เด้งบั้นเด้า ควงเอวหวาน เต้นแรงเข้าถึงซิกเนเจอร์ ส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ? วิธีป้องกันอุบัติเหตุหรืออาการบาดเจ็บจากการเต้นแรงๆ
เต้นแรง เด้งบั้นเด้า (* บั้นเด้า เป็นภาษาอีสาน แปลว่า บั้นเอว, เอว มิใช่คำหยาบคายหรือลามกแต่อย่างใด)
ควงเอวหวาน หรือการเต้นที่มีความเข้มข้นสูง เช่นการโยกย้ายตามจังหวะเพลง ร็อค, แดนซ์, กันตรึม, สามช่า หรือ ไทยรีมิกซ์
ด้วยตามธรรมชาติของท่วงทำนองที่สนุกเร้าใจบวกกับผู้เต้นอยู่ในโหมด "เข้าถึงซิกเนเจอร์" ด้วยแล้ว การเต้นโยกย้ายปล่อยไปตามหัวใจย่อมเกิดขึ้นได้
แต่อย่างไรก็ตาม การเต้นแรง เด้งบั้นเด้า ควงเอวหวาน อาจจะยังไม่เป็นปัญหามากนักในกลุ่มวัยรุ่น แต่กับกลุ่มคนที่เริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ หรือ อายุมาก อาจต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุหรือผลกระทบต่อสุขภาพได้
การเต้นที่มีการกระโดดหรือการเคลื่อนไหวที่รุนแรงอาจทำให้กระดูกและข้อต่อได้รับแรงกระแทกมากเกินไป โดยเฉพาะในข้อต่อที่รับน้ำหนัก เช่น เข่า ข้อเท้า และสะโพก ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ เช่น ข้อเข่าเสื่อม, ข้อเท้าแพลง หรือ กระดูกแตก หากไม่มีการวอร์มอัพหรือฝึกซ้อมที่ถูกต้อง
การกระแทกซ้ำ ๆ อาจทำให้กระดูกและข้อต่อเสื่อมเร็วขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากขึ้นหรือมีปัญหากระดูกอยู่แล้ว
การเต้นแรง ๆ หรือกระโดดสูง ๆ โดยไม่ระวัง หรือไม่ใช้รองเท้าที่เหมาะสมอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ทำให้กระดูกหักได้ เช่น กระดูกข้อมือหรือกระดูกเท้าเมื่อการเต้นเกิดการพลิกผิดท่า หรือหกล้ม
การเต้นแรง ๆ โดยที่ไม่มีการควบคุมท่าทางที่ถูกต้องอาจทำให้เกิดแรงที่ส่งกระทบกับกระดูกและข้อต่อในท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น การหมุนร่างกายในทิศทางที่ผิดอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บในข้อต่อหรือกระดูกได้
นอกจากนี้ การเต้นที่มีการเคลื่อนไหวที่ซ้ำ ๆ อาจทำให้เกิดปัญหาที่ข้อเท้า เช่น เอ็นอักเสบ หรือ ข้อสะโพกเสื่อม ได้อีกด้วย
การเต้นที่มีการกระโดดหรือการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วสามารถทำให้กระดูกสันหลังได้รับแรงกระแทกหรือแรงบิดเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหากระดูกสันหลังอยู่แล้ว เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือ กระดูกสันหลังเสื่อม
การเต้นที่รุนแรงและไม่ระวังอาจทำให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็งมากเกินไปและเกิดการบาดเจ็บ เช่น กล้ามเนื้อฉีกขาด หรือ กล้ามเนื้อล้า
การเต้นที่มีแรงกระแทกสูงอาจทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบจากการใช้แรงเกินไป หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดการเจ็บปวดในกล้ามเนื้อและกระดูกได้
ก่อนเริ่มเต้นควรทำการวอร์มอัพอย่างเพียงพอเพื่อให้กล้ามเนื้อและข้อต่อพร้อมรับแรงกระแทก และหลังจากการเต้นก็ควรทำการคูลดาวน์เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสภาพและป้องกันการบาดเจ็บ
ควรเลือกการเต้นในพื้นที่ที่มีพื้นผิวที่ไม่ลื่น และการใส่รองเท้าที่รองรับการกระแทกได้ดี เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการหกล้มหรือกระแทกแรง ๆ
การเรียนรู้ท่าเต้นที่ถูกต้องจากผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์จะช่วยให้ลดความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวผิดท่า ที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ
หากรู้สึกเจ็บหรือปวดขณะเต้น ควรหยุดและให้เวลาร่างกายได้พักผ่อน ไม่ควรฝืนทำท่าที่เจ็บ เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้
ในกลุ่มผู้สูงอายุ หากอยากขยับเขยื้อนร่างกายด้วยการเต้น แนะนำให้ออกกำลังด้วยการ รำไทเก็ก เนื่องจากเป็นการออกกำลังกายที่เน้นการเคลื่อนไหวช้าๆ ที่ประสานกับการหายใจและการฝึกสมาธิ ซึ่งมีผลดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ
อย่างไรก็ตาม การเต้นแรง ๆ หรือการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูงสามารถส่งผลกระทบต่อกระดูกและร่างกายได้ในกรณีที่ไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อมหรือฝึกซ้อมอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะการกระแทกหรือการกระโดดที่แรง อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่กระดูก ข้อต่อ หรือกล้ามเนื้อ
ดังนั้น การฝึกเต้นในรูปแบบที่ปลอดภัย การใช้เทคนิคที่ถูกต้อง และการดูแลร่างกายให้ดีเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
Advertisement