วุ่น! รถเต็นท์โดนชำแหละดันถูกกม. เจ้าของสืบจาก gps คนซื้อซวยติดแบล็กลิสต์ (คลิป)
สืบเนื่องจาก นายชญานนท์ คงฉาง หรือ นนท์ อายุ 24 ปี และ น.ส.สุชัญญา หนูทอง หรือ ตาล อายุ 23 ปี สองสามีภรรยาชาว จ.ตรัง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ซื้อรถมือสองจากเต็นท์ใช้ได้ 5 เดือน แต่ถูกตำรวจพร้อมเจ้าของเดิมเข้าแจ้งถึงบ้าน เพราะรถที่ซื้อรถตรวจสอบภายหลังจนมารู้ว่าถูกขโมยมา ทั้งที่เจ้าตัวซื้อถูกต้องตามกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่เต็นท์รถยืนยันว่า ได้ซื้อรถดังกล่าวมาจากคู่ค้ารายหนึ่ง ซึ่งซื้อประมูลมาจากธนาคาร ล่าสุดจึงถูกธนาคารเตรียมจ่อฟ้องหลังไม่ได้ผ่อนค่ารถ จึงคาใจว่ารถที่ซื้อมานั้นผ่านการจดทะเบียนกับขนส่งมาได้อย่างไร แถมจัดไฟแนนซ์กับธนาคารผ่านด้วย
ล่าสุดวันที่ 18 ต.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ตามหาเจ้าของรถคันแรกเจอแล้ว ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.วรรณดี จำนงค์ฤทธิ์ อายุ 34 ปี เธอเป็นเจ้าของรถตัวจริงที่แจ้งความกับตำรวจว่ารถของเธอหาย เธอเปิดใจกับทีมข่าวบอกว่าเธอนั้นทั้งมั่นใจและยืนยันว่า รถกระบะสีขาวคันนี้ เป็นรถของตนเองแน่นอน เป็นรถของเธอที่หายไปเมื่อ 1 ปีก่อน
จุดเริ่มต้นมาจากตนเองมีแฟนหนุ่ม และมักจะสลับรถกันใช้งานกับแฟน แฟนเอารถกระบะของเธอไปใช้ ส่วนตนเองใช้รถเก๋งของแฟนหนุ่ม กระทั่งประมาณเดือน มี.ค. ปี 64 แฟนหนุ่มได้ขอยืมรถกระบะตนเองไปใช้ ตนเองด้วยความเชื่อใจจึงให้ยืม แต่เมื่อผ่านไปนาน 4-5 เดือน ได้สอบถามแฟนหนุ่มว่า “รถไปไหน? ไม่เห็นเอารถมาขับนานแล้ว” เมื่อเค้นถามไปเค้นถามมา แฟนหนุ่มสารภาพว่าได้ให้เพื่อนอีกคน ซึ่งมีอาชีพเป็นพนักงานยึดรถของบริษัทแห่งหนึ่งยืมรถไป ชื่อ “ป็อก” และไม่รู้ว่าเพื่อนเอาไปใช้ทำอะไร และหลังยืมรถไป ก็ติดต่อเพื่อนคนนี้ไม่ได้อีกเลย
จากนั้นแฟนหนุ่ม ได้เอารถเก๋งของตัวเองไปให้เพื่อนอีกคนยืมอีก และรถเก๋งของแฟนก็หายไปอีกคัน ทำให้ตอนนั้นตนเองและแฟนหนุ่มต่างไม่มีรถจะใช้งาน ต่อมาตนเองโมโหมากเพราะรถหายถามแฟนหนุ่มตลอดว่า “เมื่อไหร่เพื่อนจะเอารถมาคืน?” แต่แฟนหนุ่มก็ไม่ตอบอ้างว่าติดต่อเพื่อนไม่ได้ จากนั้นตนเองและแฟนหนุ่มได้เลิกลากัน โดยตนเองพยายามตามหารถของเธอที่ถูกเพื่อนแฟนยืมไปว่าอยู่ที่ไหน
ซึ่งจากการตามหา ตนเองมีกุญแจรถ 1 ดอก อยู่กับตัวอยู่แล้วและรถกระบะของเธอก็ได้ติดจีพีเอสไว้ พบว่าจีพีเอสรถของเธอนั้นบางวันก็ไปโผล่ที่ จ.สตูล บางวันไปโผล่ที่ จ.สุราษฏร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช และล่าสุดไปหยุดอยู่ที่ จ.ตรัง บริเวณสี่แยกไฟแดงแห่งหนึ่ง
ตนเองที่ผ่านมาไม่มีเวลาตามหารถ แต่มีอยู่วันหนึ่งเป็นวันหยุดพอดีจึงลองขับรถอีกคันของตนเองตามหารถกระบะของตนเองดู โดยตามรถจากจีพีเอสที่ติดไว้ในรถ จนไปพบว่าจีพีเอสไปหยุดอยู่ที่เต็นท์ขายรถมือสองแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ตอนนั้นตนเองไม่กล้าเข้าไปดู ได้แต่สังเกตจากด้านนอกเต็นท์รถ ก็มีรถลักษณะคล้ายรถของตนเองจอดอยู่ในเต็นท์จริง แต่หมายเลขทะเบียนรถไม่ใช่ตนเองจึงเดินทางกลับ
และผ่านไปอีกประมาณ 2-3 เดือน ตนเองได้เปิดจีพีเอสดูอีกทีก็พบว่า จีพีเอสรถของเธอไปอยู่ที่ริมชาดหาดปากเมงทะเล จ.ตรัง ตนเองจึงขับรถตามไปดูว่า เป็นรถของตัวเองหรือไม่ ซึ่งปรากฎว่าลักษณะภายนอกรถคล้ายกับรถกระบะของเธอหมด
แต่หมายเลขทะเบียนคนละเบอร์ และล้อถูกเปลี่ยนเป็นแม็กซ์ ตนเองตอนนั้นนั่งอยู่ในรถ และได้พกกุญแจรถกระบะ 1 ดอก ซึ่งเป็นกุญแจหลักตอนซื้อรถกระบะที่หายไปมา จึงลองกดล็อครถกระบะที่จอดอยู่ริมทะเลดูว่าจะมีสัญญาณไฟกระพริบล็อกรถหรือไม่ ปรากฎว่าไฟกะพริบรถกระบะที่จอดอยู่เป็นรถของเธอจริง วันต่อมาตนเองจึงเดินทางไปที่ สภ.นาโยง จ.ตรัง เพื่อแจ้งความกับตำรวจให้ติดตามรถคืน และเดินทางไปกับตำรวจไปตามจีพีเอสรถของเธอ ซึ่งไปจอดอยู่ที่บ้านของ นายชญานน์ เจ้าของรถที่ซื้อรถมือสองจากเต็นท์ไปซึ่งอยู่ที่ จ.ตรัง
ตอนนั้นยอมรับว่า งงมากว่ารถของตนถูกนำไปขายเป็นรถมือสองได้อย่างไร และยิ่งไปกว่านั้นรถก็ถูกดัดแปลง ทั้งเลขตัวถัง เลขอะไหล่รถเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ล้อแม็กซ์ถูกเปลี่ยน ซึ่งกรมการขนส่งหรือธนาคารที่นำไปขายทอดตลาดให้เต็นท์รถนั้น นำรถของตนเองไปได้ขายได้อย่างไร แถมจดทะเบียนถูกต้องทุกอย่าง
ซึ่งจนถึงตอนนี้ ตนไม่รู้ว่ารถจะได้กลับคืนมาเป็นของตัวเองไหม เพราะก่อนหน้าที่รถจะหายตนเองได้ดาวน์รถมาในราคา 2 แสนบาท และผ่อนรถกระบะคันนี้ไปหลายเดือนแล้วด้วย
ด้าน นายชญานนท์ คงฉาง หรือ นนท์ อายุ 24 ปี และ น.ส.สุชัญญา หนูทอง หรือ ตาล อายุ 23 ปี สามีภรรยาชาว จ.ตรัง บอกว่าจนถึงตอนนี้เวลาผ่านไปเกือบจะ 1 ปีแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า ตำรวจบอกว่าจะต้องยึดรถที่ตนเองซื้อไปตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน โดยใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี ก็ไม่รู้ว่าจะได้รถคืนหรือไม่ ตนเองจึงรู้สึกว่าไม่อยากได้รถคืนแล้วอยากได้เงินที่ผ่อนคืนมากกว่า ทางเต็นท์รถก็บอกว่าให้ไปคุยกับธนาคารเพราะเป็นคู่สัญญากัน ซึ่งตอนนี้ทนายความของธนาคารก็อยู่ระหว่างการดำเนินเรื่อง แต่ยังไม่รู้เลยว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว
ตอนนี้ตนเองติดแบล็กลิสต์ธนาคารแล้วเพราะไม่ได้ผ่อนรถต่อ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เป็นใครก็ไม่อยากเอาเงินไปผ่อนต่อ เพราะรถก็ไม่รู้จะได้คืนเมื่อไร หากผ่อนไปไม่ได้เงินคืนก็ลำบากอีก ตนเองอยากฝากถามไปถึงขนส่งหรือทางเต็นท์รถว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมรถถึงดัดแปลงและผ่านขนส่งออกมาขายทอดตลาดได้
Advertisement
