นพ. ศุภฤกษ์ วิจารณาญาณ หรือ หมอโอ๊ค DoctorSixpack เผยสาระเน้นๆ ประเด็นกฎเยี่ยมผู้ป่วยใน ICU ชี้ โรงพยาบาลเป็นแหล่งเชื้อโรค เสี่ยงติดเชื้อ กลุ่มเสี่ยงสุดคือ เด็กและผู้สูงอายุ
สืบเนื่องจากประเด็นร้อน หนุ่มโรงงานทำร้ายร่างกายพยาบาลสาว กลางโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง อ้างฝ่ายพยาบาลพูดจาไม่ดีใส่ ปมไม่ให้เด็กเข้าเยี่ยมญาติในห้อง ICU
ตามที่ "อมรินทร์ออนไลน์" ได้นำเสนอบทความสาระความรู้เกี่ยวกับ หลักปฏิบัติเหมาะสม สิ่งทำได้ - สิ่งทำไม่ได้ ในการเข้าเยี่ยมผู้ป่วย ICU ไปแล้วนั้น
ล่าสุดมีข้อมูลเพิ่มเติมจาก นพ. ศุภฤกษ์ วิจารณาญาณ หรือ "หมอโอ๊ค" เจ้าของเพจฯ หมอโอ๊ค DoctorSixpack อธิบายเพิ่มเติมว่า เหตุใดการเยี่ยมผู้ป่วยใน ICU จึงเคร่งครัด พร้อมเตือนถึง ข้อเสีย การไปโรงพยาบาลโดยไม่เหตุจำเป็น รวมไปถึงข้อกฎหมายเกี่ยวกับการทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์
ซึ่ง "หมอโอ๊ค" เผยถึงประเด็นดังกล่าวว่า "พยาบาลสาวโดนคนไข้ตบหน้า ! เพราะห้ามเด็กเข้าเยี่ยมคุณยายในห้อง ICU!เพื่อนๆ คิดว่าเรื่องนี้ใครผิด? เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจริงในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อพยาบาลทำหน้าที่ตามมาตรฐานความปลอดภัย แต่กลับถูกทำร้ายร่างกายจากญาติผู้ป่วย!
วันนี้ หมอโอ๊ค อยากชวนเพื่อนๆ มาทำความเข้าใจว่า…“ทำไมกฎการเยี่ยมผู้ป่วยใน ICU จึงเคร่งครัด?”
เพื่อสุขภาพของคนที่เรารักและบุคลากรทางการแพทย์เอง
ห้อง ICU เป็นพื้นที่ดูแลผู้ป่วยอาการหนัก ต้องการสภาพแวดล้อมที่ควบคุมเป็นพิเศษ ดังนั้น การเข้าเยี่ยมโดยไม่จำเป็น อาจส่งผลกระทบต่อคนไข้ และทีมแพทย์อย่างคาดไม่ถึง!
- รบกวนการรักษา – ผู้ป่วย ICU ต้องได้รับการดูแลแบบ 24 ชั่วโมง การเข้าเยี่ยมที่มากเกินไป อาจทำให้ทีมแพทย์ทำงานได้ไม่เต็มที่
- เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ – ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย ICU อ่อนแอกว่าปกติ เชื้อโรคที่ติดมากับผู้มาเยี่ยมอาจทำให้อาการแย่ลง
- กระทบต่ออารมณ์ของผู้ป่วย – แม้การเยี่ยมจะช่วยให้กำลังใจ แต่หากมากเกินไป อาจทำให้ผู้ป่วยเหนื่อยและฟื้นตัวช้าลง
งานวิจัยจาก University of Michigan (2020) พบว่า “ผู้ป่วย ICU ที่มีการจำกัดการเยี่ยม มีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วขึ้น 30% เนื่องจากลดความเครียดและการติดเชื้อแทรกซ้อน”
เพื่อนๆ เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการเยี่ยมผู้ป่วย ICU ไหม? แบ่งปันกันหน่อยนะ!
