จบกันไปแล้วกับการแสดงวีคแรกของ เทศกาลดนตรีและศิลปะระดับโลกอย่าง Coachella 2025 และแน่นอนว่าสำหรับคนไทยอย่างเรา โชว์สุดแสนพิเศษที่เราทุกคนต่างตั้งตารอคอย ก็น่าจะเป็นโชว์ของ ‘ต้าวลิช’ หรือ ลิซ่า BlackPink ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ ‘THAICONIC’ บนเวทีระดับโลก
สำหรับแฟนๆชาวไทย, บลิงก์ (ชื่อเรียกแฟนคลับ BlackPink) และลิลลี่ (ชื่อเรียกแฟนคลับของลิซ่า) เราคงดูโชว์ด้วยความภูมิใจ กับความสำเร็จของน้อง แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับ หรือไม่เคยรู้จักลิซ่ามาก่อน 55 นาทีนี้คือเวลาแห่งบทพิสูจน์ในเส้นทางศิลปินเดี่ยวระดับโลกอย่างเต็มตัวของลิซ่าว่าจะเฉิดฉายหรือไม่
และแน่นว่าลิซ่า ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง กวาด engagement ทำลายสถิติการกล่าวถึงสูงสุดในแต่ละสัปดาห์ในประวัติศาสตร์ Coachella กว่า 6.1 ล้านครั้งภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ ขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่งบน X ด้วย #LISACHELLA
บทความนี้ SPOTLIGHT เลยอยากชวนทุกคนมาดูความปังของลิซ่าผ่านงาน Coachella 2025 เวทีบทพิสูจน์ของ ‘ลิซ่า’ ที่พร้อมเฉิดฉายจากศิลปิน K-POP สู่ศิลปินเดี่ยวระดับโลก
ลิซ่า- ลลิษา มโนบาล ได้สร้างความเซอร์ไพร์สให้แก่แฟนๆในการขึ้นแสดงงานเทศกาลดนตรีและศิลปะระดับโลกอย่าง Coachella 2025 บนเวที Sahara Stage ที่ต้องเเสดงต่อหน้าผู้ชมมากกว่า 30,000 คน
ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการโชว์แรกและก้าวแรกของลิซ่า ในฐานะศิลปินเดี่ยว หลังจาก BlackPink ได้เคยแสดงที่เวที Coachella เมื่อปี 2019 และปี 2023 ที่ผ่านมา
เท่ากับว่า 55 นาที เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงที่แฟนๆอิ่มเอมความสุข แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่านี่คือความกดดันอันหนักอึ้งของเธอที่ต้อง ‘คิดมาทุกอย่างอย่างดีที่สุด’ และต้องมากกว่าศักยภาพที่เธอเคยทำมาแล้วอย่าง VMAs 2024, Victoria’s Secret 2024 หรืองาน Oscars 2024
หรือพูดง่ายๆคือ โชว์นี้ต้องสุด ไม่แพ้โชว์ก่อนหน้า ทำให้โชว์ Coachella 2025 นี้ ลิซ่าต้องเอา (คนเดียว)อยู่ให้หมด ไม่ว่าจะเป็น Performance เสื้อผ้า หน้าผม ธีม คอนเซ็ปต์ แดนเซอร์ ทีมงาน เพลง หรือแม้แต่การพูดคุยกับเหล่าแฟนๆบนเวที
เพราะหากเธอทำได้ดี เธอก็จะก้าวข้ามจากศิลปิน K-Pop สู่ศิลปินระดับโลกแบบที่ไร้ข้อกังขา และหากถามว่าทำไมคือความกดดัน เพราะตัวลิซ่าเองก็เป็นศิลปินชื่อดังที่ผ่านงานคอนเสิร์ตมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว?
