เมื่อช่วงเวลา 20.00 น. วันที่ 10 ก.พ. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต บริเวณบ้านพักกลางสวนผลไม้พื้นที่ หมู่ 13 คลองตะเฆ่ซอย 2 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี พบศพนายสิทธิศักดิ์ ศักดิ์หงส์ อายุ 18 ปี ชาว จ.จันทบุรี สภาพนอนบนหญ้าหน้าบ้าน พบมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเข้าท้ายทอย 1 แห่ง เป็นแผลฉกรรจ์ ซึ่งผู้ก่อเหตุ คือนายทศพร พุดจีบ อายุ 46 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
วันที่ 11 ก.พ. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณบ้านพักในสวน เป็นบ้านไม้ยกตัวสูงจากพื้นประมาณ 1.50 เมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 13 คลองตะเฆ่ซอย 2 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี ซึ่งจุดที่ผู้เสียชีวิตถูกฟาดด้วยคราด อยู่บริเวณหน้าบ้าน ยังคงพบรอยเลือดของผู้เสียชีวิต และพบขวดเบียร์ของผู้ต้องหาอยู่
นายทศพร เปิดใจว่า ปมสาเหตุในการก่อเหตุเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของตัวเอง ซึ่งขณะนั้นยอมรับว่าดื่มเบียร์จริง แต่ไม่ได้เมา และก่อนหน้านี้ 2 วัน มีปากเสียงกับภรรยา หลังจับได้ว่าภรรยาไปสนิทกับชายหนุ่มคนอื่น ผ่านการคุยโทรศัพท์ ทำให้ตนมีความเสียใจและความโกรธอยู่ในใจ
กระทั่งวันเกิดเหตุ ช่วงหัวค่ำนายสิทธิ์ศักดิ์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเพื่อนของนายคิม ลูกชายของตน โดยมาเที่ยวเล่นอาศัยอยู่ที่บ้านนานกว่า 1 เดือน ซึ่งตนก็ให้ที่อยู่กินเหมือนเป็นลูกตนอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยทำประโยชน์อะไร บางทีก็จับกลุ่มกันดื่มเหล้า
แต่ขณะนั้น ตนกำลังเดินไปจุดไฟเผาขยะ ลูกชายตนยืนเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างล่าง ส่วนนายสิทธิ์ศักดิ์ หรือ เจฟ ผู้เสียชีวิต นั่งอยู่บนบ้าน พอตนจุดไฟเสร็จก็กลับมานั่งหน้าบ้านที่เดิม นายสิทธิ์ศักดิ์ได้กลิ่นเหม็นควัน จึงพูดด้วยถ้อยคำด่าทอว่า ”ใครจุดไฟเผาอะไรตอนนี้วะ” ตนได้ยินและอยู่ในอาการเมา ได้ตะโกนด่ากลับไปมา ก่อนที่จะมีปากเสียงกันและจะต่อยตน ลูกชายก็เข้าข้างเพื่อนจะต่อยตนด้วย ยิ่งทำให้ตนโมโห จึงหยิบที่คราดเหล็กฟาดในลักษณะแกว่งไปมา
ตอนนี้ตนรู้สึกผิดแล้ว ไม่ได้มีเจตนาทำให้ตาย ตนอยากขอโทษญาติผู้เสียชีวิตด้วย ส่วนลูกชาย และภรรยา ตนอยากบอกว่า รักทั้ง 2 คนมาก ๆ และบอกกับพวกเขาทุกวันเป็นประจำ ซึ่งตอนนี้ตนมีความเครียดเรื่องคดีความ ไม่รู้ว่าจะมีคนมาประกันตัวหรือไม่ ถ้าไม่มี ตนก็ต้องติดคุก เพราะตนรู้ตัวเองว่าทำความผิด
นายสุวัฒน์ กำลังกิจ อายุ 28 ปี หลานผู้ต้องหา บอกว่า เมื่อช่วงเวลา 19.00 น. ตนนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน จากนั้นนางหนู ภรรยาผู้ต้องหา ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาที่บ้าน บอกให้เอารถกระบะของตนไปช่วย นายคิม ลูกชายของตน กับนายสิทธิ์ศักดิ์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเพื่อนของลูกชาย ถูกนายทศพร ซึ่งเป็นสามี ใช้เหล็กที่คราดฟาดได้รับบาดเจ็บ
