โซเดียมคืออะไร โซเดียมแฝงคืออะไร เปิดลิสต์อาหารที่ไม่ได้มีรสชาติเค็มแบบตะโกนแต่โซเดียมสูง กินมาก กินบ่อย ทำร้ายไตไม่รู้ตัว
หลายคนเข้าใจว่า "อาหารเค็ม" หมายถึงอาหารที่มีรสเค็มจัดเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง อาหารที่มี โซเดียมสูง อาจไม่ได้มีรสเค็มจัดชัดเจนและสิ่งเหล่านี้แหละสามารถทำลายไตได้โดยไม่รู้ตัว การบริโภคโซเดียมมากเกินไปจะทำให้ไตทำงานหนักขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อ โรคไตเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ
โซเดียมคือ เกลือแร่ (สารอาหาร) ชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย โดยโซเดียมจะทำหน้าที่ควบคุมความสมดุลของเหลวในร่างกาย รักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ ช่วยในการทำงานของประสาทและกล้ามเนื้อ รวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจด้วย ตลอดจนการดูดซึมสารอาหารบางอย่างในไตและลำไส้เล็ก
โซเดียมที่เราบริโภคกันเป็นประจำ ก็คือโซเดียมที่อยู่ในรูปของ "เกลือแกง" โดย เกลือ มีส่วนประกอบอยู่ 2 อย่าง คือโซเดียมกับคลอไรด์) และ น้ำปลา ซึ่งมีรสเค็ม
ทว่า โซเดียมไม่ได้มาจากเกลือและน้ำปลาเพียงอย่างเดียว แต่ยังแฝงอยู่ใน เครื่องปรุงรส วัตถุเจือปนอาหาร และกระบวนการแปรรูปอาหาร ซึ่งมักพบในอาหารที่ดูเหมือนไม่เค็ม
1. ขนมปังและเบเกอรี่
ขนมปัง โดยเฉพาะขนมปังแผ่นสำเร็จรูป ครัวซองต์ พาย หรือคุกกี้ มี เกลือ และผงฟู (baking soda หรือ sodium bicarbonate) ที่เป็นแหล่งโซเดียม ขนมปัง 1 แผ่น อาจมีโซเดียม 100-200 มก. ขณะที่ขนมปังเบอร์เกอร์ หรือฮอทดอกอาจสูงถึง 400 มก.
2. อาหารแปรรูป (ไส้กรอก, แฮม, เบคอน, ลูกชิ้น, โบโลน่า)
อาหารเหล่านี้มี เกลือและสารกันเสีย เช่น โซเดียมไนไตรต์ (Sodium Nitrite) เพื่อถนอมอาหารและเพิ่มรสชาติ ลูกชิ้น 1 ไม้ อาจมีโซเดียมสูงถึง 500-800 มก. เบคอน หรือไส้กรอก 1 ชิ้น อาจสูงกว่า 700-1,000 มก.
3. น้ำอัดลม และเครื่องดื่มชูกำลัง
แม้ไม่มีรสเค็ม แต่น้ำอัดลมบางชนิดใส่โซเดียมเพื่อปรับรสชาติ เครื่องดื่มชูกำลังและเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับนักกีฬา มี โซเดียมสูง เพื่อช่วยคืนเกลือแร่ แต่ถ้าดื่มมากเกินไป อาจทำให้ไตทำงานหนัก
4. อาหารกึ่งสำเร็จรูป (บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, โจ๊กซอง, อาหารกระป๋อง)
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ซอง มีโซเดียมสูงถึง 1,500-2,000 มก. อาหารกระป๋อง เช่น ปลากระป๋อง ซุปกระป๋อง ใช้เกลือและสารกันเสียเพื่อถนอมอาหาร
5. ชีส และผลิตภัณฑ์จากนมบางชนิด
ชีสบางชนิดใส่ เกลือและสารกันเสีย เพื่อเพิ่มรสชาติและยืดอายุการเก็บ นมปรุงแต่งรส (เช่น นมช็อกโกแลต นมสตรอว์เบอร์รี) อาจมี โซเดียมสูงกว่านมสด
6. ซอสปรุงรส (ซีอิ๊ว, น้ำปลา, ซอสหอยนางรม, ซอสมะเขือเทศ, ซอสพริก)
ซอสเหล่านี้มีโซเดียมสูงแม้ใช้เพียงเล็กน้อย เช่น น้ำปลา 1 ช้อนชา = 400-500 มก. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ = 800-1,000 มก. ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ = 150-200 มก.
7. ขนมขบเคี้ยว (มันฝรั่งทอด, ข้าวเกรียบ, ป๊อปคอร์น, ถั่วอบเกลือ)
มันฝรั่งทอด 1 ถุงเล็ก อาจมีโซเดียมสูงถึง 300-500 มก. ถั่วปรุงรส หรือถั่วอบเกลือ อาจมีโซเดียมสูงกว่าถั่วอบแบบไม่ปรุงรส
8. อาหารฟาสต์ฟู้ด (พิซซ่า, เบอร์เกอร์, ไก่ทอด, เฟรนช์ฟรายส์)
อาหารเหล่านี้มี โซเดียมจากเครื่องปรุง ซอส และกระบวนการแปรรูป พิซซ่า 1 ชิ้น อาจมีโซเดียม 600-900 มก. เฟรนช์ฟรายส์ 1 กล่องเล็ก อาจมีโซเดียม 400-800 มก.
9. อาหารหมักดอง (กิมจิ, ผักดอง, ปลาร้า, ไข่เค็ม, เต้าเจี้ยว)
ใช้เกลือในการหมักดอง ทำให้มีโซเดียมสูงมาก เช่น กิมจิ 100 กรัม มีโซเดียม 1,500-2,000 มก.
10. เนื้อสัตว์แปรรูป และอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง
ไก่ทอดแช่แข็ง หมูทอดแช่แข็ง นักเก็ต ใช้เกลือและสารกันเสีย อาหารแช่แข็ง เช่น ข้าวกล่องสำเร็จรูป ซุปแช่แข็ง มีโซเดียมสูงเพื่อเพิ่มอายุการเก็บ
• โซเดียมสูงทำให้ไตทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้ไตเสื่อมเร็ว
• ทำให้ร่างกาย คั่งน้ำและบวม เนื่องจากโซเดียมดึงน้ำเข้าสู่กระแสเลือด
• เพิ่มความเสี่ยงของ โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคไตเรื้อรัง
• อ่านฉลากโภชนาการก่อนซื้อ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมต่ำ
• หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป และอาหารฟาสต์ฟู้ด
• ปรุงอาหารเอง ลดการใช้ซอสปรุงรส และเลือกใช้เครื่องเทศธรรมชาติ
• กินผักและผลไม้สด แทนอาหารแปรรูป
• ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) กำหนดมาตรฐานไว้ว่า ร่างกายคนเราควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มก.ต่อวัน หรือเทียบเท่า เกลือ 1 ช้อนชา หรือ 5 กรัม เมื่อเฉลี่ยแล้วไม่ควรได้รับโซเดียมเกิน 600 มก.ต่อมื้ออาหาร
อ้างอิงข้อมูล : เครือข่ายลดบริโภคเค็ม / กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
Advertisement