จากกรณีมีผู้เสียหายร้องเรียนมายังทีมงานหมอปลา และทีมงาน ว่าถูกซินแสท่านหนึ่ง มีการอ้างอุบายถึงดวงชะตาของบุพการีว่าจะมีภัย หากไม่ต่อชะตากับตน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงินหลายบาท และมารู้ตัวในตอนท้ายว่าซินแส คนดังกล่าวเคยเคยมีประวัติการโกง
วันที่ 14 มิ.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ไปยัง สภ.เมืองพัทยา โดยในวันนี้หมอปลา, ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์, กัน จอมพลัง และทีมงาน พานางสาวเมธาวี สร้อยสูงเนิน อายุ 23 ปี และนางสาวสกุลนี ดอนเหลา 23 ปี ผู้เสียหายทั้ง 2 ราย เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา
นางสาวเมธาวี สร้อยสูงเนิน อายุ 23 ปี ผู้เสียหาย บอกว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตนได้ข่าวจากเพื่อนร่วมงาน บอกว่ามีชายคนหนึ่ง ซึ่งอ้างตัวเป็นซินแซดูดวงให้ อายุประมาณ 50 ปี มีขั้นตอนการเปิดไพ่ดูดวง แต่มีการทำนายทายทักว่าแม่ของตนมีเคราะห์หนัก จะมีโอกาสบาดเจ็บจนถึงตาย แล้วจะมีค่ารักษาสูงถึง 3-4 แสนบาท แต่หากมาแก้เคราะห์กับตนเองเสียค่าพิธีสะเดาะเคราะห์ 5 หมื่นบาท
แต่ตนไม่มีเงินจ่าย โดยซินแซบอกกับตนว่ามีเท่าไรก็โอนเงินมาให้ก่อน ที่เหลือค่อยทยอยจ่ายภายหลัง ตนจึงจ่ายให้ 17,000 บาท ซึ่งบอกแค่ว่าเป็นการจุดเทียน และปรินต์รูปมาแปะ ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดว่าเอาไปทำอะไรบ้าง
จากนั้นซินแสได้ทักมาทวงเงินที่เหลือกับตนอีกหลายครั้ง ตนก็ต้องทยอยหามาจ่าย รวมจ่ายเงินไปแล้ว 29,000 บาท ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าซินแสคนนี้มีประวัติเคยหลอกลวงคนอื่นมาก่อน เลยฉุกคิดว่าตนเองน่าจะถูกหลอกเช่นกัน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อที่จะเอาผิดซินแซคนนี้ เพราะกลัวว่าจะไปทำแบบนี้กับคนอื่นซ้ำอีก การที่เอาบุพการีซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเองค่อนข้างอ่อนไหวมาหากินกับจุดอ่อนคนอื่นมันไม่ใช่เรื่องดี
ขณะที่นางสาวสกุลนี ดอนเหลา อายุ 23 ปี ผู้เสียหาย บอกว่า ตนรู้จักซินแสเพราะเพื่อนที่เป็นเด็กเอนฯ แนะนำมาว่าดูดวงแม่น ตนจึงได้มีการลองเข้าไปดูดวงกับซินแซท่านนี้ เป็นการเปิดไพ่ทำนาย โดยซึ่งซินแสคนดังกล่าวได้ทำนายในเรื่องการงาน ว่ามีเงินมีงานเข้ามาเยอะ ซึ่งก็ตรงกับตนเอง จากนั้นซินแซบอกกับตนว่าถ้าอยากได้งานมากขึ้นกว่านี้ ต้องทำพิธีถวายพระนาคปรก ซึ่งมีค่าพิธี 25,900 บาท ตนจึงหลงเชื่อว่าจะเป็นจริง ขอซินแสแบ่งจ่ายเป็น 2 งวด 20,000 บาท และมีค่าเช่าพระอีก 5,900 บาท
ต่อมาซินแสได้ทักว่าแม่ของตนมีเคราะห์ ต้องทำพิธีจุดเทียนต่อดวงชะตา 18,900 บาท ด้วยความที่เป็นห่วงแม่กลัวว่าแม่จะมีเคราะห์ จึงพยายามทำงานหาเงินมาจ่ายค่าพิธี ซึ่งซินแซคนดังกล่าวยังอ้างว่า "เรื่องนี้เป็นความลับของสวรรค์ อย่าบอกแม่ หรือคนอื่น เพราะจะทำให้พิธีล้มเหลวไม่สำเร็จ"