พอตนมาถึงก็เห็นนายสิทธิ์ศักดิ์ ผู้เสียชีวิตนอนหงายเลือดออกปากและคอบริเวณพื้น ถัดไปเห็นนายคิมนั่งเอามือกดแผลบริเวณคอ เลือดอาบอยู่ข้างบ้าน ตนก็รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย และพยายามทำให้นายสิทธิ์ศักดิ์ ผู้เสียชีวิต ตื่น แต่ขณะนั้นหัวใจเต้นช้าลงแล้ว และเสียชีวิตในที่สุด
ส่วนตัวไม่ได้สนิทสนมอะไรกับเด็กกลุ่มนี้ แต่นายคิมก็เป็นเด็กห้าว และพูดจากับนายทศพร ผู้ต้องหา ไม่ค่อยดี และมีปากเสียงกับพ่อตัวเองเป็นประจำ ส่วนนายทศพร ผู้ต้องหาก็เป็นดีคนหนึ่ง ที่รักครอบครัวและลูกมาก ที่ผ่านมามีการทะเลาะวิวาทกับนางหนูบ้าง ซึ่งล่าสุด 2 วันที่ผ่านมา ทะเลาะกันเรื่องภรรยาตัวเองไปสนิทกับชายหนุ่มคนอื่น ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียด ในขณะที่ลูกที่นายทศพรรักมากก็พูดจาก้าวร้าว อาจจะทำให้หมดความอดทนจนฟิวส์ขาด ส่วนจะประกันตัวหรือไม่นั้น ต้องให้ทางญาตินายทศพรปรึกษากันก่อน
ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดป่าอุทุมพร ตำบลฉมัน อำเภอมะขาม จ.จันทบุรี ภายในศาลาวัด มีการจัดตั้งงานศพของนายสิทธิศักดิ์ ศักดิ์หงษ์ อายุ 18 ปี ผู้เสียชีวิต หลังญาติได้นำศพมารถน้ำศพภายในศาลาวัด ท่ามกลางญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมาแสดงความเสียใจ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นางสาวจ๋า พี่สะใภ้ผู้เสียชีวิต บอกกับทีมข่าวว่า นายสิทธิศักดิ์ ผู้เสียชีวิต เป็นคนที่ค่อนข้างตลก และอัธยาศัยดี ไม่ใช่เด็กเกเร ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ปกติแล้วนายสิทธิศักดิ์จะไปเล่นบ้านของนายคิมเป็นประจำ เพราะเขาทั้งสองคนสนิทกัน ก็เป็นเรื่องปกติที่จะไปบ้านกันและกัน ซึ่งไม่ได้ไปอยู่เป็นเดือน ๆ หรือไปตั้งวงดื่มเหล้าตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง เพราะนายสิทธิศักดิ์ ผู้เสียชีวิตไม่ใช่คนที่มีนิสัยดื่มเหล้า ไม่ใช่คนก้าวร้าว และจะติดต่อกลับมาที่บ้านเป็นประจำว่าจะไปบ้านนายคิม หรือวันไหนจะนอนค้างบ้านนายคิม ในวันที่มีเรียนออนไลน์ติดกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มองว่าค่อนข้างรุนแรงและเกินกว่าเหตุ เรื่องของการหวังดีของนายสิทธิศักดิ์ ผู้เสียชีวิตที่เข้าไปช่วยนายคิม จากการถูกพ่อตัวเองทำร้ายนั้น มองว่าไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เกิดขึ้น สภาพจิตใจในครอบครัวขณะนี้ยังอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ
ทางด้านนางหนู ภรรยาของผู้ต้องหา ก็โทรมาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ได้เข้าข้างสามีแต่อย่างใด เสร็จจากธุระของลูกชายอาจจะมาร่วมงานศพด้วย ส่วนตัวไม่ได้กังวลใจเรื่องของการประกันตัว เพราะมองว่าไม่น่ารอด และรอผลสรุปเรื่องราวที่แท้จริงกับทางเจ้าหน้าทึ่ตำรวจอีกที
เมื่อช่วงเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี นำโดย พ.ต.อ.เตชิต กุลกนิษฐรากร ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี นำตัวนายทศพร พุดจีบ ผู้ต้องหาในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น พามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ
Advertisement