รวม 5 จุดดำน้ำในไทย จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เพลิดเพลินไปกับความสวยงาม และความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศใต้ท้องทะเลไทย
ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางทะเลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทยที่มีทั้งแนวปะการังสวยงามและสัตว์ทะเลนานาชนิด ทำให้การดำน้ำดูปะการังกลายเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 5 จุดดำน้ำดูปะการังยอดฮิตของเมืองไทย ที่รับรองว่าสวยไม่แพ้ที่ไหนในโลก ในบทความนี้กัน
ก่อนที่จะออกไปผจญภัยใต้ท้องทะเล สิ่งสำคัญที่สุด คือการเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและอุปกรณ์ให้ครบครัน เริ่มจากการตรวจสอบสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เนื่องจากการดำน้ำต้องใช้แรงกายค่อนข้างมาก จากนั้นเตรียมอุปกรณ์จำเป็นอย่างเวทสูท หน้ากากดำน้ำ ตีนกบ และอุปกรณ์ควบคุมการลอยตัว และที่สำคัญที่สุดก่อนจะออกทริปดำน้ำ ควรผ่านการฝึกอบรมและได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งศึกษากฎระเบียบและข้อควรระวังในการดำน้ำดูปะการังเพื่อความปลอดภัยและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล
ไปดูกันเลยว่า มีจุดดำน้ำสุดว้าวในประเทศไทยที่ไหนบ้างที่ห้ามพลาดเด็ดขาด!
เกาะทะลุ จุดดำน้ำไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางเพียงแค่ 4 - 5 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ที่นี่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโพรงหินขนาดใหญ่ที่ทะลุระหว่างผาหินทั้งสองด้าน จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen แห่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บริเวณรอบเกาะยังมีอ่าวสวยงามถึงสามแห่ง ได้แก่ อ่าวมุก อ่าวไทรใหญ่ และอ่าวเทียน ซึ่งล้วนเป็นจุดดำน้ำดูปะการังที่สวยงาม นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถทำกิจกรรมทางน้ำอื่น ๆ เช่น พายเรือคายัคและเล่นเรือใบได้อีกด้วย
เกาะเต่าเป็นสวรรค์แห่งการดำน้ำดูปะการังที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยจุดดำน้ำมากกว่า 30 จุดรอบเกาะ โดยจุดที่โด่งดังที่สุดคือ กองชุมพร (Chumphon Pinnacle) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ ที่นี่เป็นที่อยู่ของฝูงปลาบาราคูด้าขนาดใหญ่ และเป็นจุดที่มีโอกาสพบฉลามวาฬได้บ่อยครั้ง นักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำดูปะการังได้ตลอดทั้งปี พร้อมสัมผัสบรรยากาศสุดชิลล์บนชายหาดและปาร์ตี้สุดมันในยามค่ำคืนได้
ลงใต้กันไปฝั่งทะเลอันดามันกันบ้างกับที่ หมู่เกาะสิมิลัน ได้รับการขนานนามว่าเป็น "สวรรค์ของนักดำน้ำดูปะการัง" ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศใต้ท้องทะเล ที่นี่มีทั้งแนวปะการังสวยงามทั้งปะการังแข็ง ปะการังอ่อน กัลปังหาและดอกไม้ทะเล นักดำน้ำมีโอกาสพบสัตว์ทะเลหายากมากมาย เช่น ฉลามวาฬ กระเบนราหู เต่าทะเลและโลมาปากขวด นอกจากนี้ ยังมีทากทะเลมากกว่า 200 สายพันธุ์ให้นักดำน้ำได้มาสัมผัสและเฝ้าชมอย่างใกล้ชิด
เปลี่ยนไปดำน้ำฝั่งทะเลอันดามันกันบ้างดีกว่า ที่เกาะหลีเป๊ะก็ถือเป็นจุดดำน้ำดูปะการังที่ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบความสวยงามใต้ท้องทะเลด้วยเช่นกัน ด้วยน้ำทะเลที่มีความใสสะอาดและระบบนิเวศที่หลากหลาย โดยเฉพาะที่ร่องน้ำจาบัง ที่จะสามารถมองเห็นปะการัง 7 สี เลือกดำได้ทั้งแบบ Scuba และแบบ Snorkelling นอกจากปะการังสีสวยแล้ว ยังสามารถมองเห็นสัตว์น้ำใต้ทะเลต่าง ๆ ได้อีกด้วย
มาถึงจุดดำน้ำดูปะการังที่จังหวัดภูเก็ต ถือว่าเป็นอีกจุดยอดฮิตในหมู่นักดำน้ำที่พลาดไม่ได้แน่นอน Shark Point หรือที่รู้จักกันในชื่อหินมูสังเป็นจุดดำน้ำระดับโลก ตั้งอยู่ระหว่างเกาะภูเก็ตและเกาะพีพี มาดำน้ำที่นี่จะได้เห็นกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่สามกองที่เชื่อมต่อกัน และเต็มไปด้วยปะการังอ่อนและกัลปังหาหลากสีสัน รวมถึงดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนอีกมากมาย นอกจากนี้ จุดนี้ยังเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำเพื่อรอชมฉลามเสือดาว และฉลามกบได้บ่อยครั้ง และอาจมีโอกาสพบเต่าทะเล ม้าน้ำและสัตว์ทะเลหายากอื่น ๆ อีกมากมาย
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ 5 จุดดำน้ำชมปะการังสุดสวยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดมุ่งหมายของนักเที่ยวทั่วโลก เพราะเมืองไทยก็สวยไม่แพ้ใคร เรามีจุดดำน้ำดูปะการังที่สวยงามมากมาย แต่ละที่มีเสน่ห์และความพิเศษแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นความมหัศจรรย์ของเกาะทะลุ ความอุดมสมบูรณ์ของเกาะเต่า ความงดงามของหมู่เกาะสิมิลัน น้ำใสของเกาะหลีเป๊ะ หรือความตื่นเต้นที่ Shark Point ทั้งนี้ก่อนออกเดินทางมาดำน้ำ อย่าลืมเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและอุปกรณ์ให้ครบถ้วน เพื่อให้การผจญภัยใต้ท้องทะเลของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตกันได้เลย
Advertisement