Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
พ่อแฉวีไอพีลัดคิวลูกไส้ติ่งแตกดับ รพ.เปิดไทม์ไลน์เลื่อนผ่าเหตุป่วยแทรกซ้อน (คลิป)

พ่อแฉวีไอพีลัดคิวลูกไส้ติ่งแตกดับ รพ.เปิดไทม์ไลน์เลื่อนผ่าเหตุป่วยแทรกซ้อน (คลิป)

6 มิ.ย. 65
17:31 น.
แชร์

จากกรณีที่พ่อแม่ของ ด.ช.กิตติศักดิ์ กรมไธสง หรือ น้องต้นน้" อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นมัธยม ร้องกับสื่อมวลชน หลังลูกชายหรือ น้องต้นน้ำเสียชีวิต เหตุแพทย์ปล่อยให้นอนรอโดยที่ไม่ได้รับการผ่าตัด และส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ต้องเอาออกมา อ้างว่าหมอติดผ่าตัดเคสพิเศษ จำนวน 2 ราย สุดท้ายไส้ติ่งแตกเสียชีวิตในเวลาต่อมา

141766

ล่าสุด วันที่ 6 มิ.ย. 65 ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของ ด.ช.กิตติศักดิ์ หรือ น้องต้นน้ำ ผู้เสียชีวิต หมู่ที่ 6 ตำบลพุทไธสง อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ นายสมบูรณ์ กรมไธสง อายุ 42 ปี พ่อของน้องต้นน้ำ เล่าว่า จริงแล้วน้องพักอาศัยอยู่กับตนและย่าของน้อง ตนมีลูกเพียงคนเดียว เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงวันเสาร์ที่ 28 พ.ค. ช่วงเย็น น้องบอกว่าปวดท้อง ตนเลยพาน้องไปที่โรงพยาบาลพุทไธสง ด้วยเป็นช่วงวันหยุดจึงไม่มีแพทย์ ตนตัดสินใจพาน้องกลับมาบ้าน

327768

ต่อมาในวันอาทิตย์ที่ 29 พ.ค. น้องอาการก็ยังไม่ดีขึ้น ตัดสินใจพาน้องไปที่โรงพยาบาลพุทไธสงอีกครั้ง แพทย์บอกว่าน้องมีอาการของไส้ติ่งอักเสบ ต้องรีบนำตัวไปส่งโรงพยาบาลที่บุรีรัมย์เป็นการด่วน หลังจากนั้นนำตัวไปที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ประมาณช่วงบ่าย ทีมแพทย์ก็ได้ให้รอเข้ารับการผ่าตัด โดยที่น้องตอนนั้นก็ยังคงมีสติ สามารถสื่อสารได้ บอกแค่เจ็บท้อง

105294

กระทั่งเวลา 4-5 ทุ่ม หมอก็เข้ามาตรวจอีกครั้ง นำตัวน้องไปห้องผ่าตัด  ต่อมาเวลาประมาณเกือบประมาณเที่ยงคืนกว่า พนักงานเวรเปลก็ได้เข็นน้องกลับมาที่ห้องพัก ตนก็สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ว่าผ่าตัดเสร็จแล้วเหรอ เท่าที่จำความได้เขาก็ตอบว่า "ยัง เพราะแพทย์ต้องผ่าเคสอื่นก่อน" ต้องนำตัวน้องกลับมาที่ห้อง ในใจตอนนั้นเชื่อว่าหากเขาผ่าตัดน้องก่อนคงไม่เสียชีวิต หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่นำน้องมาที่ห้องพักเหมือนเดิม น้องก็ยังบ่นว่าปวดท้อง แต่ยังสื่อสารรู้เรื่อง

297029

ต่อมาในช่วงเช้าของอีกวัน น้องเองก็ได้รับการผ่าตัด หลังผ่าตัดแล้วเสร็จน้องเองก็สลบไม่ได้สติ ก่อนที่ทางโรงพยาบาลเองก็ได้นำตัวน้องเข้าไปยังห้องไอซียู ตนเองก็ไม่ได้เข้าไปดูอาการน้อง กระทั่งช่วงดึกของวันที่ 31 พ.ค. 65 ทางคุณหมอได้แจ้งว่าน้องอาการทรุด ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในช่วงตี 2 ของวันดังกล่าว

638664549658

ตนยอมรับที่ผ่านมาตนเองไม่ได้มีโอกาสเจอหมอหรือได้พูดคุยถึงสาเหตุที่มีการเลื่อนผ่าตัด ได้แต่เฝ้ารออยู่ด้านนอก เจอแค่คนเข็นเปล ทั้งนี้ หลังจากเกิดเรื่องจนถึงวันนี้ตนเองในฐานะครอบครัวยังข้องใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าทำไมวันนั้นถึงไม่ได้ผ่าน้องก่อน ให้รอเวลามาเกือบวันถึงจะได้ผ่า หากผ่าครั้งแรกน้องเองคงได้กลับมาอยู่บ้านกับตนเหมือนก่อนหน้านี้ ที่ผ่านมาหลังจากเกิดเรื่องทางโรงพยาบาลเองไม่ได้เข้ามาเยียวยาหรือรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนตัวไม่ได้อยากได้เงินหรือการชดใช้แต่สิ่งใด ต้องการคือข้อเท็จจริงและคำชี้แจงกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเหตุผลคืออะไร

137237670714

ภาพสุดท้ายที่ปรากฏในโรงพยาบาล เป็นภาพก่อนที่น้องจะเข้ารับการผ่าตัด ช่วงนั้นน้องบอกแค่ว่าอยากให้ผ่าไวไว เพราะน้องเจ็บ ที่ผ่านมามีโรคประจำตัว เป็นโรคหอบ ก่อนเกิดเหตุน้องไม่ได้มีการกินอะไรผิดปกติ กินข้าวตามเดิม อย่างไรก็ตาม สาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นทีมแพทย์ได้มีการระบุว่า "ติดเชื้อในกระเเสเลือดจากภาวะไส้ติ่งอักเสบ มีภาวะร่วมน้ำหนักเกิน ระบบหายใจล้มเหลว ไตวายเฉียบพลัน"

906221

เมื่อเวลา 13.00 น. โรงพยาบาลบุรีรัมย์มีการแถลงข่าวถึงเรื่องราวปัญหาที่เกิดขึ้น นพ.รักเกียรติ ประสงค์ดี รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลบุรีรัมย์ แถลงชี้แจงว่า ทางโรงพยาบาลเองได้น้อมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องของประเด็นความล่าช้าในการผ่าตัด หลังจากที่มีการผ่าตัดเคสก่อนหน้านี้ไปแล้ว ช่วงเวลาดังกล่าวอาจจะเป็นความล่าช้าจากการทำงานของบุคลาการทางการแพทย์ที่ลากยาวมาตั้งแต่ช่วงดึก ตลอดจนอาจจะเกิดจากความล่าช้าของการจัดเตรียมอุปกรณ์หรือความสะอาดในส่วนของห้องผ่าตัด ตลอดมีเรื่องของการสับเปลี่ยนเวรกะของบุคลากรทางการแพทย์

873287

ทางโรงพยาบาลต้องขออภัยและยอมรับความผิดที่เกิดขึ้น ในอีกมุมหนึ่งด้วยความที่น้องต้นน้ำ ผู้เสียชีวิต อาจจะมีเรื่องของภาวะแทรกซ้อน ทั้งเรื่องของการติดเชื้อในกระเเสเลือด ภาวะน้ำหนักเกิน เรื่องของระบบหายใจล้มเหลว หลังที่ตรวจพบว่าไส้ติ่งแตก ทำให้ระยะเวลาในการประเมินของแพทย์ต้องละเอียดมากกว่าเคสปกติ

ไทม์ไลน์การรักษาในช่วงเวลาที่เกิดขึ้น มีทางแพทย์และครอบครัวจากโรงพยาบาลพุทไธสง ส่งตัวมาในช่วงวันที่ 29 พ.ค. 65 เวลา 15.04 น. เข้าห้องฉุกเฉิน ต่อมาเวลา 15.45 น. ทีมแพทย์ห้องฉุกเฉินได้ประเมินอาการเบื้องต้น วินิจฉัยพบว่าผู้ป่วยมีอาการไส้ติ่งอักเสบ ส่งตัวผู้ป่วยไปยังหอผู้ป่วยชายชั้น 7 อาคารศัลยกรรม ก่อนจะเข้ากระบวนการงดน้ำ ตรวจเลือด เอ็กซเรย์ปอด ให้ยาฆ่าเชื้อ และให้น้ำเกลือ

ต่อมาเวลา 17.00 น. แพทย์ได้มีการเซ็ตระบบเตรียมผ่าตัด ระหว่างที่มีการเตรียมความพร้อมในการผ่าตัด ทีมแพทย์พบว่าทางผู้ป่วยมีสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย มีภาวะหัวใจเต้นเร็ว แพทย์ให้มีการเพิ่มน้ำเกลือให้กับผู้ป่วยในเวลา 21.45 น. ผู้ป่วยเริ่มมีอาการแทรกซ้อน การเต้นของชีพจรที่เร็วขึ้น รวมถึงผู้ป่วยมีสภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์ จากส่วนสูง 163 เซนติเมตร น้ำหนัก 83 กิโลกรัม ทีมแพทย์ต้องระดมทีมผ่าตัดประชุม และประเมินสภาวะที่เปลี่ยนแปลงการเข้าผ่าตัดในครั้งนี้ เรียกวิสัญญีในการดมยาสลบ ในช่วงเวลา 22.30 น.

