Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
โรคร่วม-ความเครียด ปัจจัยเสี่ยงกระตุ้นให้เกิดโรคงูสวัด

โรคร่วม-ความเครียด ปัจจัยเสี่ยงกระตุ้นให้เกิดโรคงูสวัด

1 มี.ค. 68
10:05 น.
|
222
แชร์

ผลสำรวจ GSK ชี้ วัย 50+ กว่าครึ่งรู้สึกเด็กกว่าวัย เสี่ยงมองข้ามภัยเงียบ โรคงูสวัด ปัจจัยเสี่ยงกระตุ้นให้เกิดโรค

GSK เผยผลสำรวจระดับโลกเนื่องใน สัปดาห์โรคงูสวัดประจำปี 2568 ของผู้ที่มีอายุระหว่าง 50-60 ปี พบว่า วัย 50+ มีความเครียดในระดับสูง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคงูสวัด และกว่าครึ่งรู้สึกเด็กกว่าอายุจริงจนอาจทำให้ขาดความตระหนักถึงความเสี่ยงของโรคที่มาพร้อมกับอายุ เพราะระบบภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ตอกย้ำความสำคัญของการให้ความรู้ด้านสาธารณสุขเกี่ยวกับโรคงูสวัดและผลกระทบของโรค รวมทั้งการส่งเสริมการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรคที่สัมพันธ์กับอายุ

พญ.บุษกร มหรรฆานุเคราะห์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ GSK กล่าวว่า “สัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ (วันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2568) ถือเป็นสัปดาห์โรคงูสวัดทั่วโลก GSK ได้ร่วมกับสมาพันธ์ผู้สูงอายุสากล (IFA) รณรงค์ป้องกันโรคงูสวัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคงูสวัดโดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป”

โรคงูสวัดเป็นโรคที่สร้างความเจ็บปวดและอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงและยาวนาน เกิดจากไวรัสวาริเซลลา-ซอสเตอร์ (VZV) ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส ผู้ที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสจะมีเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคงูสวัดแฝงตัวอยู่ในระบบประสาท ซึ่งอาจถูกกระตุ้นให้แสดงอาการเมื่ออายุมากขึ้น โดยผู้ใหญ่ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเนื่องจากภูมิคุ้มกันที่ลดลงตามวัย

ผู้ป่วยจะมีอาการผื่นที่มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำพองใสบริเวณหน้าอก ท้อง หรือใบหน้า มีอาการปวดตามแนวของผื่น อาการปวดมักมีลักษณะปวดแสบปวดร้อน หรือปวดเหมือนไฟฟ้าช็อต และอาจเกิดอาการปวดเส้นประสาท (PHN) เป็นเวลานานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน และบางครั้งอาจคงอยู่นานหลายปี ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุดของโรคงูสวัด โดยเกิดขึ้นในร้อยละ 5-30 ของผู้ป่วยโรคงูสวัดทั้งหมด ขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วย

นอกจากนี้ โรคงูสวัดอาจส่งผลต่อดวงตา โดยอาจสูญเสียการมองเห็นได้ในบางกรณี และอาจเกี่ยวข้องกับภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น หัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง

ในสัปดาห์โรคงูสวัดประจำปี 2568 GSK ได้เผยแพร่ผลสำรวจทั่วโลกจัดทำโดย IPSOS โดยได้สำรวจออนไลน์กับผู้ใหญ่อายุ 50-60 ปี จำนวน 8,400 คนจาก 9 ประเทศ ได้แก่ บราซิล จีน เยอรมนี อินเดีย ไอร์แลนด์ อิตาลี ญี่ปุ่น โปรตุเกส และสหรัฐอเมริกา เพื่อสำรวจทัศนคติเกี่ยวกับการสูงวัยและความเข้าใจในเรื่องระบบภูมิคุ้มกันที่สัมพันธ์กับอายุ โดยอายุที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลต่อความสามารถของร่างกายในการต่อสู้กับเชื้อโรค เช่น โรคงูสวัด

ผลสำรวจระบุว่า 52% ของผู้ที่มีอายุ 50-60 ปีรู้สึกว่าตนเองอายุน้อยกว่าความเป็นจริง โดย 19% รู้สึกว่าตนเองอายุน้อยกว่าความเป็นจริงถึง 10 ปี และ 37% ของผู้ที่รู้สึกว่าตนเองอายุน้อยกว่าความเป็นจริง ยอมรับว่า "ไม่มีความกังวล" เกี่ยวกับโอกาสในการเกิดโรคงูสวัด ทั้งนี้ จากสถิติทั่วโลก ผู้ใหญ่ 1 ใน 3 จะมีโอกาสเป็นโรคงูสวัดในช่วงชีวิตของตน

พญ.บุษกร กล่าวว่า “ผลสำรวจชี้ว่า วัย 50+ จำนวนมากรู้สึกว่าตนเองอายุน้อยกว่าอายุจริง มีความสุข และมีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่ผู้คนมีทัศนคติเชิงบวกต่อการสูงวัย อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกเหล่านี้อาจทำให้ละเลยหรือมองข้ามความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุที่เพิ่มขึ้น เช่น โรคงูสวัด แม้ว่าผู้สูงวัยจะรู้สึกว่าตนเองมีสุขภาพดี แต่การดูแลสุขภาพยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะความสามารถตามธรรมชาติของร่างกายในการป้องกันเชื้อโรคจะลดลงตามวัย ดังนั้น การสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจในเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างเหมาะสมเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ”

โรคร่วม-ความเครียด ปัจจัยเสี่ยงกระตุ้นให้เกิดโรคงูสวัด

ผู้ตอบแบบสำรวจ 55% ไม่ทราบว่า โรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคไตเรื้อรัง ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอได้ และผู้ตอบแบบสำรวจในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวระบุว่า ไม่มีความกังวลต่อการเป็นโรคงูสวัด และไม่ทราบว่า ควรจะกังวลต่อการเป็นโรคงูสวัดหรือไม่

ผู้ตอบแบบสำรวจ 68% ระบุว่า ตนเองมีความเครียดในระดับสูง ขณะที่ 16% เผยว่า ต้องเผชิญกับความท้าทายในชีวิตประจำวันต่าง ๆ เช่น อายุที่มากขึ้น ความเครียด โรคประจำตัว การรักษาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง และความรู้สึกเชิงลบ เช่น ความเหงา ส่งผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคงูสวัด นอกจากนี้ 48% ของผู้ตอบแบบสำรวจยอมรับว่าตนเองรู้สึกเหงา เครียด ซึมเศร้า ไม่มีตัวตน หรือมีสุขภาพไม่ดี

“ผลสำรวจพบว่า วัย 50+ หลายคนประเมินความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุต่ำเกินไป และไม่ทราบถึงความเสี่ยงของโรคงูสวัดที่อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว การสร้างความตระหนักรู้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เราสนับสนุนให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคงูสวัด” พญ.บุษกร กล่าวทิ้งท้าย

พญ.บุษกร มหรรฆานุเคราะห์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ GSK

Advertisement

แชร์
โรคร่วม-ความเครียด ปัจจัยเสี่ยงกระตุ้นให้เกิดโรคงูสวัด