เหนือเมฆา...ใต้ผาชัน 'พาโร' สนามบินภูฏานที่สวยงามและอันตรายที่สุดในโลก
เหนือเมฆา...ใต้ผาชัน สัมผัสความพิเศษและอันตรายของสนามบินพาโร ภูฏาน ประตูสู่สรวงสวรรค์ที่ต้องแลกด้วยความระทึก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เป็นข่าวที่พสกนิกรไทยปลาบปลื้มใจที่ได้เห็นภาพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ เยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25-28 เมษายน 2568 ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์แห่งภูฏาน นับเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างราชวงศ์ไทยกับราชวงศ์ภูฏาน และความร่วมมือระหว่างสองประเทศที่ดำรงความผูกพันมายาวนาน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระราชพาหนะแบบ Boeing 737-800 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นนักบินผู้ควบคุมอากาศยาน และมีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติหน้าที่เป็นนักบินผู้ช่วย ซึ่งเครื่องบินพระที่นั่งเสด็จฯ ลงจอด ณ ท่าอากาศยานนานาชาติพาโร เมืองหลวงของภูฏาน ได้อย่างราบรื่น
รู้จัก ท่าอากาศยานนานาชาติพาโร
ท่าอากาศยานนานาชาติพาโร เป็นสนามบินนานาชาติเพียงแห่งเดียวของประเทศภูฏาน ขึ้นชื่อว่าเป็นสนามบินที่สวยงามและอันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากตั้งอยู่ในหุบเขาลึก ที่ความสูง 2,235 เมตร (7,333 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล โดยมีภูเขาสูงชันตั้งตระหง่านโอบล้อมเอาไว้ ทำให้เส้นทางการบินเข้าออกมีความซับซ้อนและต้องมีการเลี้ยวที่แม่นยำ สภาพอากาศในหุบเขามักเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีหมอกลงจัดและลมกระโชกแรงเป็นอุปสรรคต่อการบิน เนื่องจากสนามบินตั้งอยู่ในหุบเขาสูงชันจึงไม่มีระบบเรดาร์ที่มีความแม่นยำสูง นักบินจึงต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์ในการบินด้วยสายตาเป็นหลักในการลงจอดบนรันเวย์ที่ยาวเพียง 2,265 เมตร (7,431 ฟุต)
นอกจากนี้ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสนามบินยังระบุว่า “อนุญาตให้บินไปและกลับสนามบินพาโรได้ภายใต้สภาพอากาศที่มองเห็นได้เท่านั้น และจำกัดเฉพาะเวลากลางวันตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก” ทำให้สนามบินแห่งนี้จะมีเครื่องบินขึ้นลงเฉพาะเวลากลางวันและในช่วงที่ทัศนียภาพมองเห็นได้เท่านั้น ปัจจุบันมีสายการบินหลักๆ ที่ให้บริการ ได้แก่ Drukair และ Bhutan Airlines
สนามบินพาโรเป็นสนามบินประเภท C ซึ่งหมายความว่านักบินต้องได้รับการฝึกอบรมพิเศษจึงจะบินได้ พวกเขาต้องลงจอดด้วยตนเองโดยไม่ใช้เรดาร์ ดังนั้นนักบินจำเป็นต้องรู้จักภูมิประเทศรอบๆ สนามบิน หากทำผิดพลาดแม้เพียงเสี้ยวนิ้ว นักบินอาจลงจอดทับบ้านของคนอื่นได้ ซึ่งเว็บไซต์ข่าว CNN ระบุว่า ปัจจุบันมีนักบินพาณิชย์ที่ได้รับใบอนุญาตและการรับรองเป็นพิเศษสามารถทำการบินขึ้น-ลงที่สนามบินพาโรได้มีเพียงแค่ 50 คนเท่านั้น (ข้อมูลปี 2024)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ทรงนำเครื่องบินพระที่นั่งเสด็จฯ ลงจอด ณ ท่าอากาศยานนานาชาติพาโร ได้สำเร็จ แสดงถึงพระปรีชาสามารถด้านการทหาร โดยเฉพาะด้านวิศวกรรมการบินและอากาศยาน ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยมาตั้งแต่เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ซึ่งข่าวนี้สร้างความปลื้มปีติให้กับปวงชนชาวไทยเป็นอย่างมาก
Advertisement