จากนั้นไม่นานจึงใส่อ้างว่าเทียนที่ตนถวายนั้นมีการระเบิด ความหมายคือช่วยแม่ไม่ได้แล้ว ต้องถวายท้าวเวสสุวรรณ 4 องค์เพิ่ม ตนก็เริ่มรู้สึกสงสัย จึงมีการนำชื่อของซินแส ไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต ก็พบข่าวว่าเคยมีข่าวหลอกเหยื่อโอนเงินจำนวนมากเมื่อปี 2563 ตนจึงทักไปหาซินแซ โดยซินแสยอมคืนเงินแต่ให้เฉพาะค่าเช่าพระ เพราะพระที่จ่ายเงินค่าเช่าไปนั้นมันไม่มีพระอยู่จริง โดยจะแบ่งจ่าย 4 งวดให้ตน แต่จนถึงตอนนี้ก็คือไม่ครบยอด
นอกจากนี้ ก็มีเด็กเอนเตอร์เทนหลายคนเป็นลูกศิษย์ของซินแซคนนี้ และมีการแอบอ้างว่ามีดารามาทำพิธีลงนะหน้าทอง ตนต้องการ ให้ซินแสคนนี้รับโทษตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้ไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก เพราะเมื่อ 2 ปีก่อนไม่ได้ถูกดำเนินคดีใด ๆ และยังคงมีพฤติกรรมเหมือนเดิม คือนำเรื่องครอบครัว จุดอ่อนของเรามาพูดแช่งว่าจะมีเคราะห์ ตนจึงอยากให้ระวังหากจะมีการดูดวงตามความเชื่อ ซึ่งควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน
ด้านนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา บอกว่า จากกลอุบายที่ซินแสคนดังกล่าวได้อ้างกับผู้เสียหาย ในเรื่องของการทำนายทายทัก ว่าคนในครอบครัวกำลังตกอยู่ในชะตากรรมลำบาก มีเคราะห์กรรมใหญ่ ต้องต่อชีวิตด้วยการทำพิธีต่อดวงชะตา โดยมีการให้โอนเงินหลักหมื่น ก็เป็นเรื่องที่เข้าข่ายของการหลอกลวง โดยเฉพาะความลับของสวรรค์ซึ่งมันไม่มีอยู่จริง มองว่าเป็นการกล่าวอ้าง เพื่อข่มขู่ผู้เสียหาย ไม่ให้ไปบอกเรื่องนี้กับใคร เพื่อตัวเองจะได้หลอกเอาเงินไปเรื่อย ๆ
โดยเฉพาะการที่อ้างตนว่าเป็นท้าวเวสสุวรรณ ยิ่งทำให้ไม่สามารถเชื่อได้ อีกทั้งยังมีการหากินกับความรู้สึกคนอื่น เอาพ่อแม่คนอื่นมาแช่งว่าจะตาย มันไม่มีใครเขาทำ ซึ่งตนอยากขอเตือนประชาชนว่าไม่มีหมอไหนแม้กระทั่งหมอปลาซึ่งเป็นหมอผีจะต่อชะตาให้ใครมีชีวิตได้ หมอที่จะต่อชีวิตคนได้ มีแค่หมอเดียว คือหมอในโรงพยาบาล
ด้านทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ บอกว่า ในเรื่องของการดำเนินคดี ผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีตามพยานหลักฐานได้ โดยพฤติการณ์ เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่าซินแสคนดังกล่าวมีประวัติเคยถูกต้องโทษ ในคดียักยอกทรัพย์ ตามหมายจับศาลจังหวัดหนองคาย ซึ่งในกรณีนี้ทางทีมงานทนายไพศาล หมอปลา และกัน จอมพลัง ก็จะช่วยเหลือในด้านการติดต่อดำเนินคดีทางกฎหมาย
ทีมข่าวได้ติดต่อไปหาซินแสคนดังกล่าว บอกว่า ตนรับสารภาพ และยอมรับข้อกล่าวหาว่ามีการเรียกเงินจริง แต่เป็นการทำพิธีต่อดวงชะตา ซึ่งมีการซื้อเทียนขี้ผึ้งแท้ 99 คู่ รวม 198 แท่ง ซึ่งยังมีค่าพานบายศรี และเครื่องเซ่นอื่น ๆ อีก ตนแค่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดให้ทราบ ส่วนผู้เสียหายทั้ง 2 คน โดยเฉพาะนางสาวสกุลนี เป็นลูกศิษย์ตนมาก่อน เพราะที่ผ่านมาก็เคยลงหน้าทองให้ แบบไม่คิดเงิน ซึ่งชีวิตเขาก็ดีขึ้นจริง