จากกรณี นายไตรภพ ติราวรัมย์ หรือ โดม อายุ 18 ปี ทำร้าย เด็กชายวงศธร บางขุนทด หรือ ฟลุ๊ค อายุ 13 ปี บาดเจ็บสาหัสจนต่อมาได้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายโดมไปดำเนินคดี จนกระทั่งนายโดมได้โพสต์ลงบนออนไลน์ เป็นคลิปพร้อมเสียงคำพูด ว่าตนเองได้ประกันตัวออกมาด้วยเงิน 20,000 บาท พร้อมคุยโวว่ามีความรู้เรื่องกฎหมาย และมีเงินรวมถึงค้ายาเสพติดด้วย จนกลายเป็นกระแสถูกวิจารณ์สั่นในโซเชียลฯ
โดยจากการชี้แจ้งของนายโดม ที่ทีมข่าวได้รับคลิปเสียงของนายโดมได้มีการส่งไปหาเพื่อน ซึ่งเป็นการอธิบายและแก้ตัวกับกลุ่มเพื่อนว่าไม่ได้มีฆ่าน้องฟลุ๊ค โดยอ้างว่า “สิ่งที่ใช้ก่อเหตุในการฟาดทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่สายไฟอย่างที่ถูกกล่าวหา แต่เป็นสายยางพลาสติกซึ่งเป็นสายยางรดน้ำ และการเข้าไปทำร้ายร่างกายนั้นก็เป็นการชกต่อยตามปกติ ก่อนที่ตัวของน้องฟลุ๊คจะล้มลงหัวฟาดพื้น น้ำลายฟูมปาก และเกิดอาการช็อกที่มีการใช้กัญชา ไม่หลับไม่นอน จนเป็นเหตุทำให้เกิดอาการ และหลังจากที่เห็นว่าน้ำลายฟูมปากก็ยังพาตัวไปส่งสถานีอนามัยและพยายามใช้มือยัดเข้าไปที่ปากกลัวว่าจะกัดลิ้นตัวเอง"
วันที่ 9 พ.ย. 65 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง บ้านที่เกิดเหตุภายใน ซ.หนองหว้า ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง เป็นบ้านของเด็กชายฟลุ๊ค คนตาย ลักษณะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ประตูของบ้านเปิดโล่ง ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจจุดที่อ้างว่าผู้ตายหัวกระแทกกับพาเลทพลาสติก
วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวได้รับคลิปเสียงเพิ่มเติมจากเพื่อนของนายโดม ซึ่งมีการโทรคุยคุยกับกลุ่มเพื่อน ๆ หลังเกิดเหตุ โดยมีการพูดคุยประมาณว่า "กูเข้าไปคุยแล้ว มันไม่ฟังกู ไม่รู้ใครปั่นหัวมัน ไม่รู้ใครสั่งมันมาต่อยกูหรือป่าวไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ กูป้องกันตัวเอง มันฟันกูโดนด้วยแต่กูหลบ แต่โดนเฉียด ๆ กูเลยถีบมัน แล้วมันก็ด่ากูไม่หยุดด่าจนลมหายใจสุดท้ายจนน่ำลายฟูมปาก"
ยายแมว (นามสมมติ) อายุ 72 ปี คุณยายของนายโดม เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเองนั้นทั้งเสียใจและอับอายสุด ๆ ที่นายโดม ไปก่อเหตุฆ่าคนตาย ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยนับนายโดมเป็นหลานเลยด้วยซ้ำเพราะทำตัวไม่ดี ซึ่งตนเองผิดหวังมาก เคยคิดว่าหลานจะกลับตัวกลับใจให้เป็นคนดี ตั้งเองยังคิดอยู่เลยว่าหากหลานทำตัวดี ๆ จะเตรียมเงิน 40,000 บาท ไว้ให้หลานซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ แต่มาทำตัวแบบนี้ ฆ่าคนแบบนี้ แม้แต่เงินจะไปประกันตัวตนเองก็จะไม่ให้สักบาท
