กรณีดราม่า #คลับเฮ้าส์toxic หลังจากที่มีการตั้งห้องในคลับเฮาส์ขึ้นมาพูดคุยและด่าทอดูถูกคนอีสาน ก่อนจะมีคลิปหลุดออกมาจากหลาย ๆ ห้องในคลับเฮาส์ ใช้ชื่อแตกต่างกัน เช่น คนอีสานคือซอมบี้ในชีวิตจริง Resident Esan, อีสานมีหน้าที่แค่เกี่ยวข้าวให้คนกรุงแ_ก และอีสานตื่นยังไอ้ขี้ข้า
โดยผู้ที่ร่วมพูดคุยในห้องก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน คือ พูดจาเหยียดหยามคนอีสาน เช่น คนภาคอื่นมีวิวัฒนาการมาจากลิง แต่คนอีสานมีวิวัฒนาการมาจาก velociraptor (ไดโนเสาร์กินเนื้อชนิดหนึ่ง) ทำให้คนอีสานกินสุนัขด้วย คนอีสานส่วนใหญ่ชอบให้ลูกตัวเองไปมีผัวฝรั่ง เพราะคทำมาหากินไม่ได้ ต้องไปเกาะคนอื่นกิน
ล่าสุดวันที่ 7 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นดังกล่าวยังคงเป็นที่พูดถึงอย่างต่อเนื่องในโลกออนไลน์ เริ่มมีการเคลื่อนไหวจากหลาย ๆ ด้าน ร่วมถึงเรื่องการแอบอ้างด้วยการใช้ภาพบุคคลอื่นมาใช้เป็นโพรไฟล์ตัวเองในห้องคลับเฮาส์เพื่อร่วมพูดคุย และยังไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริงของการตั้งกลุ่มขึ้นมานั้นมีจุดประสงค์อะไรกันแน่
ทั้งนี้ น้องกั้ง อายุ 20 ปี และน้องพราว อายุ 25 ปี สองสาวดาว TikTok ซึ่งทั้งคู่ก็เคยเข้าร่วมกลุ่มคลับเฮาส์เหยียดคนอีสาน ออกมาชี้แจงว่า ไม่เคยร่วมวงด่าคนอีสาน แต่เข้าไปพูดความจริง สุดท้ายทั้งกลับถูกเหมาร่วมไปด้วย
น้องกั้ง และน้องพราว เปิดใจว่า สำหรับพวกตน 2 คน เพิ่งจะรู้จักผู้ใช้คลับเฮาส์ชื่อ “ท่าปลั๊ก คนดี” เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 64 โดยไม่เคยเจอหน้ากันอยู่แล้ว ขณะนั้นยังไม่มีดราม่า และหลัก ๆ เป็นการพูดคุยกันเรื่องทั่วไป และในกลุ่มจะมีกัน 7-8 คน แต่บางครั้งก็จะมีคนแทรกขึ้นมาด่า และก็โต้ตอบกัน กระทั่งประมาณสิ้นเดือนตุลาคม 64 เปิดกลุ่มมาอีก 7-8 คน เป็นกลุ่มคุยทั่วไป แต่จู่ ๆ มีคนนอกมาขอคุยด้วย แต่ก็ด่าแรง ซึ่งตนก็จับใจความไม่ได้ ไม่รู้ภาษาอะไร และพูดเร็วมาก แต่คนเป็นมอนิเตอร์ก็เตะลง หลังจากนั้นก็มีการเปิดห้อง “เหยียดคนอีสาน” แต่ตนเลือกไม่เข้าไปยุ่ง ไม่เข้าไปร่วมวง เพราะรู้ว่าหากเข้าไปแล้วมีปัญหาเกิดขึ้น ตนก็จะต้องโดนหางเลขไปด้วย
จากนั้นกลุ่มนี้เปิดขึ้นมาด่าเหยียดคนอีสานเป็นประจำทุกวัน กระทั่งผู้ใช้ที่ชื่อ “โอดิน” ท้าทายถึงรายการโหนกระแส มีการปล่อยคลิปออกไปจนกระทั่ง "พี่หนุ่ม - กรรชัย กำเนิดพลอย" ออกมาพูด โดยกลุ่มที่มีการตั้งขึ้นมานั้นจากปากของนายปลั๊ก จะพูดเสมอว่า “พวกมึงเข้ามาเสือกกันเอง กูเปิดพูดคุยด่ากันเอง” แต่สำหรับตนเท่าที่เห็นการกระทำดังกล่าวเหมือนทำจนเป็นเรื่องปกติ และทำกันมานานแล้ว
ส่วนตัวนายปลั๊ก เท่าที่รู้จักในคลับเฮาส์ กลุ่มทั่วไปจะพูดกับพวกตนดีมาก เช่น กินข้าวหรือยัง ทำอะไรอยู่ ไม่เคยด่า แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นสาระมาก ส่วนใหญ่ตนก็จะปิดไมค์และรับฟัง สำหรับตอนนี้พวกตนกลายเป็นผู้เสียหาย ซึ่งต้องขออธิบายจุเเริ่มก่อนว่า น้องพราว ดันไปใช้ชื่อ “เมียปลั๊กคนดี” แต่จริง ๆ ไม่ใช่เมียปลั๊ก และจะเปลี่ยนชื่อได้ภายใน 2 สัปดาห์
