เปิดมิติใหม่ของการดูแลผู้สูงอายุ ฉายภาพ “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช” ต้นแบบการดูแลรักษาผู้สูงอายุ แบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์การเปลี่ยนผ่านช่วงอายุของประชากร โดยมีประเด็นที่น่าสนใจคือ การขยายตัวของจำนวนผู้สูงวัย ที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในแต่ละปี และคาดการณ์ในอีก 10 ปี ข้างหน้า ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society) โดยจะมีผู้สูงวัยสูงถึงร้อยละ 28 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งจากสถิติดังกล่าวอาจส่งผลต่อสมาชิกในครอบครัวที่ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยทำงานต้องรับภาระดูแลผู้สูงอายุในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น การเตรียมความพร้อมเชิงระบบที่รอบด้านในประเทศไทยจึงเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่หลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมต้องให้ความร่วมมือ เพื่อรับมือกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการส่งเสริมสวัสดิการผู้สูงอายุ ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่อำนวยความสะดวก ตลอดจนการมีระบบสาธารณสุขที่มีความพร้อม และเป็นต้นแบบในการส่งต่อองค์ความรู้ทางด้านวิชาการให้กับสังคมไทย
ด้วยปัจจัยดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของภาวการณ์ที่ประเทศไทยควรเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ ซึ่งนับเป็นความท้าทายของทุกภาคส่วนในสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันที่เป็นผู้นำทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ รวมถึงมีแพทย์และทีมสหสาขาวิชาชีพ จึงได้ผนึกกำลังทุกภาคส่วน เพื่อริเริ่มโครงการก่อสร้าง “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช” เป็นศูนย์วิทยาการต้นแบบการดูแลรักษาผู้สูงอายุที่ครบวงจรที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อยกระดับการดูแลผู้สูงอายุในทุกมิติ พร้อมสร้างองค์ความรู้ กระจายองค์ความรู้ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติสำหรับสาธารณชน
ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เล่าถึงการจัดตั้งศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราชว่า “สถานการณ์ปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยของประเทศไทย นับเป็นเรื่องเร่งด่วนและมีความท้าทายต่อการรับมือในทุกมิติ ซึ่งศิริราชให้ความสำคัญมาโดยตลอดในการมุ่งสร้างสังคมผู้มีอายุยืน หรือ Healthy Aging ที่ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีสุขภาวะที่ดีทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ตลอดจนการส่งเสริมและผลักดันให้ครอบครัว สังคมและชุมชน มีความพร้อมและสร้างการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาผู้สูงอายุแบบองค์รวมทั้งทางวิชาการและการปฏิบัติ รวมถึงส่งเสริมการป้องกันไม่ให้เกิดโรค จึงมีความมุ่งมั่นและคาดหวังว่าการจัดตั้งศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช จะเป็นศูนย์ต้นแบบในการดูแลผู้สูงอายุได้อย่างครบวงจร เพื่อการดูแลผู้ป่วยสูงวัยจนสามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข”
ศ.นพ.อภิชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับ “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช” ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร บนพื้นที่กว่า 24 ไร่ รองรับผู้ป่วยในจากโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลใกล้เคียงในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ที่ทางศิริราชได้วางโมเดลให้เป็นชุมชนต้นแบบที่มีการพัฒนาทางด้านการดูแลผู้สูงอายุร่วมกัน โดยภายในแบ่งเป็น หอผู้ป่วยสำหรับการพักฟื้นเพื่อเตรียมตัวก่อนกลับบ้าน ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับคนในครอบครัวหรือญาติของผู้ป่วย ที่จะให้ทั้งความรู้และสอนวิธีการดูแลผู้สูงอายุเมื่อพำนักอยู่ที่บ้าน รวมถึงห้องตัวอย่างสำหรับการจัดเตรียมห้องในที่อยู่อาศัยสำหรับรองรับผู้สูงอายุเมื่อกลับถึงบ้าน ทั้งนี้ ศูนย์ฯ มาพร้อมกับจุดเด่นใน 3 มิติ ได้แก่
ต้นแบบศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุแห่งแรกของประเทศไทย พร้อมดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร ผ่านนวัตกรรมการรักษาและการกระจายองค์ความรู้เพื่อฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุให้แข็งแรงทั้งกายและใจo ส่งต่อองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต มุ่งเน้นทางด้านการพัฒนาศึกษาฝึกอบรม วิจัย สร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ เพื่อนำไปสู่การกระจายองค์ความรู้ในเชิงปฏิบัติได้อย่างยั่งยืนo ยกระดับสาธารณสุขไทยให้เป็นสังคมผู้มีอายุยืนอย่างมีคุณภาพ ต้นแบบการดูแลผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ พร้อมเป็นแบบอย่างให้กับสาธารณสุขชุมชนทั่วประเทศ
“การจัดสร้าง ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช จะเป็นก้าวแรกของประเทศไทยในการวางรากฐานระบบสาธารณสุขและเตรียมความพร้อม เพื่อส่งเสริมให้สังคมไทยได้ก้าวสู่สังคมอายุยืนอย่างมีคุณภาพ รวมถึงเป็นต้นแบบในด้านองค์ความรู้และงานวิจัยของสาธารณสุขระดับประเทศ” ศ.นพ.อภิชาติ กล่าวสรุป
Advertisement