นั้นเป็นเพราะว่า Coachella ไม่ใช่งานคอนเสิร์ตของ BlackPink หรืองานคอนเสิร์ตเดี่ยวของลิซ่าเอง ต้องอย่าลืมว่างาน Coachella คือเทศกาลดนตรีและศิลปะระดับโลกที่มีเหล่าศิลปินนับร้อยคน และนั้นหมายความว่าคนที่มางาน Coachella ไม่ได้ชอบศิลปินคนเดียวกัน ทุกคนไม่ได้รู้จักลิซ่า ทุกคนไม่รู้จัก BlackPink หรือบางคนอาจจะรู้จักลิซ่า ในฐานะนักแสดงจากซีรีย์ The White Lotus Season 3 เท่านั้น และนั้นแปลว่าหากเธอ ทำโชว์ได้อย่างน่าประทับใจ นี่คือโอกาสในการสร้างฐานแฟนคลับเพิ่มขึ้นโดยปริยาย
หากใครได้ดูโชว์ของลิซ่า น่าจะต้องคิดเห็นเหมือนกันกับผู้เขียนว่า เวลา 55 นาที ผ่านไปไวเหมือนโกหก เพราะลิซ่า ชีเสิร์ฟมาก ตลอดการโชว์นั้นมีทุกช่วงอารมณ์ ทั้งสนุก มันส์ เศร้า หรือน่ารัก ตามคอนเซปต์อัลบัมของเธอ Alter Ego 5 ตัวตน 5 มิติของลิซ่า ได้แก่
และสิ่งที่ศิลปินทำยากที่สุดเวลาขึ้นแสดงบนเวที คือ transition ระหว่างการเปลี่ยนเวที เปลี่ยนเพลง ระหว่างที่ศิลปินกำลังเปลี่ยนชุด โจทย์หลักก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ transition ตอนนั้นเป็นการเปลี่ยนที่สมูทที่สุด เพราะต้องอย่าลืมว่าผู้ชมกำลัง Hype อยู่ ศิลปินจะทำอย่างไรให้ผู้ชมยังคงมีความรู้สึกอย่างดูต่อ และต้องไม่ใช่การรอแบบน่าเบื่อ ซึ่งแน่นอว่าลิซ่าได้มีการเปลี่ยนชุด และเวทีบ่อยมาก แต่สิ่งที่ทำได้ดีในการรักษาความ Hype ของคนดู คือการใช้แดนเซอร์มาเต้น solo และการให้วงดนตรีขึ้นมาเล่นระหว่างรอเปลี่ยน ซึ่งนี่ยังคงรักษาอารมณ์ของคนดูได้ และอาจจะบิ้วให้คนรู้สึกตื่นเต้น ตั้งตารอคอยกับลุคใหม่ๆของเธอ
ทำให้ สื่อต่างประเทศอย่าง HollyWood Reporter ยกให้โชว์เดี่ยวของ "ลิซ่า" เป็นหนึ่งในการแสดงที่ดีที่สุดของ Coachella ปีนี้ โดยได้อธิบายเพิ่มว่า ลิซ่าและเจนนี่ ต่างกลับมาเวที Coachella อีกครั้งในโชว์เดี่ยวของตัวเอง เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในฐานะศิลปินเดี่ยวอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ หลังจากโชว์จบลงเพียงแค่ 3 วัน (12-15 เมษายน) ลิซ่ายังได้กวาด Engagement แบบฉ่ำๆ กลายเป็นศิลปินที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดใน X และสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Coachella กว่า 6.1 ล้านครั้ง แซงหน้าและทำลายสถิติของ BLACKPINK ที่ได้รับการพูดถึงกว่า 5.8 ล้านครั้งในปี 2023 เป็นที่เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม Weekend แรกของงาน Coachella ได้จบลงไปแล้ว ยังเหลือวีคเอนที่ 2 ของ Coachella ซึ่งลิซ่าจะทำการแสดงในช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 19 เมษายนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) แต่แค่นี่ลิซ่าก็ทำให้เราเห็นแล้วว่า เธอคือแรงบันดาลใจให้แก่เด็กทุกคนให้กล้าฝันในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเป็น และได้ใช้เวที Coachella ประกาศความเป็น THAICONIC ตัวอย่างของศิลปินคนไทยที่สามารถไปแสดงเคียงข้างกับศิลปินระดับโลกได้อย่างไม่น้อยหน้าใคร