กรณีเหตุคนร้าย 4 คนถืออาวุธปืน ก่อนหนึ่งในคนร้ายจะยิงประตูกระจกและบุกเข้าไปเตรียมปล้นร้านทอง โดยเจ้าของร้านได้ใช้ปืนยิงสวน จนคนร้ายบาดเจ็บ 1 ราย ตำรวจสามารถติดตามจับกุมได้ 1 ราย หลบหนีอีก 2 ราย เหตุเกิดที่ร้านทองในเมือง จ.ตาก
ล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว โดยคนร้ายที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ 2 คน คือนายวิชัย แซว่าง อายุ 32 ปี ได้รับบาดเจ็บ และ นายเต้อ แซ่ท้าว วิ่งหลบหนีตำรวจตามไปจับกุมได้ที่ป่าห่างจุดเกิดเหตุไม่เกิน 1 กิโลเมตร โดยทั้ง 2 คน มีคดีเก่าที่ร่วมกันปล้นทองที่ อ.พบพระ จ.ตาก
ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณร้านทอง ตรงข้ามโรงข้ามโรงเรียนตากพิทยาคม โดยพบเศษกระจกกระจายหน้าร้าน รวมถึงมีกองเลือดอยู่บริเวณถนนหน้าร้าน เวลา 17.30 น. พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมทีมสอบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดย นายพิสิฐ ระพิทย์พันธ์ อายุ 46 ปี เจ้าของร้านทอง ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมนำตรวจสอบด้านในร้าน
นายพิสิฐ เจ้าของร้านทอง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดคันแรก จากนั้นเพื่อนอีก 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามมา หลังจากนั้นคนร้ายรายหนึ่งชักปืนออกมาจากกระเป๋า ตนจึงบอกให้ภรรยาที่นั่งอยู่ข้างกันหลบเข้าไปหลังร้านโดยตัวเองก็วิ่งไปหลบเช่นเดียวกัน
จังหวะนั้นได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด เป็นการยิงเปิดทางทำให้กระจกแตกและเดินเข้ามาในร้าน ตนเป็นห่วงลูกน้องอีกคนที่เดินออกไปนอกร้าน และกำลังเดินกลับเข้ามาว่าจะเป็นอันตราย จึงหยิบปืนลูกซองของตัวเองที่อยู่ในร้าน วิ่งออกมาที่ประตูหลังเคาท์เตอร์ และเปิดประตู หมอบตัวลง ยิงปืนนัดแรกยิงขึ้นไปบนเพดาน
จากนั้นคนร้ายยิงสวนเข้ามาที่ตนอีก 1 นัด ตนจึงลุกขึ้นยิงสวนไปอีก 2-3 นัด ในจังหวะที่คนร้ายกำลังวิ่งหนี โดยไม่ได้เล็งใครเป็นพิเศษแต่ยิงเพื่อป้องกันเท่านั้น ซึ่งคนร้ายบาดเจ็บ 1 ราย ที่เหลือวิ่งหนีและขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี
นายพิสิฐ เล่าต่อว่า คนร้ายค่อนข้างจะชำนาญการใช้ปืน เท่าที่สังเกตพบว่าคนร้ายมีปืน 2 กระบอก คนแรกยิงปืนทางและดูในร้านโดยใช้ปืนเก็บเสียง อีกคนถือปืนส่ายไปนอกร้านคอยดูความเคลื่อนไหว
ส่วนอีก 2 คน แบ่งหน้าที่ คนแรกใช้เลื่อยตัดเหล็กตัดลูกกรงกั้นบริเวณเคาท์เตอร์ ส่วนอีกคนถือกระเป๋าเตรียมกวาดทอง ซึ่งตนก็กลัวว่าหากคนร้ายชิงทองได้สำเร็จแล้วจะบุกเข้าไปทำร้ายคนในบ้านตนด้วย จึงต้องยิงสกัดเพื่อปกป้องครอบครัวและทรัพย์สิน ทั้งนี้อาวุธปืนที่ตนใช้เป็นปืนที่ซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และตนเคยฝึกอบรมการยิงปืน 4-5 ครั้ง นอกจากนี้ก็ยังฝึกยิงปืนเป็นประจำจึงทำให้ใช้ปืนได้อย่างชำนาญ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็วเพราะกลัวจะไปก่อเหตุซ้ำ
ด้าน นางสุจิตรา ระพิทย์พันธ์ อายุ 46 ปี ภรรยาเจ้าของร้านทอง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นคนร้ายเดินเข้ามาที่ร้าน และสามีพูดว่าให้หลบ ตนรีบหมอบลงข้างล่างและคลานเพื่อจะไปหลบหลังร้าน ขณะที่เสียงปืนนัดแรกดังตนยังหมอบอยู่และกลับมาก จนถึงประตูจึงรีบวิ่งเข้าไปหลบหลังร้านพร้อมสามี
จากนั้นสามีก็ถือปืนออกมาที่ประตูอีกรอบ ขณะนั้นลูกจ้างที่ออกไปข้างนอกวิ่งเข้ามาทางหลังร้านพอดี ตนจึงบอกให้ลูกจ้างหลบอยู่แต่ในร้าน โดยได้ยินเสียงปืนดังต่อเนื่องหลายนัดก็เป็นห่วงสามี และกลัวว่าโจรจะบุกเข้ามาหลังร้านได้ ความรู้สึกตอนนี้ยังกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกังวลว่าคนร้ายที่หนีไปได้จะกลับมาแก้แค้น อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งรัดการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว นางสุจิตรา กล่าว
พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 กล่าวว่า ขณะนี้สามารถจับคนร้ายได้ 2 คน ยังหลบหนีอีก 2 คน โดยจากการตรวจสอบประวัติพบว่าคนร้ายมีหมายจับเก่าในคดีปล้นร้านทองที่ อ.พบพระ จ.ตาก เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ขอดูรายละเอียดและพิสูจน์ทราบบุคคลก่อนว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่
โดยพฤติการณ์ของคนร้ายอุกอาจ ทำในที่โล่งแจ้งตอนกลางวัน มีคนพลุกพล่าน โชคดีที่ยังไม่เลิกเรียน ต้องขอบคุณเจ้าของร้านที่ช่วยป้องกันหลังเกิดเหตุ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาในพื้นที่อย่างรวดเร็ว ส่วนอีก 2 คนที่ยังหลบหนี ตำรวจกำลังเร่งติดตามและมีการตั้งด่านสกัดการหลบหนีออกไปทางประเทศเพื่อนบ้าน โดยทั้ง 2 คน ที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ 2 คน คือนายวิชัย แซว่าง อายุ 32 ปี ได้รับบาดเจ็บ และ นายเต้อ แซ่ท้าว วิ่งหลบหนีตำรวจตามไปจับกุมได้ที่ป่าห่างจุดเกิดเหตุไม่เกิน 1 กิโลเมตร
ซึ่งทั้ง 2 คน มีคดีเก่าที่ร่วมกันปล้นทองที่ อ.พบพระ จ.ตาก มีหมายจับเก่าในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะ
Advertisement