เชื้อโรคในโรงพยาบาล ร้ายแรงกว่าที่เราคิด โดยเฉพาะกับผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
เชื้อที่พบได้บ่อยในโรงพยาบาล :
- MRSA (Methicillin-resistant Staphylococcus aureus) – ดื้อยาปฏิชีวนะหลายชนิด
- VRE (Vancomycin-resistant Enterococci) – ดื้อต่อยาวาโนมัยซิน
- Klebsiella pneumoniae – เชื้อในระบบทางเดินหายใจ
โรคติดเชื้อในโรงพยาบาล เสี่ยงกว่าที่คิด !
โรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก รวมถึงการใช้เครื่องมือแพทย์ร่วมกันและการสัมผัสระหว่างบุคลากรกับผู้ป่วย ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ง่าย การติดเชื้อในโรงพยาบาล (Healthcare-associated infections - HAIs) เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อการรักษาและอาจเพิ่มอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้
โรคติดเชื้อในโรงพยาบาลที่พบบ่อย
1. ปอดบวมจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ (Ventilator-associated pneumonia - VAP)
• เกิดจากการใช้เครื่องช่วยหายใจใน ICU ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ปอดผ่านทางท่อช่วยหายใจ
• เชื้อที่พบบ่อย: Pseudomonas aeruginosa, Staphylococcus aureus (MRSA), Klebsiella pneumoniae
• อาการ: ไข้สูง, หายใจลำบาก, เสมหะข้น, ระดับออกซิเจนในเลือดลดลง
2. การติดเชื้อในกระแสเลือดจากการใช้สายสวน (Catheter-related bloodstream infections - CRBSI)
• เกิดจากเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางสายสวนหลอดเลือดดำที่ใช้ให้น้ำเกลือหรือยาฉีด
• เชื้อที่พบบ่อย: Staphylococcus epidermidis, Enterococcus spp., Candida spp.
• อาการ: ไข้สูง, ความดันโลหิตต่ำ, หนาวสั่น, หัวใจเต้นเร็ว
3. การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะจากสายสวนปัสสาวะ (Catheter-associated urinary tract infections - CAUTI)
• เกิดจากเชื้อโรคสะสมบริเวณสายสวนปัสสาวะ ทำให้เกิดการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ
• เชื้อที่พบบ่อย: Escherichia coli, Klebsiella pneumoniae, Enterococcus spp.
• อาการ: ปัสสาวะขุ่นหรือมีกลิ่นผิดปกติ, ปวดท้องน้อย, ไข้สูง
4. แผลติดเชื้อจากการผ่าตัด (Surgical site infections - SSI)
• เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่แผลผ่าตัด ทำให้เกิดการอักเสบและหนอง
• เชื้อที่พบบ่อย: Staphylococcus aureus (รวมถึง MRSA), Pseudomonas aeruginosa, Enterococcus spp.
• อาการ: แผลบวมแดง, มีหนอง, ไข้สูง, อวัยวะข้างเคียงติดเชื้อ
ผลกระทบจากการติดเชื้อในโรงพยาบาล
- เพิ่มระยะเวลานอนโรงพยาบาล – ผู้ป่วยที่ติดเชื้อมักต้องอยู่โรงพยาบาลนานขึ้น 7-14 วัน
- เพิ่มค่าใช้จ่ายในการรักษา – ค่ายารักษาโรคติดเชื้อและการดูแล ICU สูงขึ้น 2-3 เท่า
- เพิ่มโอกาสการเสียชีวิต – ผู้ป่วยที่ติดเชื้อรุนแรง เช่น Sepsis อาจมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 50%
งานวิจัยจาก CDC (2022) ระบุว่า “มีผู้ป่วยกว่า 1.7 ล้านคนต่อปี ที่ติดเชื้อในโรงพยาบาลในสหรัฐฯ และมีผู้เสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนกว่า 99,000 คนต่อปี”
การไปโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็นอาจทำให้เพื่อนๆ ตกอยู่ในความเสี่ยงมากกว่าที่คิด
ความเสี่ยงของการมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น
1. เสี่ยงติดเชื้อจากผู้ป่วยรายอื่น
• โรงพยาบาลเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคที่อาจติดต่อผ่านละอองฝอย (Airborne) หรือการสัมผัส
• โรคที่แพร่กระจายได้ง่าย : ไข้หวัดใหญ่, วัณโรค, โควิด-19
2. เสี่ยงติดเชื้อจากพื้นผิวในโรงพยาบาล
• อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน เช่น เตียงนอน, โต๊ะ, เก้าอี้ อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน
• เชื้อที่อยู่บนพื้นผิวได้นาน เช่น Norovirus (7 วัน), MRSA (หลายสัปดาห์)
3. เสี่ยงได้รับยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น
• การได้รับยาปฏิชีวนะบ่อยเกินไป อาจเพิ่มโอกาสเกิดเชื้อดื้อยาในร่างกาย
งานวิจัยจาก WHO (2023) ระบุว่า “ผู้ที่มาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น มีโอกาสติดเชื้อ มากกว่าผู้ที่อยู่บ้านถึง 2.5 เท่า โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ”