เพราะมีคำแนะนำให้สวดมนต์ทุกวัน แต่เรื่องของการทำนายทายทักว่าจะมีเคราะห์นั้น เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งตนไม่เคยอ้างว่าตนเป็นท้าวเวชสุวรรณ และไม่ได้รับองค์เทพไหนทั้งนั้น เป็นการทำนายแบบเปิดไพ่ และใช้จิตวิญญาณในการสัมผัส จากตำราของตนเองซึ่งที่ผ่านมาก็เคยทำนายเพื่อนของนางสาวสกุลนีว่าจะเกิดอุบัติเหตุ และก็เกิดจริง ๆ ซึ่งนางสาวสกุลนีก็เชื่อในสิ่งนี้
ในวันนี้การต่อชะตาและความสิริมงคลในตัวผู้คน ย่อมมีส่วนของพฤติกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คือต้องสวดมนต์ หมั่นทำบุญ ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำเองหรือเปล่าถึงไม่เป็นผล ส่วนประเด็นเรื่องความลับของสวรรค์ ความหมายคือถ้าหาก ตนได้มีการทำนายทายทักใคร แล้วถ้ากูถูกทำนายได้มีการนำเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น เท่ากับว่าคนอื่นซึ่งอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวร ก็จะรู้ว่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้น ทำให้การแก้ดวงชะตาไม่สำเร็จ ซึ่งถ้าถามถึงผลลัพธ์ว่าสามารถแก้ได้จริงหรือไม่ ตนขอตอบว่ามันคือการผ่อนหนักให้เป็นเบา ผ่อนเบาให้ไม่เกิดขึ้นเลย
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นในวันนี้ ตนได้มีการพูดคุยกับผู้เสียหายแล้วว่าจะมีการคืนเงินทั้งหมด ให้ผู้เสียหายภายในระยะเวลา 3 เดือน แบบผ่อนจ่าย ซึ่งขึ้นอยู่กับทางผู้เสียหายว่าจะให้ตนจ่ายเดือนละเท่าไร นอกจากนี้ สาเหตุที่ตนไม่อยู่บ้าน เป็นเพราะมีการกู้เงินนอกระบบ ที่มาตามทวงหนี้รายวัน จึงมีความเป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัย ตนไม่ได้หวั่นใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะกับคดีเก่าตนก็ผ่านมาแล้ว แม้จะคืนเงินหมดในภายหน้า แต่ถ้าผู้เสียหายยังคงยืนยันที่จะดำเนินคดี ตนก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอย่างไร และถ้ามีผู้เสียหายรายอื่นร้องเข้าใหม่อีก ตนก็ยืนยันที่จะคืนเงินให้ทุกราย
จากนั้น ทีมข่าวไปยังบ้านของซินแส "โหรา ดวงทิพย์"ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองพัทยา ถูกล็อกปิดตัวเงียบ ไม่มีคนอาศัยอยู่ ทีมข่าวสอบถามเพื่อนบ้าน บอกว่า ปกติตนไม่ค่อยได้พูดคุยกับซินแสท่านนี้ เนื่องจากที่ผ่านมามักจะเห็นมักเก็บตัวอยู่ในบ้านไม่ค่อยออกจากบ้าน และพักหลังตนก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ซึ่งตนไม่รู้ว่าซินแสท่านนี้รับดูดวงอย่างไร
จกานั้น พนักงานเร่งรัดหนี้สินขับรถมอเตอร์ไซค์ซ้อน 2 คน ขับเข้ามาที่หน้าบ้าน บอกกับทีมข่าวว่า ตนได้รับหน้าที่มาติดตามทวงหนี้สินของลูกหนี้ ซึ่งมีการซื้อทองแบบผ่อนรายเดือนไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีการนำทองไปขายแล้วหรือไม่ แต่ว่าไม่มีการส่งยอดรายเดือน ซึ่งตนขับรถจักรยานยนต์แวะเวียนเข้ามาดูเป็นประจำ ก็ไม่พบว่ามีใครอยู่บ้านหลายเดือนแล้ว
Advertisement