“ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง” หนังในตำนานยุค 70 กำเนิด “บรู๊ซ ลี”
รู้จักที่มาคำว่า “ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง” จากคำเรียคนจีนที่เพิ่งเข้ามาประเทศไทย ก่อนจะกลายเป็นชื่อหนังที่สร้างชื่อให้ “บรู๊ซ ลี” และเป็นการเรียก หัวหน้าพรรคประชาชนอย่าง “เท้ง ณัฐพงศ์” จาก “ทักษิณ ชินวัตร”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หลังจาก “ทักษิณ ชินวัตร” พูดพาดพิงถึง “เท้ง – ณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน โดยเรียกว่า “ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง” หากเป็นคนมีอายุหน่อยก็จะคุ้นชินกับคำนี้ แต่หากเป็นเด็กโดยเฉพาะหลังปี คศ. 2000 อาจจะไม่รู้จัก
ซึ่งคำนี้ถูกหยิบยกมาใช้และใช้เรียกคนหนุ่มที่มีเชื้อสายจีน เดิมคำนี้เป็นศัพท์ที่ใช้เรียก กลุ่มคนจีนใหม่ ที่อพยพมาจากประเทศจีนมาอาศัยอยู่ที่ประเทศไทย
คำว่า “ซินตึ๊ง” มาจาก “ซิน” หรือ “ซิง” ที่แปลว่าใหม่ ส่วน “ตึ๊ง” มาจากคำว่า “ตึงหนั่ง” เป็นคำเรียกตัวเองของคนจีนจากภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของแผ่นดินจีนตามสำเนียงแต้จิ๋ว
โดยสมัยนั้นคนหนุ่มจากเมืองจีนอพยพกันมาที่เมืองไทยเยอะมาก และมาจาก “ซัวเถา” ที่มีชาวแต้จิ๋วอยู่จำนวนมาก และกลายเป็นบรรพบุรุษของใครหลายๆคน เมื่ออพยพเข้ามาก็มักจะมีแค่เสื่อผืนหมอนใบ และมาทำงานรับจ้าง สร้างเนื้อสร้างตัวจนร่ำรวย แต่ก็มีอีกหลายคนที่อพยพมาพร้อมกับสถานะที่มั่งคั่งอยู่แล้ว
ซึ่งคนที่เข้ามาก็ใช่ว่าจะสำเร็จทุกคน เพราะมีบางคนต้องหนีกลับประเทศจีน และอีกหลายคนต้องมาทิ้งชีวิตในประเทศไทย
เมื่อมาถึงเมืองไทย “ซินตึ๊ง” มักจะปรับตัวไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องภาษา ทำให้ดูแปลกและออกเด๋อๆด๋าๆ ซึ่งมุมมองนี้ก็มีทั้งคนไทยที่มอง และคนจีนที่อยู่มาก่อนก็มองเช่นกัน
ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องในอดีตสมัยปู่หรือทวดของใครหลายๆคน แต่คำนี้กลับมาดังอีกครั้งจากภาพยนตร์เรื่อง唐山大兄; หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า The Big Boss ส่วนในภาษาไทยก็ใช้ชื่อว่า “ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นของฮ่องกง ที่ฉายครั้งแรกในปี 1971 เป็นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เรื่องแรกของ “บรูซ ลี” ดารานักบู๊ในตำนานและเรื่องนี้ถ่ายทำอยู่ในประเทศไทยตลอดทั้งเรื่อง และทำให้ “บรู๊ซ ลี” มีชื่อเสียง และโด่งดังที่สุดในยุคนั้น
โดยเรื่องราวก็เป็นเรื่องของ พระเอกที่ชื่อ “เฉาอัน” หนุ่มชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซึ่งก็ตรงกับคำนิยามของ “ซินตึ๊ง” ก่อนเรื่องราวจะดำเนินให้พระเอกต้องใช้วิชากังฟู จนทำให้ “บรู๊ซ ลี” โด่งดัง
สำหรับการถ่ายทำนั้นถ่ายเมื่อปี 2514 โดยเริ่มต้นที่ อำเภอปากช่อง นอกจากนี้ยังไปถ่ายอีกหลายที่ เช่นลำตะคอง ก่อนจะกลับมาถ่ายที่ กทม. เช่น ภัตตาคารพูลสิน ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อำเภอพระประแดง
Advertisement