เชื้อดื้อยา (Antibiotic-resistant bacteria) เป็นปัญหาสุขภาพที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อยากขึ้นและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้น
ตัวอย่างเชื้อดื้อยาที่อันตรายในโรงพยาบาล
1. MRSA (Methicillin-resistant Staphylococcus aureus)
• ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ Methicillin และ Beta-lactams
• มักทำให้เกิด แผลติดเชื้อ, ปอดบวม, การติดเชื้อในกระแสเลือด
• อัตราการเสียชีวิตสูงถึง 20-50% ในกรณีติดเชื้อในกระแสเลือด
2. CRE (Carbapenem-resistant Enterobacteriaceae)
• ดื้อต่อยากลุ่ม Carbapenems ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะที่แรงที่สุด
• อาจทำให้เกิด ภาวะติดเชื้อในปอด, ระบบทางเดินปัสสาวะ และภาวะโลหิตเป็นพิษ (Sepsis)
• เสียชีวิตสูงถึง 50% ในกรณีติดเชื้อรุนแรง
3. VRE (Vancomycin-resistant Enterococcus)
• ดื้อต่อยา Vancomycin ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะสำคัญ
• ทำให้เกิด การติดเชื้อในกระแสเลือด, แผลติดเชื้อ, และการติดเชื้อในช่องท้อง
งานวิจัยจาก The Lancet (2023) ระบุว่า “การติดเชื้อดื้อยาเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยในโรงพยาบาล กว่า 1.27 ล้านคนต่อปีทั่วโลก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
สรุป :
- ติดเชื้อในโรงพยาบาลรุนแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
- การมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น อาจเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อ
- เชื้อดื้อยาเป็นภัยคุกคามที่ทำให้การรักษายากขึ้น
เพื่อนๆ เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการติดเชื้อในโรงพยาบาลไหม? มาแชร์กันในคอมเมนต์!
งานวิจัยจาก CDC (2021) พบว่า “การติดเชื้อในโรงพยาบาลเพิ่มอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย ICU ได้ถึง 40%”
ทางที่ดีคือ งดเยี่ยมหากไม่จำเป็น และล้างมือทุกครั้งก่อนเข้าออกห้อง ICU
เพื่อนๆ คิดว่าวิธีไหนช่วยลดความเสี่ยงจากเชื้อโรคในโรงพยาบาลได้อีก?
โรงพยาบาลคือแหล่งรวมเชื้อโรค การมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น อาจเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวเองและคนรอบข้าง!
การไปโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็นอาจทำให้เพื่อนๆ ตกอยู่ในความเสี่ยง มากกว่าที่คิด
ความเสี่ยงของการมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น
1. เสี่ยงติดเชื้อจากผู้ป่วยรายอื่น
• โรงพยาบาลเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคที่อาจติดต่อผ่านละอองฝอย (Airborne) หรือการสัมผัส
• โรคที่แพร่กระจายได้ง่าย: ไข้หวัดใหญ่, วัณโรค, โควิด-19
2. เสี่ยงติดเชื้อจากพื้นผิวในโรงพยาบาล
• อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน เช่น เตียงนอน, โต๊ะ, เก้าอี้ อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน
• เชื้อที่อยู่บนพื้นผิวได้นาน เช่น Norovirus (7 วัน), MRSA (หลายสัปดาห์)
3. เสี่ยงได้รับยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น
• การได้รับยาปฏิชีวนะบ่อยเกินไป อาจเพิ่มโอกาสเกิดเชื้อดื้อยาในร่างกาย
งานวิจัยจาก WHO (2023) ระบุว่า “ผู้ที่มาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น มีโอกาสติดเชื้อ มากกว่าผู้ที่อยู่บ้านถึง 2.5 เท่า โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ”
- เสี่ยงติดเชื้อ – ในโรงพยาบาลมีทั้งไวรัสและแบคทีเรียที่อาจทำให้ป่วยหนักกว่าเดิม
- เพิ่มภาระบุคลากร – ทำให้ทีมแพทย์และพยาบาลต้องแบ่งเวลาดูแลคนไข้หนัก
- ทำให้เชื้อโรคพัฒนาดื้อยา – การใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น อาจทำให้เชื้อดื้อยาเพิ่มขึ้น
งานวิจัยจาก WHO (2022) พบว่า “ประชากร 1 ใน 3 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยไม่มีเหตุจำเป็น เสี่ยงติดเชื้อในโรงพยาบาลมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า”
เพื่อนๆ เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการติดเชื้อจากโรงพยาบาลไหม? มาเล่าให้ฟังหน่อย!
