บีบใจ "เอ๋ เชิญยิ้ม" ปล่อยโฮดูศพลูก ลางแปลกเมียเห็นจุดจบ เพื่อนพิศวงคำพูดก่อนจาก (คลิป)

วันที่ 30 ก.ย. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์พุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ และเกิดเพลิงไหม้ ณ สะพานต่างระดับสาลีโข ถนนชัยพฤกษ์ขาเข้า ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงได้ลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ

ตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ “นายพีรพล จันทร์ตรง” หรือ “อาร์ม” ลูกชายตลกชื่อดัง “เอ๋ เชิญยิ้ม” โดยทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิตเพื่อชันสูตร

น.ส.ขวัญฤดี สาระกุล เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง เล่าว่า ตนได้รับแจ้งเหตุจึงรีบขับรถมาดูพอขึ้นบนสะพานมาเห็นรถจักรยานยนต์จอดอยู่ประมาณ 2-3 คัน และเห็นรถจักรยานยนต์ถูกไฟลุกไหม้ จึงรีบจอดรถเปิดไซเรนแล้ววิ่งไปดู พบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 รายถูกไฟคลอก นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถ ส่วนรถจักรยานยนต์มีเพลิงลุกไหม้ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันดับไฟ จากการสอบถามคนเห็นเหตุการณ์บอกว่าผู้เสียชีวิตชนท้ายรถ 18 ล้อ ที่ขับชะลอความเร็วอย่างจังจึงทำให้เสียชีวิต

โดยใน เพจเรื่องของผี ซึ่งเป็นเพจล่าท้าผีของอาร์มและเพื่อน ๆ ได้เผยคลิปก่อนจากไปเพียงแค่ 1 วัน ตอนหนึ่งระหว่างไลฟ์สด อาร์มก็ได้บอกกับทีมงานว่าตนรู้สึกใจเสีย เหตุอยู่ดี ๆ พ่อก็โทรมาหา เพราะฝันว่าเห็นเลือดเต็มหน้าตนเอง พร้อมเตือนว่าขอได้ไหม หากวันนี้ต้องขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบก์ หรือขับรถเก๋งก็ขอให้ขับช้าที่สุดเท่าที่จะช้าได้ ซึ่งอาร์มเผยว่าตนก็รับฟังแต่ก็ทำให้จิตตก

ในขณะที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิต สถาบันนิติเวช “เอ๋ เชิญยิ้ม” พร้อมด้วยอดีตภรรยา ซึ่งเป็นคุณแม่ของ “น้องอาร์ม พีรพล” ผู้เสียชีวิต และเพื่อน ๆ ที่สนิท ได้เดินทางมาถึงสถาบันนิติเวช เพื่อทำเอกสารและรอรับร่างผู้เสียชีวิต ต่อมาเวลา 13.15 น. โลงศพมาถึงนิติเวชเพื่อมาเตรียมการนำร่างบรรจุลงในโลงศพ ด้านคุณแม่ของน้องอาร์มได้กอดผ้าขนหนูสีแดงของน้องอาร์มเอาไว้ตลอด เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำให้นึกถึงลูกชาย ก่อนจะเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตออกจากนิติเวชเดินทางไปยังวัดเซิงหวาย

เวลา 15.30 น. ได้มีการจัดพิธีรดน้ำศพ โดยเป็นการรดน้ำกับรูปถ่ายของผู้เสียชีวิต มีผู้เป็นพ่ออย่าง “เอ๋ เชิญยิ้ม” และอดีตภรรยาซึ่งเป็นแม่ของน้องอาร์ม รวมถึงแฟนสาวและบรรดาเพื่อน ๆ ญาติพี่น้องที่สนิททยอยกันรดน้ำ และยังมีแขกทยอยเดินทางมาร่วมแสดงความอาลัยกันเป็นจำนวนมาก สำหรับพิธีสวดพระอภิธรรมมีขึ้นในเวลา 19.00 น.

“เอ๋ เชิญยิ้ม” ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จริง ๆ แล้วเมื่อคืนนี้ต้องแยกกันทำงานกับลูกชาย แต่อยู่ ๆ ลูกก็บอกว่าจะมาถ่ายงานที่เดียวกับตนด้วยตนก็แปลกใจแต่ก็ถือว่าได้ทำงานด้วยกัน ตอนนั้นเห็นหน้าลูกหมอง ๆ ใจคิดว่าอาจจะเป็นเพราะแสงน้อยหรือเปล่า เพราะเรามาถ่ายรายการกันในวัดในป่าช้าก็เลยไม่ได้คิดอะไร

