เมื่อวันพุธที่ผ่านมา OpenAI รายงานว่า บริษัทพบความพยายามในการใช้โมเดล AI ในทางที่ผิด เพื่อสร้างเนื้อหาแปลกปลอมในหลายครั้ง เช่น การเผยแพร่บทความ และการแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดีย เพื่อมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งสหรัฐฯ รวมถึงการสร้างและแก้ไขมัลแวร์ และการสร้างเนื้อหาปลอมบนเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย
ในปีนี้ OpenAI ได้หยุดความพยายามเหล่านี้ไปแล้วกว่า 20 ครั้ง รวมถึงในเดือนสิงหาคม หลังมีกลุ่มบัญชี ChatGPT จำนวนหนึ่งที่ได้ผลิตบทความที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งของสหรัฐฯ แต่เนื้อหาปลอมเหล่านี้ กลับไม่ได้รับความสนใจหรือเข้าถึงผู้ชมจำนวนมาก
แต่ก็ยังมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการใช้ AI และโซเชียลมีเดีย ในการเผยแพร่เนื้อหาปลอมเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่สหรัฐฯ กำลังเตรียมการเลือกตั้งประธานาธิบดี
โดยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (DHS) ได้เตือนถึงภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นจากรัสเซีย อิหร่าน และจีน ซึ่งอาจพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายน รวมถึงผ่านข้อมูลบิดเบือนที่เกิดจาก AI
นอกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว ปีนี้ยังถือเป็นปีที่สำคัญสำหรับการเลือกตั้งทั่วโลก โดยมีการแข่งขันที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนมากกว่า 4 พันล้านคนในกว่า 40 ประเทศ การเพิ่มขึ้นของเนื้อหาที่สร้างโดย AI ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยข้อมูลจาก Clarity เผยว่า จำนวนการสร้าง Deepfake เพิ่มขึ้น 900% ทุกปี
ปัญหาของการปล่อยข้อมูลปลอมในช่วงการเลือกตั้ง ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก ย้อนกลับไปยังแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2016 มีนักแสดงชาวรัสเซียรายหนึ่ง ได้เผยแพร่เนื้อหาเท็จบนแพลตฟอร์มโซเชียล ส่วนในปี 2020 เครือข่ายโซเชียลถูกท่วมท้นไปด้วยข้อมูลที่เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด และการฉ้อโกงการเลือกตั้ง ซึ่งไม่เป็นความจริง
ทำให้ในปัจจุบัน ความกังวลของสมาชิกรัฐสภามุ่งเน้นไปที่การเพิ่มขึ้นของ Generative AI ที่เริ่มต้นในช่วงปลายปี 2022 ด้วยการเปิดตัว ChatGPT และตอนนี้ได้รับการนำไปใช้โดยบริษัททุกขนาด