เปิดไอเดียรักษ์สิ่งแวดล้อม รีไซเคิลหางประทัดแก้บน "ไอ้ไข่" นำมาสานใหม่ จนได้กระเป๋าสายมูสุดชิค
เมื่อพูดถึง "ไอ้ไข่" วัดเจดีย์ หลายคนคงนึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ เพราะขึ้นชื่อเรื่องขออะไรก็สมหวังจนมีผู้คนศรัทธาจำนวนมาก เมื่อมีความสำเร็จก็จะหลั่งไหลมาประกอบพิธีแก้บนด้วยการจุดประทัด สิ่งที่เหลือจากการจุดประทัดคือ "หางประทัด" เครื่องหมายแห่งความสำเร็จที่ถูกทิ้งกลายเป็นขยะจำนวนมากเป็นภาระการจัดการของวัด และเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จึงได้นำโครงการวิจัย “ศรีชล” จับมือกับ วิสาหกิจชุมชนคนรักสิ่งแวดล้อม บ้านเขาทราย ตำบลเปลี่ยน อำเภอสิชล นครศรีธรรมราช และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัดเจดีย์ หรือที่รู้จักในชื่อวัดไอ้ไข่ นำซากหางประทัด มารีไซเคิล สานใหม่เป็นกระเป๋าสายมูจากฝีมือชาวบ้านสมาชิกในชุมชนร่วมกันผลิตออกมาได้อย่างสวยงาม แปลกใหม่ไม่เหมือนที่ไหน สร้างรายได้ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่นให้ก้าวไปอีกขั้น
สุพรรณา แก้วเถื่อน ประธานวิสาหกิจชุมชนคนรักสิ่งแวดล้อมบ้านเขาทราย ระบุว่าแต่เดิมชาวบ้านกังวลว่าการไปนำเอาหางประทัดเหล่านี้หรือสิ่งที่ของเหลือใช้ในวัดมานอกวัด ไอ้ไข่จะหวง อาจเกิดสิ่งไม่ดี แต่มีผู้นำท้องถิ่น และวัดเจดีย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้นำองค์ความรู้วิธีคิดใหม่ๆ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ออกมาเป็นกระเป๋าจากหางประทัดจึงเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ สร้างคุณค่า สร้างความหมายจากที่มาได้อย่างน่าทึ่งและเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้ไปครอบครอง
"กระเป๋า 1 ใบใช้หางประทัด 999 ชิ้น แต่ละชิ้นมีความสำเร็จมาแล้วทั้งหมด หากไม่สำเร็จไม่มีใครมาแก้บนแน่หากตีเป็นมูลค่าต่อชิ้น มีความสำเร็จในระดับหลักล้าน 999 ชิ้นมากกว่าพันล้านแน่ หรืออาจหลายพันหรือเป็นหมื่นล้านก็เป็นได้ ความหมายจากความสำเร็จเหล่านั้นมาเป็นกระเป๋าให้ทุกคนที่ครอบครองมีกำลังใจ"
ขณะที่ รองศาสตราจารย์ปรัชญา กฤษณะพันธ์ อาจารย์ประจำสำนักวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ สาขาการออกแบบภายใน ม.วลัยลักษณ์ ระบุว่า การวิจัยการจัดการทุนทางวัฒนธรรม ได้รับการอุดหนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) เพื่อนำไปสู่การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจของชุมชนผ่านความเชื่อ ความศรัทธา วัฒนธรรมของท้องถิ่น หางประทัดที่อยู่ในวัดแต่เดิมถูกทิ้ง เราจึงนำความสำเร็จของผู้คนมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เราจึงเข้าทำการงานกับชุมชน แต่เดิมมีการใช้พลาสติก เราจึงเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนจึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ
จากหางประทัดที่ถูกจุดแล้วอาจมีค่าแค่กิโลกรัมละ 10 บาท แต่เมื่อใช้ฝีมือของชาวบ้านและองค์ความรู้ต่างๆ มาทำเป็นกระเป๋า สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ถึงหลักพันบาท นับเป็นความสำเร็จที่มาจากความร่วมมือร่วมใจของสถาบันการศึกษาและชุมชนท้องถิ่นที่น่าชื่นชม
Advertisement