หลังจากถ่ายงานเสร็จตนก็กลับบ้านนอน จากนั้นได้รับโทรศัพท์จากแฟนของลูกชายว่าบอกว่าอาร์มรถชน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าหนักหรือเบา ไม่อยากตีโพยตีพาย ตนรีบไปที่เกิดเหตุเพื่อไปดูลูก หลังจากนั้นไม่เกิน 5 นาที ก็ได้รับสายโทรศัพท์อีกครั้งแล้วมีแต่เสียงร้องไห้ตนก็รู้ทันทีว่าลูกเป็นอะไร แต่ก็ไม่คิดว่าสภาพจะเป็นขนาดนั้น

ซึ่งวันที่เกิดเหตุการณ์ลูกชายกำลังจะไปหาญาติที่มาจากต่างประเทศ และอยากจะขอแก้ข่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีการแข่งรถกันแต่อย่างใด เพราะว่าได้ขับไปกับรุ่นน้องอีกคน ซึ่งรุ่นน้องคนนี้ค่อนข้างเป็นคนขี้กลัวมาก แต่ลูกเราเป็นคนขับรถเร็วอยู่แล้วเพราะเป็นรถบิ๊กไบก์ ซึ่งในตอนนั้นลูกชายตนได้หันไปยิ้มให้รุ่นน้องและขับทิ้งห่างออกไป ก่อนจนเกิดอุบัติเหตุ แต่ตนไม่ติดใจอะไรในตัวคนขับรถบรรทุกยอมรับว่าลูกเป็นคนขับรถเร็ว

การสูญเสียครั้งนี้ทำให้ตนนึกย้อนกลับไปถึงลางสังหรณ์ของภรรยา ที่เห็นหน้าลูกชายเปื้อนเลือดมายืนอยู่หน้าบ้านเมื่อวันก่อนจนต้องโทรหา ซึ่งตอนนั้นลูกชายก็บอกว่าเกือบจะเกิดอุบัติเหตุอยู่เหมือนกัน ตนจึงคิดว่าคงเป็นการฟาดเคราะห์ใหญ่ไปแล้วเลยไม่ได้คิดอะไร ซึ่งลางสังหรณ์นี้เกิดขึ้น 1 วัน ก่อนลูกชายเสียชีวิต ตนยอมรับว่าลูกชายเป็นคนขับรถเร็วตนจะคอยย้ำอยู่ตลอดว่าให้ขับรถดี ๆ ใจเย็น ๆ

“เอ๋ เชิญยิ้ม” ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาตนช่วยขนศพไม่มีญาติไม่คิดค่าใช้จ่ายมาเยอะ ไม่คิดว่าวันนี้จะต้องมาเคลื่อนศพลูกตัวเอง แค่ศพลูกตนยังไม่กล้ามองเลย สภาพรถใกล้ ๆ มอเตอร์ไซค์เป็นร่างคนไหม้เกรียม ตนก็หันหน้านี้ ได้แอบดูตอนเขาเอาศพขึ้นรถแล้ว วันที่ลูกเกิดมองลูกผ่านกระจกในโรงพยาบาล แต่วันนั้นกับวันนี้ความรู้สึกต่างกันมากสุดจะบรรยาย ตอนนั่งรถมาวัดในใจบอกลูกชายว่าพ่อมาส่งแล้ว ถ้าลูกยังไม่ได้ไปไหนให้กลับมาหาพ่อ เขาบอกเสมอว่าจะทำให้พ่อภูมิใจเขามองตนเป็นไอดอล

สำหรับพิธีการจะมีกำหนดสวดและเผาภายใน 3 วัน แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากมีลูกเพจอยากจะมีส่วนร่วมในงานครั้งนี้ด้วย พร้อมพูดทิ้งท้ายว่าอยากให้เข้าใจคนตายแค่ลูกเป็นแบบนี้ตนก็ทุกข์ใจมากแล้ว

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี สำรวจกล้องวงจรปิดที่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ที่ผู้ตายไปใช้บริการบ่อย ๆ บันทึกภาพ อาร์ม ผู้ตาย ได้ไปซ่อมรถบิ๊กไบก์คู่ใจก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน ซึ่งผู้ตายพูดจ๋ายิ้มแย้มสนุกสนานไม่มีลางบอกเหตุ

นายสุทัศน์ เจ้าของร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ที่ อาร์ม ผู้เสียชีวิต ไปใช้บริการ เผยว่า ปกติน้องเป็นคนชื่นชอบรถบิ๊กไบก์อยู่แล้ว ชอบความเร็วแต่ยืนยันว่าไม่มีการแข่งรถแน่นอน ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะรวดเร็วมากเพิ่งเจอกันไปเมื่อวาน

“แอดมินเพจเรื่องของผี” ซึ่งเป็นเพื่อนกับ “อาร์ม พีรพล” และเป็นคนที่ขับรถไปด้วยกันในวันเกิดเหตุ ได้เปิดใจถึงการสูญเสียครั้งนี้ว่า ที่ผ่านมาอาร์มคอยช่วยเหลือตนอยู่ตลอดเวลาที่ลำบาก ตัวเองอยู่ในฐานะที่เรียกว่าจนได้เลย แต่เขาเป็นคนที่ดึงตนขึ้นมาตนจึงนับถือเขาเหมือนพ่อ ตนเรียกเขาว่าพ่อมา 4-5 ปีแล้ว ซึ่งที่ตนนับถือเขาเป็พ่อไม่ใช่เพราะเขาให้เงินให้อะไร แต่เป็นเพราะความรัก ความสัมพันธ์ ความเอ็นดู เขาดูแลทุกคนดีมาก เรียกว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง

ด้านเพื่อนสนิทอีกคนเผยว่า สำหรับอุปนิสัยของเขา จะเป็นคนโมโหง่ายแต่ใจดี ส่วนตัวตนตอนที่ไม่มีงานอะไรทำ เขาก็มาเจอแล้วมาชวนไปทำงาน ทำเพจผีด้วยกันเราเริ่มตั้งแต่ยังไม่มีสปอนเซอร์จนเพจได้เติบโตถึงทุกวันนี้ สนิทกันมาตั้งแต่เขาอายุยังน้อย ๆ

โดยเพื่อนที่ขับรถไปกับอาร์ม เล่าด้วยน้ำตาว่า ในวันเกิดทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมาก ตนขับกับเขามาธรรมดาเขาก็หันมายิ้มกับตน ตนเห็นเขายิ้มแบบมีความสุขมาก แล้วเขาก็ขับแซงหน้าไป หลังจากนั้นตนเห็นอีกทีไฟมันก็ลุกขึ้นมาแล้ว ตนช่วยอะไรไม่ได้เลย วันนั้นเป็นการจะขับไปหาญาติที่มาจากต่างประเทศ เขาหันมายิ้มอย่างเดียวไม่ได้คุยอะไรกัน ส่วนตัวเขาเป็นขี้เล่นอยู่แล้ว ตอนที่เกิดเหตุการณ์โทรศัพท์ตนไม่สามารถติดต่อใครได้เลย สิ่งที่ตนทำได้คือพยายามวิ่งไปหาเขา จับตัวเขาก็รู้ว่าเขาไปแล้ว กู้ภัยที่อยู่แถวนั้นเขาเห็นเหตุการณ์เลยเข้ามาช่วย

ในส่วนที่มีการบอกว่ามีการแข่งรถกัน ตนจะบอกว่ามันไม่ใช่การแข่ง ตอนนั้นที่เขาแซงไปเราอยู่ไกลกันมาจะเป็นการแข่งได้ยังไง ตนก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ ส่วนคนที่ไม่เข้าใจเหตุการณ์ตนก็ให้เขาคิดไปดีกว่า มันทำอะไรไม่ได้ ต่อให้ตนบอกว่าไม่ใช่ มันก็แค่นั้น ยืนยันไม่ได้เป็นการแข่งรถแน่นอน เพราะว่าตนเป็นคนขับอีกคันหนึ่งเอง

ส่วนเรื่องลางสังหรณ์ เพื่อนสนิทอีกคนเผยว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุ ก่อนที่เขาจะเสียประมาณ 3 วัน เขาก็พูดวน ๆ ว่า ถ้าเป็นอะไรไปอยู่ไม่ถึงอายุ 40 ปีแน่เลย แล้วก็เขาก็พูดว่าถ้ากูตายจะบวชให้กูไหม เพื่อนก็ได้บอกไปว่าอย่าพูดไม่ใช่เรื่องน่าพูด

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้พูดคุยกับ “น้ำ รัชดาภรณ์” แฟนสาวของ “อาร์ม พีรพล” โดยแฟนอาร์มได้ให้สัมภาษณ์ว่า สภาพจิตใจตอนนี้ ตนไม่ไหว พูดอะไรไม่ออก ตนคิดเยอะไปหมด คิดว่าตื่นขึ้นมาตนไม่เจอเขาจะต้องทำยังไงต่อ

ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ตนได้เจอกับแฟนหนุ่มก่อนไม่เกิน 5 นาที เขาออกไปจากบ้านไม่เกิน 5 นาที รถก็ชน เขาเลิกงานกลับมาเปลี่ยนเอารถมอเตอร์ไซค์ไป แล้วเขาเข้ามากอด มาหอม พร้อมบอกว่า เดี๋ยวผัวมานะ ขอไปหาน้าเดี๋ยวรีบกลับ ไม่เกิน 5 นาที กู้ภัยก็โทรมาหาตนบอกว่ารถชนเสียแล้ว ตอนแรกเขาบอกว่ามีเสียชีวิตคนหนึ่งสาหัสคนหนึ่ง ตอนแรกตนยังไม่รู้ว่าเสียแล้ว พอไปถึงที่เกิดเหตุตนจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ ตนจำได้แค่แหวนที่เขาใส่ เสื้อก็ไหม้หมด