ปัจจุบันเทรนด์การดูแลสุขภาพได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ผู้คนหันมาใส่ใจในการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงการดูแลสุขภาพร่างกายมากขึ้น ทำให้อาหารสุขภาพและสินค้าที่ช่วยเรื่องสุขภาพได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
รวมไปถึงการเลือกใช้น้ำมันที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ได้ โดยการเลือกใช้ “น้ำมันเมล็ดชาหรือน้ำมันเมล็ดคามีเลีย” จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) แถมยังช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ซึ่งเป็นไขมันที่มีประโยชน์ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดต่าง ๆ เช่น หัวใจ อัมพาต ฯ การที่น้ำมันเมล็ดชามีจุดเดือดเป็นควันสูงจะช่วยลดการแตกตัวของน้ำมันและการเกิดสารอื่น ๆ ที่ล้วนก่อปัญหาสุขภาพได้
อย่างไรก็ตามน้ำมันเมล็ดคามีเลียยังไม่เป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากนัก โดยในน้ำมันเมล็ดคามีเลียนั้นมีองค์ประกอบของกรดไขมันที่มีสัดส่วนเหมาะสมทัดเทียมกับน้ำมันมะกอก และยังมีราคาถูกกว่า มีจุดเดือดเป็นควันสูงกว่า จึงให้คุณประโยชน์ที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายและช่วยเสริมสุขภาพได้ดี นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพร่างกาย
การดูแลสุขภาพในยุคนี้นอกจากการทานอาหารครบ 5 หมู่ แล้วนั้น การเลือกใช้น้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวต่ำ และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มีสุขภาพดีแข็งแรง โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน ฯ
"น้ำมันมะกอกแห่งโลกตะวันออก"
น้ำมันเมล็ดคามีเลียได้รับฉายาว่า "น้ำมันมะกอกแห่งโลกตะวันออก" เนื่องจากมีคุณสมบัติหลายประการที่คล้ายกับน้ำมันมะกอก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของประโยชน์ต่อสุขภาพ ในน้ำมันเมล็ดคามีเลียมีสัดส่วนของกรดไขมันชนิดต่าง ๆ ในปริมาณที่ดีที่ไม่ด้อยไปกว่าน้ำมันมะกอก
ซึ่งประโยชน์ดี ๆ ของน้ำมันเมล็ดคามีเลีย เช่น มีกรดไขมันอิ่มตัว (ไขมันไม่ดี) ต่ำ มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (ไขมันดี) ในรูปของกรดโอเลอิก (โอเมก้า 9) สูงถึง 88% มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่งในรูปโอเมก้า 6 และมีกรดโอเมก้า 3 (เช่น กรดไขมัน ประเภทไลโนเลนิค) ไม่มีกรดไขมันทรานซ์ มีวิตามินอีสูง ซึ่งวิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยยืดอายุการใช้งานของน้ำมันให้นานขึ้น
นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วย วิตามินเอ บี ดี และมีสารแคททีซิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูง ในรูปสารโพลีฟีนอล ซึ่งมีส่วนช่วยลดระดับของแอลดีแอล (คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี) จึงช่วยป้องกันหลอดเลือดตีบตัน และป้องกันการอักเสบของเนื้อเยื่อ
สิ่งสำคัญน้ำมันเมล็ดคามีเลียยังมีคุณสมบัติพิเศษที่น่าสนใจ คือ มีกลิ่นหวานหอม มีจุดเดือดเป็นควันสูงถึง 252 องศาเซลเซียส หรือ 486 องศาฟาเรนไฮต์ จึงใช้ประกอบอาหารที่ใช้ความร้อนสูงมาก ๆ เช่น การทอดได้โดยไม่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระมาก เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันที่มีจุดเดือดเป็นควันต่ำกว่า เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา และน้ำมันเมล็ดองุ่น
ข้อแตกต่าง “น้ำมันเมล็ดคามีเลีย” และ “น้ำมันมะกอก”
น้ำมันเมล็ดคามีเลีย และ น้ำมันมะกอก ทั้งคู่ต่างก็เป็นน้ำมันจากธรรมชาติที่มีประโยชน์มากมาย แต่ทั้งสองชนิดก็มีคุณสมบัติและประโยชน์ที่แตกต่างกันตามลักษณะของพืชและกระบวนการสกัดน้ำมัน ทั้งสองชนิดต่างมีประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพและการดูแลร่างกาย ในส่วนของน้ำมันเมล็ดคามีเลียจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงแบบไม่ทิ้งความมัน ในขณะที่น้ำมันมะกอกจะเหมาะสำหรับการทำอาหารและการบำรุงที่เน้นความชุ่มชื้นมากขึ้น
ทั้งนี้น้ำมันเมล็ดคามีเลียมีจุดเกิดควันสูงกว่าน้ำมันมะกอก ทำให้เหมาะกับการปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนสูง เช่น การทอดและการผัด ในขณะที่น้ำมันมะกอกเหมาะกับการใช้ในอาหารที่ไม่ผ่านความร้อนหรือใช้ความร้อนต่ำ ด้วยน้ำมันเมล็ดคามีเลียมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นกลาง ขณะเดียวกันน้ำมันมะกอกมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งอาจมีผลต่อรสชาติของอาหารที่ปรุง
จะเห็นได้ว่าน้ำมันเมล็ดคามีเลียเป็นน้ำมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีคุณสมบัติหลายประการที่คล้ายกับน้ำมันมะกอก แต่มีจุดเด่นคือมีจุดเกิดควันสูง ทำให้เหมาะกับการปรุงอาหารที่หลากหลาย น้ำมันเมล็ดคามีเลียจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการน้ำมันเพื่อสุขภาพที่มีประโยชน์และสามารถใช้ในการปรุงอาหารได้หลากหลายรูปแบบ
น้ำมันเมล็ดคามีเลียในโครงการมูลนิธิชัยพัฒนามีที่มาจาก พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการเกษตรในประเทศ รวมถึงการช่วยเหลือชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
โดยมูลนิธิชัยพัฒนาได้ศึกษาวิจัยและพัฒนากระบวนการพัฒนาและผลิตน้ำมันเมล็ดคามีเลียด้วยกระบวนการสกัดเย็น เพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการของน้ำมันเมล็ดคามีเลียให้คงอยู่ครบถ้วน น้ำมันที่ได้มีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพ สามารถใช้ได้ทั้งการประกอบอาหาร บำรุงผิวพรรณ และดูแลเส้นผม
โครงการน้ำมันเมล็ดคามีเลียของมูลนิธิชัยพัฒนายังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยการให้ความรู้แก่เกษตรกรในเรื่องของการปลูกและการเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำไปสู่การสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน
Advertisement