) ที่เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 4 ถึง 7 พฤศจิกายน นอกจากเวียร์ไลน์ (Wehrlein) และดาคอสต้า (da Costa) แล้ว นักขับหญิงอีก 2 คนคือ กาเบรียล่า จิลโควา (Gabriela Jílková) จากเช็กเกีย (Czechia) และมาร์ตา การ์เซีย (Marta García) จากสเปน (Spain) จะเป็นผู้ขับขี่รถปอร์เช่ (Porsche) ในเมืองบาเลนเซีย (Valencia)