ดวงตา หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของประสาทสัมผัส สุขภาพร่างกายที่ควรต้องดูแล ถ้าละเลยหรือมองข้าม อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร
ดวงตา หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ การมองเห็น การได้ยิน การลิ้มรส การได้กลิ่น และการสัมผัส ซึ่งเป็นอวัยวะหลักที่สำคัญของร่างกาย เพราะทำหน้าที่ในการมองเห็นต่อโลกภายนอก และจำเป็นต่อการใช้ชีวิต
แต่ดวงตามีความเปราะบาง เสียหายง่าย เสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพจากหลายปัจจัยในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการทำงาน แดด ความร้อน ฝุ่น ควัน และลม
การบำรุงสุขภาพตาเป็นสิ่งที่คนทั่วไปมักมองข้าม ซึ่งอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร จากการที่ไม่ได้รับการรักษาในระยะแรก นำมาสู่ความทุกข์ทั้งกายและใจ ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญในการรักษาดวงตา เพื่อให้การมองเห็นที่ดีคงอยู่ตลอดไป
ส่วนประกอบหลักของดวงตา
ถนอมสายตา เพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน
ดวงตาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือทำงาน โดยเฉพาะคนที่ต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนตลอดเวลา อาจได้รับแสงสีฟ้า (Blue Light) ที่เป็นอันตรายต่อเลนส์ตา ซึ่งบางครั้งผู้คนมักละเลยการถนอมสายตา จนสร้างผลกระทบกล้ามเนื้อดวงตาอ่อนล้า จอประสาทเสื่อม และนำไปสู่ปัญหาภาวะค่าสายตา
การถนอมสายตา เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยให้การมองเห็นให้ มีการใช้งานที่ยืนยาว และชะลอความเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร ดวงตาเปรียบเสมือนกล้ามเนื้อที่ควรได้รับการฝึกให้มีความแข็งแรง ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมบำรุงสายตาคงสภาพอายุดวงตาได้อย่างสม่ำเสมอ
วิธีถนอมสายตา ที่แนะนำ
1.กะพริบตาให้ถี่ขึ้น
การกะพริบตาเป็นวิธีถนอมสายตา ที่ช่วยทำให้ดวงตามีน้ำตาหล่อเลี้ยง และปรับจูนการโฟกัสดวงตา ร่วมกับป้องกันสิ่งระคายเคืองที่มีผลกระทบในขณะทำงานหรือโฟกัสหน้าจอ อัตราการกะพริบตาโดยทั่วไปจาก 20-22 ครั้งต่อนาที แต่เพราะการทำงาน ทำให้มีการกระพริบตาลดลงเหลือเพียงประมาณ 6-8 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น ดังนั้นการกะพริบตาเป็นการถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ดวงตาอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นคนตาแห้งง่าย อาจใช้ตัวช่วยอย่างน้ำตาเทียมร่วมด้วยได้
2.จัดวางตำแหน่งคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม
การจัดตำแหน่งคอมพิวเตอร์ เป็นวิธีถนอมสายตาไม่ให้สั้น โดยทั่วไปแล้ว ควรมีระยะห่างจากจอภาพถึง 50-70 ซม. และดวงตาควรอยู่ระนาบเดียวกับจอภาพ ในระดับสายตาที่มีระยะห่าง 5-9 นิ้ว จึงส่งผลไปยังการเลือกโต๊ะทำงาน ที่ควรเลือกระดับความสูงที่เหมาะสำหรับระยะสายตา
3.ปรับความสว่างของห้องทำงาน
ผู้ที่ต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ควรอยุ่ใกล้กับแสงแดดมากเกินไป ควรมีม่านเพื่อลดอัตราแสงสะท้อน และการกระทบของแสงที่จะเข้าตาโดยตรง อีกทั้งควรเลี่ยงการทำงานในสถานที่ที่มีแสงสะท้อนเข้าตาเยอะจนเกินไป หากมีโหมด Night Light ควรเปิดใช้งาน การปรับแสงสว่างหน้าจอใช้โหมดดังกล่าว จะช่วยลดพลังงานแสงสีฟ้า เป็นหนึ่งในตัวช่วยเยียวยาดวงตา ที่จะทำให้การใช้สายตาไม่มากจนเกินพอดี
4.ปรับขนาดหน้าจอทำงานให้เข้าที่
บางครั้งการใช้งานคอมพิวเตอร์ อาจไม่ได้มีความเข้าใจมากพอ จึงละเลยการปรับความคมชัดของหน้าจอ (Screen resolution) ลายละเอียดของตัวภาพและตัวอักษร ควรสันทัดกับผู้ใช้ในการถนอมสายตา ไม่ควรปรับขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้เคยชินกับการดูภาพ และตัวหนังสือที่เพี้ยนเกินความเป็นจริง
5. ใช้แว่นตาให้เหมาะการใช้งาน
แว่นกรองแสงจะช่วยถนอมสายตาขณะทำงานโดยเฉพาะ เนื่องจากตัวเลนส์มีคุณสมบัติในการป้องกันได้เป็นอย่างดี ซึ่งวัสดุที่ช่วยป้องกันแสงสีฟ้า สามารถทำเป็นแว่นตาได้ทุกค่าสายตา หรือคนที่สายตาปกติก็ใช้ได้เช่นกัน รวมไปถึงคนที่ทำเลสิค (Lasik) ก็สามารถใช้แว่นกรองแสง เพื่อถนอมสายตาได้
6. พักสายตาจากแสง หรือการทำงาน
ในขณะที่ใช้ชีวิตหน้าจอคอมพิวเตอร์เสมอ ควรพักสายตาเพื่อคลายความอ่อนล้ากล้ามเนื้อเป็นครั้งคราว และควรพักสายตาโดยสม่ำเสมอ ด้วยการละสายตาออก มองออกไปไกล ๆ ประมาณ 10-20 วินาที แล้วกลับมามองระยะใกล้ในระยะเวลาเดียวกัน แล้วทำสลับกันทำหลาย ๆ ครั้ง จะช่วยทำให้ความตึงเครียดบริเวณดวงตา คลายความเมื่อยล้าได้อย่างดี
วิธีบริหารกล้ามเนื้อตาฉบับง่าย
นอกจากนี้แล้ว การถนอมสายตาที่ดีที่สุดคือ การตรวจสุขภาพประจำปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการเช็กว่าดวงตามีความผิดปกติหรือไม่ มีการแทรกซ้อนของโลกใดหรือเปล่า การได้รับการตรวจสุขภาพดวงตาตั้งแต่ต้น จะทำให้สามารถวินิฉัยอาการ และนำไปสู่การรักษาได้อย่างถูกต้อง
ที่มา : โรงพยาบาลสมิติเวช (samitivejchinatown.com) / โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (bumrungrad.com)
Advertisement