อย่าเชื่อ อย่าแชร์! 10 อันดับ ข่าวปลอม Fake News ที่ประชาชนหลงเชื่อ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ต้องเช็กก่อนแชร์ กันโดนหลอกจากมิจฉาชีพ!
ข่าวปลอม (Fake News) หรือ หลอกให้เชื่อ ลวงให้แชร์ กลายมาเป็นปัญหาหลักภายใต้การใช้โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในยุคที่อินเทอร์เน็ตคือส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ทุกคนล้วนเป็นได้ทั้งผู้รับและผู้ผลิตข้อมูลข่าวสาร นอกจากจะมีข่าวสารที่เป็นข้อมูลมีประโยชน์จากความจริงแล้ว ยังมีข้อมูลที่สร้างความเข้าใจผิดทั้งจริงและไม่จริง ที่ยากแก่การตรวจสอบในเวลาทันที จนกลายเป็นการบิดเบือนเนื้อหาจนไม่เหลือเค้าโครงข้อมูลความเป็นจริง หนึ่งในตัวกระตุ้นที่ก่อปัญหาในการสื่อสารอย่างที่ตกเป็นข่าวทุกวันนี้
Fake News หากหมายถึงแค่ข่าวปลอม อาจดูเป็นขอบเขตที่คับแคบจนเกินไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว Fake News ไม่ได้หมายถึงข่าวไม่จริงเท่านั้น แต่ยังรวมไปยังข้อมูลต่าง ๆ ที่ไม่เป็นความจริงอยู่ด้วย รวมถึงการเขียนข่าวที่ได้รับการสนับสนุนอย่างปิดบังหรือแอบแฝง ซึ่งนำเสนอในสื่อสังคม และแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ ซึ่งข้อมูล เนื้อหา ข่าวสาร ที่มีความไม่จริงอยู่ จะสร้างความเข้าใจผิด และสร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนและสังคมได้
ผลกระทบจาก ข่าวปลอม (Fake News)
ดีอี เผยจำนวนข่าวปลอม ที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะโฆษก กล่าวถึงการตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง "ประกาศยกเลิกการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท" นอกจากนี้ยังได้เปิดเผยผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม จากข้อความที่แจ้งเข้ามาทั้งหมด 844,660 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งสิ้น 256 ข้อความ
สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 240 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 16 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 200 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 100 เรื่อง ทั้งนี้กระทรวงดีอีได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย
ข่าวปลอม 10 อันดับที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุด
จากการพิจารณาข่าวปลอมทั้ง 10 อันดับที่ประชาชนให้ความสนใจ พบว่า ข่าวที่เกี่ยวข้องตามนโยบาลรัฐบาล หน่วยงานรัฐ และข่าวเรื่องอุทกภัย หรือข่าวที่มีผลกระทบต่อประชาชน หากกลายเป็นการส่งต่อในสังคมโดยที่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง อาจเกิดความเสียหาย การเข้าใจผิด เกิดเป็นความวิตกกังวลให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง
เทคนิคการตรวจสอบก่อนส่งต่อ
อย่างไรก็ตาม ความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอม ที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์หรือสื่อโซเชียล ยังเป็นเรื่องที่ควรให้ความสนใจ เพราะหากขาดความรู้เท่าทัน และประมาทจนเกิดการส่งต่อข้อมูลนั้น อาจทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชน ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัด
ทั้งนี้หากพบข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือเคลือบแคลงในข้อเท็จจริง สามารถแจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.) หรือ Line ID: @antifakenewscenter และ เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com
ที่มา : กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (facebook.com) / กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (thaimediafund.or.th)
Advertisement