"สนธิญา" ร้อง ป.ป.ช. สอบการทำผิดจริยธรรมร้ายแรง พญ.เกศกมล ปมปัญหาเรื่องวุฒิการศึกษา
16 ก.ค. 67 นายสนธิญา สวัสดี อดีตผู้สมัครสว. เดินทางไปที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อร้องสอบการทำผิดจริยธรรมร้ายแรง ของ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว.คะแนนอันดับ 1 ที่มีปัญหาเรื่องวุฒิการศึกษา ว่าอาจเป็นวุฒิที่จ่ายเงินซื้อมา และไม่ได้มีการรับรองในไทย
นายสนธิญา บอกว่า ก่อนหน้านี้เพิ่งทราบว่า พญ.เกศกมล เคยอยู่ในคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนของรัฐสภาชุดที่แล้ว ซึ่งเป็นคณะกรรมการชุดเดียวกันกับที่ตัวเองเคยอยู่ แต่ที่ผ่านมาขณะทำงานตัวเองไม่เคยได้ยินชื่อของ พญ.เกศกมล มาก่อน
ส่วนประเด็นเรื่องวุฒิการศึกษาที่ได้มาจาก California University FCE ซึ่งเป็นบริษัทที่รับเทียบโอนคุณวุฒิ ไม่ได้มีการรับรองตำแหน่งทางวิชาการตามกฏหมายไทย วันนี้ตัวเองจึงมายื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบในส่วนของจริยธรรมร้ายแรง เพราะ การที่นำวุฒิดังกล่าวไปยื่นใส่ใบข้อมูลคุณสมบัติ สว.2 หรือ สว.3 กับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อใช้ในการเลือกตั้ง สว. ถือว่าผิด พรป.มาตรา 77(4) จูงใจให้บุคคลเข้าใจผิดในคุณสมบัติ
นายสนธิญา บอกอีกว่า ขณะนี้ตัวเองกำลังศึกษาต่ออยู่ในระดับปริญญาโทในประเทศไทยซึ่งตัวเองได้สอบถามทาง กกต.ว่าสามารถลงคุณสมบัติส่วนนี้ได้หรือไม่ ได้รับการตอบกลับว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะฉะนั้นต้องย้อนกลับมาดูว่าการที่ พญ.เกศกมล นำวุฒิการศึกษาไปลงในลักษณะนี้เจตนาเป็นอย่างไรและได้ประโยชน์หรือไม่ และทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาตัวเองได้ข้อมูลว่ามีผู้สมัครจากจังหวัดขอนแก่นท่านหนึ่ง บอกกับตัวเองว่าลงคะแนนเลือก พญ.เกศกมล เพราะเห็นว่ามีคุณสมบัติทางการศึกษาเหมาะที่จะเป็นสมาชิกวุฒิสภา
นายสนธิญา มองว่า ถ้าวุฒิการศึกษาที่จบมาจากต่างประเทศ ของ พญ.เกศกมล ใช้ในทางส่วนตัวสามารถทำได้ แต่เมื่อไหร่ที่นำไปใช้ประโยชน์ในทางราชการจะถือว่าขัดต่อกฏหมายแน่นอน
เมื่อสอบถามว่าก่อนหน้านี้ในการแถลงข่าวชี้แจงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีการกล่าวอ้างว่า ได้ส่งหนังสือไปถึง กกต.เพื่อสอบถามแล้วว่าสามารถใส่วุฒิการศึกษาลงในการสมัคร สว.ได้หรือไม่ ซึ่งทาง กกต.ก็อนุญาตนิสัยได้ในส่วนของคุณสมบัติประสบการณ์ นายสนธิญา มองว่า สิ่งสำคัญคือ คุณวุฒิตำแหน่งศาสตราจารย์ ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง ทางการไทยไม่รับรอง แต่กลับนำไปใช้ในการเลือกตั้ง สว. แค่นี้ก็ถือว่าไม่ถูกต้องแล้ว ขณะเดียวกันทนายความและกลุ่มคนที่ไปแถลงข่าวชี้แจงกรณีดังกล่าว หากมีความชัดเจนว่าสิ่งที่แถลงข่าวไม่เป็นความจริง ก็จะเข้าข่ายนำข้อความอันเป็นเท็จลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งตัวเองเตรียมจะร้องกองบัญชาการตำรวจนครบาลตรวจสอบเอาผิดเรื่องนี้ภายในสัปดาห์หน้า
ขณะเดียวกันในส่วนของการร้องป.ป.ช.วันนี้นอกจากจะให้ตรวจสอบจริยธรรมร้ายแรง ก็จะนำหลักฐานที่มีส่งให้ทาง ป.ป.ช.ไต่สวนพิจารณาวินิจฉัยและส่งศาลฎีกา ซึ่งส่วนตัวมองว่าวันนี้หาก พญ.เกศกมล ลาออกจากการเป็นสว.สถานการณ์ต่างๆน่าจะคลี่คลายไป
Advertisement