วันอ้วนโลก 2025 กทม. เผยคนกรุงฯ ไขมันในเลือดสูง น้ำหนักเกิน 34% เบาหวาน 25% มุ่งเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ศูนย์กีฬา บริการสาธารณสุข เพื่อทุกคนสุขภาพดี
เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดงานและร่วมเป็นวิทยากรในงาน World Obesity Day วันอ้วนโลก 2025 "อ้วนแล้วเปลี่ยน… เริ่มวันนี้ เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน" ภายใต้ธีม "Changing Systems, Healthier Lives" เพราะสุขภาพที่ดี ไม่ได้เริ่มจากตัวเราเพียงคนเดียว แต่ต้องเกิดจากระบบที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ จัดโดย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ณ ชั้น 9 อาคาร SIAMSCAPE เขตปทุมวัน
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้กล่าวถึง เมืองกับเรื่องของโรคอ้วน ว่า เมืองกับคนเป็นสิ่งที่สอดคล้องกัน ถ้าเมืองอ้วนคนก็อ้วน ถ้าคิดถึงเรื่องอ้วนจึงไม่ใช่แค่เรื่องตัวบุคคล แต่มันคือทั้งระบบ
เรามีโครงการตรวจสุขภาพฟรี 1 ล้านคน ที่ผ่านมาตรวจไปแล้วกว่า 520,000 คน ทำให้ทราบข้อมูลสุขภาพประชาชน ว่า ประชาชนใน กทม. ส่วนใหญ่มีไขมันในเลือดสูง น้ำหนักเกิน 34% เบาหวาน 25%
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า ด้านการรักษาเชิงป้องกัน ในปี 2567 กทม. ผลักดันโครงการสุขภาพผ่านงบ สปสช. มากกว่า 2,000 โครงการ ส่งเสริมโภชนาการในโรงเรียนสังกัด กทม. เพื่อให้นักเรียนมีสุขภาพที่ดี ปรับปรุงศูนย์กีฬาและลานกีฬามากขึ้น ส่งผลให้ในปี 67 มีผู้มาใช้บริการลานกีฬากว่า 11 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 17% และจะมีการขยายผลปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง จัดกิจกรรมเพื่อให้ผู้คนออกมาใช้ชีวิต อาทิ กิจกรรม 12 เดือน 12 เทศกาล Colorful Bangkok หนังกลางแปลง
กทม. มุ่งหวังให้กทม. เป็นเมืองที่ Walkable City เดินได้เดินดี จึงพัฒนาทางเท้ากว่า 1,000 กม. (ปัจจุบันดำเนินการแล้วประมาณ 800 กม.) และตั้งเป้าให้ถึง 2,000 กม. ส่งเสริมการเดินด้วย Skywalk และ Covered walkway ทำทางเดินริมคลองแสนแสบ จากภูเขาทองไปถึงมีนบุรี การทำสวน 15 นาที พื้นที่สาธารณะใกล้บ้านเป้าหมาย 357 แห่งภายในปีนี้ บริการ Bike Sharing เชื่อมโยงการเดินทาง Last mile มากกว่า 200 แห่ง จัดกิจกรรมวิ่งล้อมเมืองชวนคนกรุงเทพฯ มาวิ่งฟรี ระยะ 3-10 กม.
และนอกจากเชิงป้องกัน หากเกิดโรคแล้ว กทม. ก็มีการเตรียมพร้อมด้วยการพัฒนาศูนย์เวชศาสตร์เขตเมืองตามมาตรฐาน NCDs Clinic Plus ในโรงพยาบาลของกรุงเทพมหานคร ทั้ง 11 แห่ง มีคลินิกเฉพาะทางรองรับโรค NCDs เช่น ศูนย์ศัลยกรรมโรคอ้วน ศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง ศูนย์เบาหวานและเมตาบอลิก ศูนย์โรคหัวใจ Health Tech อำนวยความสะดวกประชาชนผ่าน Telemed เปิดแล้ว 8 แห่ง มีผู้ป่วยรับบริการมากกว่า 18,000 ครั้ง และพิ่มโรงพยาบาลอีก 3 แห่ง ทั่วกรุง
“การพัฒนาระบบจะทำให้คน Active มากขึ้น สามารถเผาผลาญแคลอรี่ต่อสู้กับโรคอ้วนได้ดีขึ้น เมืองต้องมีส่วนในการรับผิดชอบ เพราะหากเมืองอ้วนคนก็อ้วน ” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับวันอ้วนโลก (World Obesity Day) ตรงกับวันที่ 4 มีนาคม ของทุกปี ถูกกำหนดขึ้นโดย World Obesity Federation และองค์กรสุขภาพระดับโลก เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาโรคอ้วน การป้องกัน และการให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของโรคอ้วนต่อสุขภาพ
Advertisement