จากเหตุพบร่างเศรษฐีนี และเลขาส่วนตัว ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านพักนั้น พบ จดหมายเลขาสารภาพเป็นอุบัติเหตุลั่นปืนใส่เศรษฐีนี - เจ้าอาวาสวัดสมอโพรง เผย ผู้เสียชีวิตมาทำบุญที่วัดประจำ ล่าสุดที่ต่อไม่ได้วันที่ 1 มี.ค. 67
เมื่อวาน (10 มี.ค. 67) ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพเศรษฐีนี วัย 63 ปี เสียชีวิตอยู่ และใกล้กันพบศพเลขาสาวใหญ่ วัย 46 ปี ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ใกล้กัน ภายในบ้านซึ่งเป็นตึกแถวขนาด 3 ชั้น ด้านหน้าต่อเติมเป็นห้องกระจก เปิดเป็นร้านจำหน่าย พระพุทธรูป รับหล่อพระ เครื่องสังฆภันฑ์ โต๊ะมุก ผ้าม่าน ของแต่งบ้าน ฯลฯ ริมถนนคันคลองชลประทาน ใกล้โรงพยาบาลหัวหิน เขตเทศบาลเมืองหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยผู้พบร่างของทั้ง 2 คน คือลูกชายของเศรษฐีนีที่เอะใจ ติดต่อแม่ไม่ได้หลายวัน เลยมาดู เจอแม่เป็นศพ
ล่าสุดทีมข่าวเดินทางมาที่ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ลักษณะต่อเติมเป็นห้องกระจก รับหล่อพระ และมีขายเครื่องสังฆภัณฑ์ สังเกตเห็นว่าภายในบ้านไม่มีคนอยู่ แต่ไฟด้านในเปิดอยู่ ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปที่วัดสมอโพรง ซึ่งมีคนให้ข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตชอบเดินทางไปทำบุญอยู่ตลอด เมื่อทีมข่าวเดินทางไปถึงวัดสมอโพรง เจอกับพระครูประกาศธรรมรส เจ้าอาวาสวัดสมอโพรง
พระครูประกาศธรรมรส ให้ข้อมูลว่านางพัด(นามสมมุติ) ผู้เสียชีวิต เป็นคนชอบทำบุญ และมักมาทำบุญที่วัดเป็นประจำ ตนเองเจอนางพัดล่าสุดคือเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา โดยนางพัด ได้พาตนไปเลี้ยงอาหารเพลที่แถว ๆ ชายหาดชะอำ
แต่จากนั้นในวันที่ 1 มีนาคม ตนเองส่งข้อความไปหานางพัด แต่นางพัดไม่อ่าน ซึ่งตนคาดว่านางพัดน่าจะเสียชีวิตในช่วงวันที่ 1 มีนาคม แล้วเมื่อคืนนี้ลูกชายของนางพัดติดต่อมาหาตนบอกว่าติดต่อแม่ไม่ได้เลยขอให้ตนไปดูให้ที่บ้าน เมื่อไปถึงตนเห็นว่าประตูบ้านล็อค ก็เลยเดินทางกลับวัด
จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ลูกชายของนางพัชรได้ติดต่อมาหาตนแล้วบอกว่าแม่เสียชีวิตแล้ว ตนก็เดินทางไปดู แต่ไม่ได้เข้าไปดูศพ
ส่วนตัวนางสุ เลขา ของนางพัด ตนเองก็มักจะเจอเป็นประจำเพราะมักจะมาทำบุญพร้อมกับนางพัด แต่ทั้งคู่ก็ดูปกติดีเวลาอยู่ต่อหน้าตนก็พูดคุยกันตลอด ไม่เหมือนคนที่มีปัญหากัน
หลังจากนั้นทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจภายในเฟสบุ๊คของนางพัด พบว่าเฟสบุ๊คของนางพัดมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการไปทำบุญอย่างที่ต่างๆ และในภาพเหล่านั้นมักจะมีนางสุ ที่เป็นเลขา อยู่ด้วยเสมอ
โดยล่าสุดที่ เฟสบุ๊คของนางพัด มีความเคลื่อนไหวคือ มีการไปฉลองวันเกิดที่ร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน ซึ่งในการฉลองงานวันเกิดมีนางสุ ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย
ส่วนเฟสบุ๊คของนางสุ พบว่าเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการโพสต์เฟสบุ๊คว่า “อะไรที่ไม่ใช่ ก็ไม่ใช่ เมื่อถึงเวลา ก็ต้องตาย” แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรอีก
นอกจากนี้ทีมข่าวได้ภาพจดหมาย ที่นางสุ เลขาของนางพัดเป็นคนเขียน โดยเนื้อความในจดหมายถูกเขียนเอาไว้เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 นางสุได้เขียนเรื่องมอบพินัยกรรมให้กับลูกสาวทั้ง 2 คน และได้บอกรักลูกสาวทั้ง 2 คน พร้อมทั้งขอโทษ และบอกรักแฟนชาวต่างชาติของตนเอง
ส่วนจดหมายอีกฉบับหนึ่ง เขียนขึ้นมาเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 พร้อมทั้งสารภาพว่าเรื่องปืนเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ และตนได้ทำปืนลั่นใส่นางพัด
ทางด้าน พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าในที่เกิดเหตุ พบศพ 2 ศพ เป็นผู้หญิงทั้งคู่ โดยหญิง อายุ 63 ปี เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 วัน ส่วนอีกรายหญิง อายุ 46 ปี เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วันในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืน 19 ขนาด 9 มม. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นได้ตั้งประเด็นการเกิดเหตุไว้ 2 ประเด็น อย่างแรก เป็นการฆ่าตัวตาย อย่างที่สองเป็นอุบัติเหตุปืนลั่น และมีการฆ่าตัวตาย ซึ่งแพทย์จากโรงพยาบาลหัวหินมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งดูจากสภาพศพคาดว่าถูกยิงคนละ 1 นัด กระสุนในรังเพลิงยังมีอยู่ โดยร่างผู้เสียชีวิตส่งตรวจพิสูจน์ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลหัวหิน เพื่อให้ทราบสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง ส่วนอาวุธปืนกล็อค 19 มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานฯ ตรวจพิสูจน์ว่ามี ดีเอ็นเอของใครปรากฎอยู่บนอาวุธปืนบ้าง
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในบ้านและนอกบ้าน ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจแล้วคาดว่าน่าจะเป็นบุคคล 2 คน ที่ทำให้เกิดเหตุฆาตกรรมกันเอง ส่วนสาเหตุการเกิดเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างสอบสวน ขณะนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
Advertisement