ทำความเข้าใจระหว่าง โซดาไฟ และ เบกกิ้งโซดา เหมือนกันหรือไม่ แตกต่างกันอย่างไร
โซดาไฟ และ เบกกิ้งโซดา ต่างก็เป็นสารเคมีภัณฑ์ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน เพราะมีคุณสมบัติที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมยา หรืออุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ก็ไม่สามารถขาดสารเคมีภัณฑ์สองชนิดนี้ได้ แต่โซดาไฟ และ เบกกิ้งโซดา นั้นมีความเหมือนและความแตกต่างกันอย่างไร วันนี้มีคำตอบ
โซดาไฟ คืออะไร
โซดาไฟ มีชื่อเต็มว่า โซเดียมไฮดรอกไซด์ มีลักษณะเป็นของแข็ง เป็นเกล็ดสีขาว หรืออาจจะมีลักษณะอื่นๆ เช่น เม็ด แผ่น โซดาไฟจะไม่มีกลิ่น แต่มีคุณสมบัติที่มีฤทธิ์สามารถกัดกร่อนที่รุนแรง จึงควรใช้งานด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ การนำโซดาไฟไปใช้งานจะต้องละลายน้ำเสียก่อน แล้วใช้ทำความสะอาดคราบฝังลึกจุดต่างๆ หรือจะเป็นคราบอุดตันในท่อน้ำที่เกิดจากคราบไขมัน สบู่ หรือผงซักฟอก
ประโยชน์ของโซดาไฟ
โซดาไฟมีคุณสมบัติสามารถปรับสภาพกรดไขมันให้กลายเป็นกลางได้ จึงนิยมนำโซดาไฟไปใช้งานในอุตสาหกรรมทำความสะอาดไม่ว่าจะเป็น การผลิตสบู่ การผลิตผงซักฟอก ผสมในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือผลิตภัณฑ์ซักล้างต่างๆ ใช้ขจัดคราบสิ่งสกปรกและสิ่งอุดตันในท่อระบายน้ำ ใช้บำบัดน้ำเสียด้วยการปรับความเป็นกรด-ด่างของน้ำ เป็นต้น
อุตสาหกรรมอาหาร นิยมนำโซดาไฟที่มีคุณสมบัติปรับสภาพกรดให้เป็นกลาง ไปใช้ล้างทำความสะอาดบรรจุภัณฑ์น้ำดื่มบรรจุขวด ล้างทำความสะอาดบรรจุภัณฑ์กระป๋อง ใช้ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์แป้งสำหรับการย่อยสลายแป้งให้กลายเป็นน้ำตาล ใช้ในการบำบัดน้ำเสียด้วยการปรับความเป็นกรด-ด่างของน้ำ ใช้เป็นสารตั้งต้นในกระบวนการผลิตปรุงแต่งผงชูรส
อุตสาหกรรมกระดาษและอุตสาหกรรมเส้นใย เช่น ใช้ในการกำจัดสีหมึกออกจากตัวกระดาษเก่า ใช้ในกระบวนการต้มเยื่อกระดาษ ใช้ในการผลิตเส้นใยสังเคราะห์
เบกกิ้งโซดา คืออะไร?
เบกกิ้งโซดา หรือ โซเดียมไบคาร์บอเนต มีลักษณะเป็นผงที่มีสีขาว ไม่มีกลิ่น ละลายน้ำไม่ดี มีคุณสมบัติที่สามารถเปลี่ยนกรดให้เป็นกลางได้ค่อนข้างดี เมื่อโซเดียมไบคาร์บอเนตอยู่ในองค์ประกอบที่เหมาะสมจะทำให้เกิดฟอง เราจึงมักจะเห็นการใช้งานโซเดียมไบคาร์บอเนตนี้ในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมอาหาร หรืออุตสาหกรรมความงามก็สามารถพบเห็นสารเคมีภัณฑ์ชนิดนี้เป็นส่วนผสมได้โดยทั่วไป
ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดา หรือ โซเดียมไบคาร์บอเนต มีคุณสมบัติขจัดกรดให้กลายเป็นกลาง สามารถนำมาใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้มากมายเช่น
อุตสาหกรรมความงาม ด้วยคุณสมบัติของเบกกิ้งโซดา ที่ช่วยเพิ่มความกระจ่างแก่บริเวณผิวที่มีการใช้งาน และยังสามารถทำความสะอาดสิ่งต่างๆ ได้ค่อนข้างดี จึงนิยมนำมาเป็นส่วนผสมของ ยาสีฟัน โฟมหรือเจลสำหรับทำความสะอาดผิวหน้าหรือผิวกาย ยาดับกลิ่น น้ำยาบ้วนปาก ฯลฯ
อุตสาหกรรมทำความสะอาด ด้วยคุณสมบัติช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์และทำให้จุลินทรีย์ที่มีความเป็นอันตรายให้กลายเป็นกลางได้ อุตสาหกรรมทำความสะอาดจึงนำมาใช้ เช่น ใช้ทำความสะอาดเครื่องครัว ทำความสะอาดเครื่องปั้นดินเผา ทำความสะอาดกระเบื้องห้องน้ำ ใช้เป็นยาฆ่าแมลงและยาฆ่าเชื้อราที่ไม่มีพิษได้ นำไปทำเป็นผงซักฟอกและสารทำความสะอาด ใช้ทำความสะอาดขจัดคราบฝังแน่นในห้องน้ำ ฯลฯ
อุตสาหกรรมยา ด้วยคุณสมบัติที่สามารถปรับสภาวะความเป็นกรดเกินในร่างกายได้เป็นอย่างดี ด้วยการเพิ่มค่าความเป็นด่างให้มีปริมาณที่สูงขึ้นปรับให้เป็นกลาง จึงนิยมนำมาใช้ในอุตสาหกรรมยา สำหรับทำเป็นยาเม็ดลดกรด ยาบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอก ใช้ลดอาการท้องอืด ปรับปัสสาวะให้มีสภาวะเป็นด่าง ควบคุมสภาวะความเป็นกรดในเลือดของผู้ป่วยโรคไต และรักษาอาการอื่นๆ
อุตสาหกรรมอาหาร ด้วยคุณสมบัติที่สามารถทำให้เกิดฟอง ฟู หากอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม จึงสามารถนำเบกกิ้งโซดาไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารอย่างเบเกอรี่ได้ไม่ว่าจะเป็น เค้ก บราวนี่ คุกกี้ และอีกมากมาย
ทั้งนี้ โซดาไฟ (โซเดียมไฮดรอกไซด์) และ เบกกิ้งโซดา (โซเดียมไบคาร์บอเนต) ต่างก็มีประโยชน์ที่หลากหลายเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดในเรื่องของฤทธิ์ในการกัดกร่อน จึงควรเลือกใช้งานสารเคมีภัณฑ์ทั้งสองชนิดนี้ด้วยความเข้าใจและระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรศึกษาให้ดีหรืออ่านฉลากข้างผลิตภัณฑ์เพื่อสามารถใช้งานได้ตรงตามคุณสมบัติ และความปลอดภัยต่อตัวผู้ใช้งานเอง
Advertisement