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายโดม ผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ภายในซอยโรงน้ำแข็ง ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง พบกับแม่เลี้ยงของนายโดม ได้เปิดเผยว่า ตนเองไม่ขอยุ่งเกี่ยวรู้แต่ว่านายโดมไม่มีงานทำเรียนก็ไม่จบ มาอาศัยอยู่กับพ่อที่บ้านหลังนี้แต่ก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน ส่วนทางพ่อก็ทำงาน หลังการประกันตัวในวันที่ 7 พ.ย. 65 นายโดม ได้เข้ามาอาบน้ำแล้วก็ออกไป ส่วนทางลูกพี่ลูกน้องของนายโดม ซึ่งอยู่บ้านเดียวกันได้เปิดเผยว่า รู้จากนายโดมมาบอกว่ามีเรื่องทำร้ายร่างกายแต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดอื่น
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายภูริช คุณพุทธา หรือ ภู พี่ชายคนตาย เจ้าตัวได้มีการเปิดคลิปเสียงซึ่งตัวของ นายโดม คนก่อเหตุ ตัดสินใจที่จะมีการส่งเสียงวอยซ์ข้อความมาขอโทษ และฝากฝังก่อนที่จะก้าวเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย พร้อมทั้งยืนยันว่าตนเองจะไม่ยื่นประกันตัวจะถอนเงินประกันแล้วติดคุกแทน
ซึ่งเนื้อหาในคลิปเสียงข้อความเสียง 3 คลิป ระบุว่า “ดูแลตัวเองด้วยนะครับพี่ชาย พรุ่งนี้ผมก็จะเข้าไปข้างในแล้วนะพี่ เจอกันนะพี่ ถ้าออกมาแล้วผมจะตอบแทนพี่อย่างงามเลย พี่มีพระคุณกับผม รักพี่ชายเสมอ อย่าทิ้งน้องไปนะพี่ รอน้องออกมาก่อน ดูแลตัวเองด้วยนะพี่ เผลอๆผมจะถอนประกันออกด้วยช้ำ ผมยอมติดดีกว่าอยู่ข้างนอก ไม่อยากให้ใครมาด่าผมว่าเป็นฆาตกรฆ่าน้องชายตัวเอง พูดง่ายง่ายว่าผมยอมติดดีกว่า อยู่ข้างในสบายกว่าเยอะ”
นายภูริช เผยว่า หลังจากที่กระแสสังคมรวมถึงสื่อหลักได้มีการเผยแพร่ข่าวเป็นการกดดันเกี่ยวกับการกระทำของนายโดม ทำให้กลุ่มเพื่อนและรุ่นพี่แต่ละคนถอนตัวจากการปกป้องและอยู่ข้างเดียวกันกับนายโดม ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีใครอยู่ฝั่งเดียวกันกับเจ้าตัว ในเช้าวันนี้ได้มีการส่งข้อความมาหาตนเองซึ่งเป็นการยอมรับผิดและขอโทษ พร้อมทั้งยืนยันว่าจะถอนประกันตัวแล้วไปติดคุกตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งจากน้ำเสียงดังกล่าวตนเองเข้าใจว่าเป็นคำขอโทษ โดยมีท่าทีที่เปลี่ยนไปจากที่เคยส่งข้อความมาเสียงแข็งกว่านี้และข่มขู่ แต่แม้ว่าน้ำเสียงจะยังดูกวนประสาทแต่ก็ได้มีการส่งข้อความเพื่อที่จะยอมขอโทษ
ซึ่งจากข้อความเสียงดังกล่าวตนเองก็ไม่ได้เชื่อ 100% แต่เบื้องต้นก็เข้าใจว่าไม่มีใครเอาแล้ว เพราะไม่มีใครอยู่ข้างคนผิด จึงทำให้อาจรู้สึกสำนึกได้บ้างบางส่วน และทั้งนี้แม้ว่าจะสำนึกผิดหรือขอโทษอย่างไรก็ตาม ตนเองก็ยังไม่ได้ให้อภัยเพราะไม่สามารถแลกชีวิตของน้องชายของตนเองคืนกลับมาได้
ส่วนกรณีที่วันนี้พ่อร่วมถึงย่าของนายโดมออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีเรื่องของเงินประกันตัวและฐานะของบ้านที่ร่ำรวย รวมถึงที่บ้านไม่ได้มีการปกป้องหรือช่วยประกันตัวนั้น ตนเองก็เชื่อว่าสิ่งที่พ่อรวมถึงย่าออกมาให้สภาพถือว่าเป็นเรื่องจริง เพราะตนเองก็รู้จักกับครอบครัวของนายโดม ฉะนั้นก็เชื่อว่าครอบครัวของเจ้าตัวไม่ได้มีเงินมากอย่างที่มีการกล่าวอ้าง แต่อาจเป็นการไปทำอย่างอื่นที่คนอื่นไม่รู้หรือไม่ แต่ส่วนกรณีที่ตำรวจเตรียมเอาผิดเรื่องของการค้าอาวุธปืนหรือยาเสพติดนั้น ตนเองก็ไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลตรงนี้ได้เพราะเนื่องจากไม่รู้ว่าในโดมทำจริงหรือไม่
นางภูริช ยังกล่าวถึงกรณีที่กระแสสังคมมีการเชื่อมโยงถึงกลุ่มแก๊งค์หรือการตั้งชื่อกลุ่มห้วยโป่ง แต่มีการต่อท้ายชื่อของคนในกลุ่มระบุว่า ”การ์เด้น” นั้น เป็นการตั้งชื่อในเฟซบุ๊กหรือกลุ่มเดียวกันเพื่อให้เกิดการจดจำและเข้าใจง่าย แต่ในกลุ่มในฐานะที่ใช้นามสกุลใน เฟซบุ๊กว่า”การ์เด้น” ไม่ใช่ไปก่อเหตุกับใคร แต่ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นกลุ่มเดียวกันกับการดื่มสังสรรค์หรือไปเที่ยวด้วยกันเท่านั้น และนับตั้งแต่ที่ใช้การ์เด้น ก็ไม่เคยไปมีเรื่องกับใครและไม่เคยประกาศศักดาว่าเป็นกลุ่มใหญ่หรือเป็นกลุ่มที่จะไปหาเรื่องใคร แต่ในเมื่อวันนี้ในฐานะที่นายโดมก็ใช้ชื่อว่า “โดม การ์เด้น” หรือแม้แต่ตนเองก็ยังใช้คำว่า “ภู การ์เด้น” ในเมื่อ ถูกมองว่าเป็นการรวมกลุ่มแก๊งหรือมองในมุมไม่ดี จึงได้ให้ทุกคนลบคำว่าการ์เด้นออก แล้วกลับไปใช้ชื่อตามปกติ เพื่อที่จะไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มแก๊งที่สร้างปัญหาอีก
ด้าน นายชาตรี พ่อของ นายโดม คนก่อเหตุ เปิดใจผ่านช่องทางโทรศัพท์กับทีมข่าวว่า หลังจากที่ลูกค้าได้รับการประกันตัวในข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งใช้วงเงินจำนวน 20,000 บาท จากพ่อของเพื่อนลูกชาย โดยได้มีการหยิบยืมเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อที่จะประกันตัวออกมาต่อสู้คดี โดยเงินจำนวนดังกล่าวได้มีการนำไปยืนกับนายประกันที่ศาลแทนวงเงินเต็ม 200,000 บาท และหลังจากได้รับการประกันตัว ตนเจอหน้าลูกชายเพียงแค่ 1 วัน จากนั้นก็พบว่าไปอาศัยอยู่กับเพื่อนที่สนิท จนกระทั่งเริ่มมีการโพสต์เฟซบุ๊กและรวมถึงถูกกระแสสังคมโจมตี ตนเพิ่งทราบข่าวและติดต่อลูกชายได้ในวันนี้ โดยเจ้าตัวยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดและพร้อมเดินตามกระบวนการของกฎหมาย ที่สำคัญในวันพรุ่งนี้ตนเองจะพาลูกชายไปถอนประกันและติดคุกตามกระบวนการ ซึ่งลูกชายจะไม่ยื่นขอประกันอีกแล้ว และตนเองก็ไม่มีเงินที่จะไปประกันตัวให้ เพราะที่บ้านไม่ได้ร่ำรวยอย่างที่เจ้าตัวอวดอ้างเป็นเพียงคนหาเช้ากินค่ำและตนเองก็ต้องออกมารับจ้างหาเงินเอง
ส่วนนิสัยกร่างมีการโพสต์การข่มขู่และนิสัยก้าวร้าวของนายโดมลูกชายนั้น นายชาตรี ผู้เป็นพ่อ เผยว่า โดยปกติลูกชายของตนเองเป็นคนน่ารัก นิสัยไม่ใช่เป็นคนแบบนี้ ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุตนเองมาฟังคลิปในโลกออนไลน์ก็เกิดความตกใจเหมือนกันว่าทำไมลูกชายถึงเป็นได้ถึงขั้นนั้น แต่ก็เชื่อว่ามีอะไรผิดปกติในตัวของลูกชายอย่างแน่นอน เพราะโดยปกติแล้วไม่ใช่คนก้าวร้าว ส่วนเรื่องของยาเสพติดนั้น ตนเองไม่ทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไปเสพหรือไม่ เบื้องต้นทราบจากตำรวจว่ามีการตรวจสารเสพติดแล้วแต่ไม่พบจึงไม่รู้ว่ามีเหตุอะไรทำไมถึงต้องแสดงอาการแบบนั้นแล้วไปโพสต์ทำนองไม่สำนึกผิด
สำหรับเรื่องของการออกมาพูดถึงเรื่องการขายยาบางอย่างหรือแม้แต่เรื่องของอาวุธปืนซึ่งเป็นอาชีพที่ทำอยู่นั้น ตนเองเชื่อว่าเป็นเพียงแค่คำพูดและคำกล่าวอ้าง หรือเป็นการแถไปวัน ๆ ไม่เชื่อว่าเจ้าตัวจะขายยาหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย เพราะล่าสุดก่อนที่จะเกิดเหตุก็พึ่งเครียดจากการหางานทำไม่ได้และก็ยังทะเลาะกับย่าที่บ้าน ทำนองว่ายังหางานทำไม่ได้ทำไมต้องกดดัน ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความโมโหครั้งนี้ด้วยอีกหรือไม่
ทั้งนี้ความสนิทระหว่าง นายโดม ลูกชายของตน กับ นายฟลุ๊ค คนตาย ตนเองไม่ได้รู้จักกับน้องคนตายเป็นการส่วนตัวแต่ทราบว่าตัวของนายโดมไปกินนอนและใช้ชีวิตอยู่กับบ้านของน้องฟลุ๊คคนตายมา ซึ่งส่วนตัวก็ไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะไปก่อเหตุแบบนี้ และในวันนี้หลังจากที่นายโดมลูกชายของตนเองได้สติก็ยอมรับผิดเองทั้งหมด และพร้อมชดใช้ตามกระบวนการของกฎหมาย ที่สำคัญเจ้าตัวอยู่ในอาการร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว เพราะไม่คิดว่าจะไปก่อเหตุร้ายน้องฟลุ๊ค
ขณะเดียวกัน นายชาตรี พ่อของนายโดม ยังมีการกล่าวขอโทษแทนลูกชาย ขอโทษสังคม ขอโทษสื่อฯ ต่อการกระทำที่น่าอายของลูกชายที่มีการแถและเปลี่ยนสีอ้างว่าครอบครัวร่ำรวย อ้างว่าทำธุรกิจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย สู้ได้ และมีทนายความ ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่น่าอายที่ลูกชายตนเองไปพูดเอาไว้ โดยตนเองอยากจะฝากขอโทษสังคมแทน และอยากจะฝากความเสียใจรวมถึงขอโทษไปยังครอบครัวของน้องฟลุ๊คคนตาย ที่ลูกชายของตนเองไปทำแบบนี้ และยืนยันว่าในวันพรุ่งนี้ตนเองจะเป็นคนพาลูกไปที่ศาลเพื่อถอนประกันตัวแล้วพาติดคุก เดินตามกระบวนการในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและบุกรุกบ้านคนอื่น ส่วนตัวลูกชายตอนนี้ขอทำใจอยู่คนเดียวก่อนจะเดินทางไปศาลฯ ในวันพรุ่งนี้
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้คลิปเสียงสำคัญอีกคลิป ซึ่งเป็นคลิปเสียงของนายโดมหลังจากลงมือฆ่านายฟลุ๊คเสียชีวิตแล้ว และได้ประกันตัวออกมา โดยคลิปนี้ญาติของฝ่ายนายฟลุ๊คได้มอบให้กับทีมข่าว เพื่อแฉพฤติกรรมสุดกร่างของนายโดมที่ไม่สำนึกกับสิ่งที่ตัวเองทำ ในคลิปนายโดมส่งคลิปเสียงให้กับเพื่อนฝั่งนายฟลุ๊คกลุ่มหนึ่งมีใจความระบุประมาณว่า “มึงเด็กฝ่ายไอฟลุ๊คใช่ไหม ถ้ามึงไม่พอใจที่กูฆ่าไอฟลุ๊คมึงจำไว้ เจอกันเลยที่ห้วยโป่งบ้านกูอยู่ห้วยโป่ง เจอกูได้ทุกที่ที่กูทำไปกูมีเหตุผลดูไว้ด้วย กูบอกแค่นี้แหละ ถ้ามึงไม่พอใจมึงก็เอาพวกมึงมาเลย เข้ามาห้วยโป่งเลย อยากตายฟรีก็เข้ามา กูไม่ติดตลกแล้ว โดมกาเด้นท์ไม่ติดตลกแล้ว มึงแค่สะกิดกูนิดเดียว กูฆ่าทิ้ง กูไม่สน มึงอย่ามาหาเรื่องกูก่อน ห้วยโป่ง กูไม่เคยหาเรื่องใครก่อน มึงจำไว้”
Advertisement