เชื้อดื้อยา (Antibiotic-resistant bacteria) เป็นปัญหาสุขภาพที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อยากขึ้นและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้น
ตัวอย่างเชื้อดื้อยาที่อันตรายในโรงพยาบาล
1. MRSA (Methicillin-resistant Staphylococcus aureus)
• ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ Methicillin และ Beta-lactams
• มักทำให้เกิด แผลติดเชื้อ, ปอดบวม, การติดเชื้อในกระแสเลือด
• อัตราการเสียชีวิตสูงถึง 20-50% ในกรณีติดเชื้อในกระแสเลือด
2. CRE (Carbapenem-resistant Enterobacteriaceae)
• ดื้อต่อยากลุ่ม Carbapenems ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะที่แรงที่สุด
• อาจทำให้เกิด ภาวะติดเชื้อในปอด, ระบบทางเดินปัสสาวะ และภาวะโลหิตเป็นพิษ (Sepsis)
• เสียชีวิตสูงถึง 50% ในกรณีติดเชื้อรุนแรง
3. VRE (Vancomycin-resistant Enterococcus)
• ดื้อต่อยา Vancomycin ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะสำคัญ
• ทำให้เกิด การติดเชื้อในกระแสเลือด, แผลติดเชื้อ, และการติดเชื้อในช่องท้อง
งานวิจัยจาก The Lancet (2023) ระบุว่า “การติดเชื้อดื้อยาเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยในโรงพยาบาล กว่า 1.27 ล้านคนต่อปีทั่วโลก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
สรุป :
- ติดเชื้อในโรงพยาบาลรุนแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
- การมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น อาจเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อ
- เชื้อดื้อยาเป็นภัยคุกคามที่ทำให้การรักษายากขึ้น
เพื่อนๆ เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการติดเชื้อในโรงพยาบาลไหม? มาแชร์กันในคอมเมนต์!
เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์
- จำกัดเวลาการเยี่ยม – ไม่เกิน 15-20 นาที
- ล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังเยี่ยม
- ห้ามนำอาหารเข้าไปในห้อง ICU
- ห้ามใช้เสียงดัง หรือพูดคุยนานเกินไป
เพื่อนๆ เคยมีประสบการณ์เยี่ยม ICU แล้วรู้สึกว่าควรปรับปรุงอะไรไหม? แบ่งปันกันนะ!
บุคลากรทางการแพทย์มีสิทธิ์ได้รับความปลอดภัยในการทำงาน!
- กฎหมาย พ.ร.บ. คุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ มาตรา 295
“ห้ามทำร้ายร่างกาย หรือข่มขู่บุคลากรทางการแพทย์ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1-3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท”
เพื่อนๆ คิดว่ากฎหมายปัจจุบันเข้มงวดพอไหม? หรือควรเพิ่มบทลงโทษ?
สรุปทั้งหมด
- หลีกเลี่ยงเยี่ยม ICU หากไม่จำเป็น
- เชื้อโรคในโรงพยาบาลอันตรายกว่าที่คิด
- เชื้อดื้อยาเป็นภัยเงียบที่ต้องระวัง
- เคารพกฎระเบียบของโรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
ขอบคุณข้อมูลจาก : หมอโอ๊ค DoctorSixpack
Advertisement