ส่วนสาเหตุที่จู่ ๆ ขึ้นไปอยู่บน Panel เนื่องจากกลุ่มที่เหยียด มีการเปิดห้องสรุปช่วงเย็นวันที่ 5 พฤศจิกายน 64 ว่า “ทำไมถึงด่าคนอีสาน” ตนก็อยากรู้และเข้าไปพอดีมีประโยคว่า “ผมโดนด่าก่อนนะ” ถ้าไม่เชื่อ ถามกั้งกับพราวได้ ก่อนมีการถามว่าเห็นจริง ๆ ใช่ไหมว่ามีคนมาด่าพี่ ตนก็พูดไปว่า “ใช่เห็น” ซึ่งตนยืนยันว่าพูดตามหลักความเป็นจริงไม่ได้เข้าข้างคนผิด เพราะในขณะที่มีคนเข้ามาด่าเขาด่าจริง ๆ แต่สุดท้ายก็โดนกระหน่ำด่าหาว่าอยู่ฝั่งเดียวกัน
จากนั้นจึงปิดไมค์ฟังก่อนขึ้นมาชี้แจงว่า “พี่คะ ใจเย็น ๆ นะ หนูไม่เกี่ยวนะ” และนายปลั๊กก็พูดขึ้นมาว่า “เนี่ยพวกมึงคนอีสานด่าไม่ดู_อะไรเลย” จนตนรู้สึกว่า "ไม่ดีละ จึงกดออก"
“อยากให้ทุกคนที่ติดตามข่าวเรื่องนี้ เลื่อนฟังดูทุกคลิป จำหน้าทุกคนในกลุ่ม ดูให้ละเอียดว่าใครด่าบ้าง จะได้รู้ข้อมูลทั้งหมด บางคนไม่ได้ดูอะไร ก่อนด่าใครควรติดตามข่าวให้ครบถ้วน เพราะไม่เช่นนั้นคุณเองนั่นแหละที่ผิด ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องไม่ได้เห็นด้วย คนทุกคนเป็นคนเหมือนกัน ดังนั้นจะทะเลาะกับใครเจาะจงดีกว่าเหมารวมเป็นภาค” น้องกั้ง และน้องพราว กล่าว
ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของนายต้า (ชื่อเรียกในคลับเฮาส์ท่านปลั๊กคนดี) แต่ทีมข่าวไม่พบตัวนายต้า พบเพียงนางอรพิน (นามสมมติ) ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า ตนมีลูก 3 คน ไม่เคยตั้งความหวังกับลูกชายคนนี้ ตนดูแลได้แต่ตัว พยายามอบรมสั่งสอนลูกทั้ง 3 และส่งเรียนหนังสืออย่างเท่า ๆ กัน ตนก็ไม่แปลกใจที่ลูกคนหนึ่งจะนิสัยแย่ขนาดนี้ ซึ่งวันที่ตนเห็นข่าว ตนนอนร้องไห้ 2 คืน จนต้องปล่อยและทำใจยอมรับ ใครอยากด่าให้ด่าเต็มที่ และไม่ขอตอบโต้ แม้จะเสียหายแค่ไหนตนก็ไม่ขอเอาผิด
"ที่แม่ไม่ออกสื่อ เพราะแม่ไม่อยากพูดต่อความ เพื่อสร้างความแตกแยกให้กับคนในสังคม สิ่งที่ลูกแม่ทำมันไม่ได้ประโยชน์กับใคร ดังนั้นใครก็ตามที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ ให้ไปแจ้งความเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากลูกแม่ผิด แม่ก็พร้อมพาลูกเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเช่นกัน วันนี้แม่ยืนยันว่าลูกแม่ไม่ใช่คนดี และไม่ขอพูดว่าลูกแม่เป็นคนดี แม่ไม่ปกป้อง จะไม่ช่วยอะไรลูกเลย" นางอรพิน กล่าว
ขณะเดียวกัน หลังเกิดเรื่องตนได้เรียกกลุ่มเพื่อนของลูกชายกว่า 10 คน ซึ่งบางคนเป็นเยาวชนมานั่งพูดคุยพร้อมกัน โดยตนสั่งให้ลูกและเพื่อนหยุดการกระทำทั้งหมด ซึ่งต่อไปจะไม่มีเรื่องการเหยียดคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ทั้งเชื้อชาติ ศาสนา และท้องถิ่น “หากในอนาคตลูกชายเปิดกลุ่มคลับเฮาส์อีก ไม่ว่าจะเปิดคุยเรื่องอะไรก็ตาม แม่ขอเตือนว่าอย่าเข้าไปคุย อย่าไปให้ค่าลูกชายแม่ เขาหิวแสง ปล่อยมันให้ด่าของมันไปคนเดียว”
ขณะที่ความเคลื่อนไหวทางเฟซบุ๊กของนายต้า เมื่อวานนี้ (6 พ.ย.64) เวลา 17.56 น. ได้แชร์ข้อความในเว็บไซต์ชื่อดัง เรื่องคนชอบเหยียดคนอื่นเป็นคนน่าสงสาร ระบุว่า “อย่าด่าผมเลยครับ ผมน่าสงสารจะตาย ไม่เชื่อลองอ่านดู โอ๋ผมหน่อย” ทำให้มีผู้แชร์ออกไปมาก 1,700 ครั้ง และแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่ระบุว่ายังคงไม่สำนึก
Advertisement