245689

ต่อมา 23.30 น. แพทย์ได้มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยถึงห้องผ่าตัด ด้วยเหตุผลเนื่องจากห้องผ่าตัดตึกศัลยกรรมมีห้องผ่าตักจำนวน 3 ห้อง แยกเป็นห้องศัลยกรรม 2 ห้อง และห้องผ่าตัดตกแต่งกระดูก 1 ห้อง น้องต้นไปถึงหน้าห้องพบว่าทางห้องผ่านัดศัลยกรรมทั้ง 3 ห้องยังติดเคสผ่าตัดที่เร่งด่วน เป็นเคสที่ต่อเนื่องมาจากช่วงกลางวันที่แล้ว ไม่ได้เป็นเคสที่มาแทรกแต่อย่างใด ในห้องแรกมีผู้ป่วยกำลังผ่าตัดอยู่ 1 คน ภาวะลำไส้อุดตัดจากไส้เลื่อน รอคิวอยู่อีก 1 คน เป็นผู้ป่วยภาวะช่องท้องอักเสบอย่างรุนแรง ทั้ง 2 เคสนี้ผ่าตัดเสร็จในช่วงเวลาประมาณ ตี 2

ต่อมาในส่วนห้องผ่าตัดที่ 2 มีคนไข้เข้ารับผ่าตัดในเรื่องกระดูก มีความจำเป็นที่ต้องจะผ่าตัดเร่งด่วน ห้องที่สองผ่าตัดเสร็จเมื่อเวลาตี 2 ครึ่ง ส่วนห้องผ่าตัดที่ 3 อยู่ชั้น 4 เป็นการผ่าตัดคนไข้ตั้งครรภ์ เด็กมีภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติในครรภ์ ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นของทีมแพทย์ผ่าตัด ตอนนั้นไม่ทราบว่าเวลาที่คากว่าจะแล้วเสร็จต้องใช้เวลากี่ชั่วโมง ตอนหลังทางแพทย์ลงความเห็นว่าหากปล่อยให้น้องต้นน้ำรออยู่หน้าห้องผ่าตัดอาจจะมีความเสี่ยง จึงประสานงานส่งผู้ป่วยกลับหอผู้ป่วยก่อน จนกว่าจะมีการผ่าตัดเคสก่อนหน้านี้แล้วเสร็จ

ต่อมาเวลา 07.00 น. ของวันที่ 30 พ.ค. ทีมแพทย์ที่ดูแลได้เข้าประเมินอาการของน้องต้นน้ำอีกครั้ง ช่วงการเข้าประเมินอาการเพื่อเตรียมความพร้อมในการผ่าตัด พบว่าน้องเองมีอาการหอบ หายใจเร็ว มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ตรวจสอบอย่างละเอียด พบมีภาวะติดเชื้อในกระเเสเลือด มีภาวะระบบหายใจล้มเหลว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในช่วงเวลา 11.30 น. จากนั้นสภาวะของผู้ป่วยทางร่างกายเริ่มแย่ลง ทีมแพทย์เลยต้องประชุมปรับเปลี่ยนแผนงานการผ่าตัด ปรับสภาพร่างกายให้เกิดความเหมาะสมในการเข้ารับการผ่าตัด เวลา 14.00 น. นำน้องเข้าห้องผ่าตัด เริ่มผ่าตัดเวลา 15.00-15.40 น. ใช้เวลาผ่าตัด 40 นาที

ผลจากการผ่าตัดพบว่าสภาวะที่เกิดขึ้นคือไส้ติ่งแตก พบหนองอยู่รอบแผลประมาณ 100 ซีซี หลังการผ่าตัดก็ได้มีการย้ายน้องไปยังห้อง ICU เด็ก จากภาวะแทรกซ้อน ต่อมาในช่วงเวลา 22.40 น. ผู้ป่วยมีภาวะชักเกร็งเกิดขึ้น หลังจากนั้น 23.00 น. ความดันน้องต่ำลง หมอพยายามให้ยากระตุ้นความดัน ต่อมาวันที่ 31 พ.ค. เวลา 02.25 น. มีภาวะหัวใจหยุดเต้น

อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้นยืนยันว่าไม่มีเคสพิเศษใด ๆ เกิดขึ้นในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ทุกเคสสามารถมีเอกสารหลักฐานประกอบในการอธิบายได้ ทุกเคสล้วนมีความเร่งด่วน และเป็นเคสที่มารับบริการก่อนหน้านี้ ยอมรับผิดในปมการผ่าตัดที่ล่าช้า ตลอดจนเรื่องของการเยียวยา หรือรับทราบข้อมูลข่าวสารถึงความผิดพลาดในครั้งนี้ โรงพยาบาลไม่ขอปฎิเสธในสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนี้พร้อมเข้าไปเยียวยากับทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต ในส่วนของการเยียวยาเองทางโรงพยาบาลก็รู้สึกผิด หลังเหตุการณ์เกิดขึ้นแต่ทางโรงพยาบาลหรือบุคลากรกลับไม่ทราบเรื่อง เพิ่งจะมาทราบเรื่องในช่วงเมื่อวานนี้ ทำให้ทางโรงพยาบาลไม่ได้ลงพื้นที่ไปหาครอบครัวของผู้สูญเสีย หลังจากนี้เตรียมจะลงไปพบกับครอบครัว พร้อมขอโทษ และขอขมากับครอบครัว

Advertisement

แชร์
พ่อแฉวีไอพีลัดคิวลูกไส้ติ่งแตกดับ รพ.เปิดไทม์ไลน์เลื่อนผ่าเหตุป่วยแทรกซ้อน (คลิป)