เปิดประวัติ แม่ชีเจิ้น แม่ชีถวายบีเอ็ม ลูกศิษย์คนสำคัญของพระสิ้นคิด หลวงตาสินทรัพย์

เปิดประวัติ แม่ชีเจิ้น แม่ชีถวายบีเอ็ม ลูกศิษย์คนสำคัญของพระสิ้นคิด หลวงตาสินทรัพย์ แห่งวัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ เผยที่มาก่อนเข้าสู่เส้นทางธรรม ตัดใจสละครอบครัวออกมาอยู่ที่วัด

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์ หลังมีข่าวว่า แม่ชีเจิ้น ได้ถวายรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูป้ายแดงราคา 7 ล้านบาทให้ พระสิ้นคิด หลวงตาสินทรัพย์ แห่งวัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ เนื่องจากความรักและศรัทธา เพื่อให้หลวงตาสินทรัพย์ใช้ในการเดินทางไปปฏิบัติกิจนิมนต์ ทำให้หลายคนอยากทราบว่า แม่ชีเจิ้น คือใคร มีที่มาอย่างไร โดยแม่ชีเจิ้นได้เปิดเผยเรื่องนี้ผ่านทางยูทูบ prasinkid ว่า

ประวัติ แม่ชีเจิ้น ลูกศิษย์พระสิ้นคิด หลวงตาสินทรัพย์ วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์

แม่ชีเจิ้นเผยว่าก่อนหน้านี้ตนมีอาการป่วย กินไม่ได้นอนไม่หลับ รู้สึกทรมานมาก มีวันนึงตนได้มีโอกาสทำบุญกับหลวงตาผ่านทางเฟซบุ๊ก โอนเงินไปไม่นานหลวงตาโทรกลับมาหา หลวงตาบอกว่า "กูว่าแล้ว" ตนก็งงว่าอะไรเพราะไม่ได้รู้จักกัน ยังไม่ได้ลงใจหรือเชื่อในสิ่งที่หลวงตาสอน แต่ก็รู้สึกแปลกที่อาการปวดหัวเหมือนจะคลายลง หลวงตาก็ถามตนว่าทำอะไร อยู่ที่ไหน ไม่ได้สอนธรรมะอะไรทั้งสิ้น จากนั้นก็วางสายไป

จากนั้นตนมีโอกาสไปกราบหลวงตาที่วัด พอมาถึงรู้สึกตาหนักมาก หลวงตาพูดอะไรก็ไม่เข้าใจ หัวรู้สึกหนักๆ หลวงตาก็ทักมาว่า ถ้ามึงอยู่บ้านได้เกิน 6 เดือนกูว่ามึงเก่งแล้ว ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจะอยู่ไม่ได้เพราะเป็นบ้านเราเอง ช่วงนั้นอาการป่วยก็หนักขึ้น แต่ก็พยายามมากราบหลวงตาบ่อยๆ เพราะมีอาการคลายลง บางครั้งนั่งสนทนาธรรมกับหลวงตาตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงตี 4 โดยเพื่อนเป็นคนชวนหลวงตาคุยจนเสียงแทบไม่มี ตนเคยถามว่าทำไมเวลามาหาหลวงตาแล้วรู้สึกอาการป่วยเบาลง หลวงตาบอกว่า มันเป็นเรื่องของบุคคล เวลา และสถานที่

หลังจากปฏิบัติธรรมกับหลวงตาไปได้ 1 อาทิตย์ จึงตัดสินใจไม่กลับบ้าน และมุ่งปฏิบัติกับหลวงตา เพราะถ้าอยู่ข้างนอกก็คงได้แค่นี้ แต่ตอนนั้นมันก็เป็นเรื่องที่ยาก พอมาอยู่วัดก็ได้เข้าสู่เส้นทางของการเรียนรู้ด้านธรรมะ ร้องไห้ทุกวันเพราะจิตใจเป็นทุกข์ ปีแรกที่มาอยู่วัดรู้สึกกลัวเพราะไม่ค่อยมีคน ฟ้าผ่าฟ้าร้องทีเหมือนนรกบนพื้นดิน แต่หลังๆ ก็ค่อยๆ ปรับตัวขึ้นมา ตนไม่เคยเห็นใครที่เป็นแบบหลวงตา ที่ปฏิบัติให้เห็น หลวงตาเคยถามว่า สิ่งที่กูทำมันง่ายมั้ย ตนบอกว่าง่ายแต่ตนยังทำไม่ได้

แม่ชีเจิ้น บอกว่าตอนที่ตัดสินใจจะมาวัด แฟนก็จับมือทุกวันบอกว่าไม่อยากให้ไป แต่วันนั้นที่บอกว่าจะไม่กลับ แฟนและลูกก็ยื้อจนตนต้องหันหลังกลับเข้ากุฏิ พอกลับถึงบ้านลูกเอาเสื้อในตะกร้าผ้ามากอดแล้วร้องไห้ แต่ตนก็มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติธรรม ใช้เวลาถึง 3 ปี ร้องไห้ทุกวันกว่าจะผ่านช่วงนี้ไปได้

ด้าน "น้องจิว" ลูกสาวของแม่ชีเจิ้นเผยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนตนอยู่ ป.4 ช่วงนั้นสงสารพ่อมากเพราะพ่อร้องไห้ทุกวัน อยากให้แม่กลับมา แต่ตนก็เห็นว่าถ้าแม่อยู่บ้านอาการจะไม่ดีหน้าบวม ตัวบวม แต่พออยู่วัดก็ดีขึ้นเลยต้องยอม ช่วงนั้นที่ชีวิตขาดแม่ ต้องอยู่กับพ่อและพี่ชาย ทุกคนอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ต่างคนต่างอยู่ ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนโดนทิ้ง ตนต่อว่าแม่ไปว่า แม่เลือกในสิ่งที่แม่ชอบแต่พวกหนูจะอยู่ยังไง

จนกระทั่งเวลาผ่านไป ทุกอย่างก็เริ่มคลี่คลาย เข้าใจแม่มากขึ้นจนตอนนี้เวลาปิดเทอมตนก็จะมาบวชอยู่ที่วัดกับแม่ ก็รู้สึกปีติอิ่มเอม แต่ทางญาติๆ ก็กลัวว่าจะบวชไม่สึกเหมือนแม่ และเมื่อได้มาอยู่วัดทำให้ได้รู้ว่าแม่ไม่ได้เลือกความสบาย อยู่วัดต้องทำทุกอย่าง วันที่แม่เดินออกมาจากครอบครัวรู้สึกว่าแม่เห็นแก่ตัว แต่วันนี้ไม่รู้สึกแบบนั้นแล้ว เห็นคนรักและเคารพแม่ก็รู้สึกภูมิใจ

ส่วนเรื่องการถวายรถบีเอ็มดับเบิลยูให้หลวงตาสินทรัพย์นั้น แม่ชีเจิ้นบอกว่าเดือนหน้าเป็นวันเกิดของหลวงตา ตนเองมีความรู้สึกว่าท่านทำเพื่อคนอื่นมามากแล้ว ลูกศิษย์ที่ทำธุรกิจแต่ละคนก็ค่อนข้างไปได้ดี ก็เลยลงขันกันซื้อไม่มีอะไรเลย ทุกคนรู้่เจตนาดีใครจะไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เพราะก็คิดว่าอาจจะต้องมีดราม่ามีคนวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว