"วันวิชิต" เห็นใจ "เศรษฐา" ถูกกล่าวหาไม่ซื่อสัตย์ ปมถูกวางยาทางการเมือง มีจริงหรือ?

"วันวิชิต" เห็นใจ "เศรษฐา ทวีสิน" ถูกกล่าวหาไม่ซื่อสัตย์สุจริต ฟันเปรี้ยง! ปมวางยาทางการเมือง มีจริงหรือ?

วันที่ 14 ส.ค.67 "เศรษฐา ทวีสิน" พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังศาล รธน. มีมติ 5 : 4 วินิจฉัย ผิดมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง ปมแต่งตั้ง "พิชิต ชื่นบาน" เป็นรัฐมนตรี

ประเทศไทยอยู่ในภาวะสุญญากาศ ไร้ผู้นำฝ่ายบริหาร และ ผู้นำฝ่ายค้าน ทิศทางการเมืองหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ในมุมมองของ "ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง" อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นผ่านรายการพิเศษ "สุญญากาศไทย ใครได้ไปต่อ?"

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ในประเด็นคำถาม อะไรคือจุดเปลี่ยน ทุกคนถึงพูดว่า "หักปากกาเซียน" กรณี "เศรษฐา" พ้นนายกฯ

อ.วันวิชิต ให้ความเห็นว่า หลายคนเชื่อว่า ตุลาการ ศาล รธน. ท่านใช้บริบทที่หลากหลายมาก มากกว่าหลักนิติศาสตร์ หลายคนมองเคสเก่าๆ ว่ากรณีท่านนายกฯ น่าจะชนะเทคนิคเคิลฟาวล์ เพราะเมื่อย้อนดูคำวินิจฉัยของศาล รธน. แต่เป็นชุดอื่นนะครับ หลายๆ เคสก็ชนะฟาวล์ ไม่ไปถึงเนื้อหาที่ถาม อย่างเช่น ผู้ร้องไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือสอง ยกตัวอย่างไม่กี่ปีมานี้ พรรคประชาธิปัตย์ถูกร้องยุบพรรค ปรากฏว่าผู้ร้องยื่นเลยระยะเวลาที่กำหนด สมมุติว่าให้ยื่นร้องภายใน 30 วัน แต่ผู้ร้องดันไปยื่นวันที่ 31 หรือ 32 ศาลท่านก็ไม่ไปอ่านต่อ ไม่อ่านในสิ่งที่ถามแล้ว ศาลท่านก็อ่านสิ่งที่คุณไปยื่นว่าขัดแล้ว

หลายคนก็เลยเชื่อว่า ท่านนายกฯ น่าจะชนะเทคนิคเคิลฟาวล์ ตรงที่ในมุมมองของผม นักวิเคราะห์ นักวิชาการที่แลกเปลี่ยนพูดคุยกันมองว่า คุณพิชิต ชื่นบาน ได้ติดสินใจลาออกไปแล้ว ซึ่งหลายท่านก็เชื่อว่าในเมื่อท่านลาออกไปแล้วจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เมื่อศาล รธน. รับเรื่องมาแล้ว คิดว่าน้ำหนักตรงนี้ก็ไม่น่าจะไปถึงการพิจารณา แต่ปรากฏว่าประเด็นเรื่องจริยธรรม โดยเฉพาะอดีต 40 สว. ที่ไปร้อง หนึ่งในนั้นคือชื่อ คุณประพันธ์ คูณมี เวลาร้องใครส่วนมากจะไม่เคยพลาด

ถ้าดูในแง่กฎหมายเขาคงมองอะไรบางอย่าง สู้ในสิ่งที่ว่า นายกฯ รู้หรือไม่รู้ ว่าคุณพิชิต ชื่นบาน ขัดคุณสมบัติ รู้หรือไม่รู้ ควรรู้ จากคำวินิจัฉัยที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีควรรู้ พอคำอธิบายที่ว่า นายกรัฐมนตรีไม่สันทัด ในเรื่องของกฎหมาย ทำธุรกิจมาก่อนอะไรต่างๆ มาก่อน จะไม่เข้าใจกฎหมายมิได้ เมื่อเป็นประเด็นตรงนี้ ผมเห็นคำวินิจฉัยของศาล รธน. ผมรู้สึกว่าหนัก เห็นใจนายกฯ ที่ถูกกล่าวหาว่า ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ตามที่ท่านนายกฯ ยืนแถลงที่โพเดียม ที่ทำเนียบ เห็นใจมากครับ

อะไรคือจุดหัก แต่เมื่อมามองรายชื่อของ ตุลาการศาล รธน. แบ่งเป็น 2 ก้อน โดยเสียงข้างมาก 5  โดยฝั่ง 5 น่าเป็นอดีตตุลาการ น่าจะทำงานเกี่ยวกับศาลเก่ามาก่อน ในส่วนของ 4 อย่างน้อย 2 จาก 4 หรือ 3 จาก 4 เป็นนักวิชาการ อาจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย นั่นอาจจะมองในแง่องค์ประกอบและบริบทอื่นๆ มาประกอบด้วย เช่น เศรษฐกิจ รัฐศาสตร์ สังคม และประกอบกับความเชื่อแต่เดิม นายกรัฐมนตรีไม่ได้ถูกให้สั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ก่อนหน้านี้ เพราะอะไรเมื่อมองย้อนกลับไป ตอนที่นายกรัฐมนตรีไปเจรจาความบ้านเมืองที่ประเทศญี่ปุ่น ถ้าใช้ตามกฎหมายทื่อๆ เลยนะ ก็คือ มันเป็นเรื่องของหน้าตา เกียรติภูมิของประเทศ มันก็เหวอแหละถ้าต้องให้ใครมาจับมือผู้นำญี่ปุ่น นักธุรกิจชั้นนำญี่ปุ่นแทน หลายคนก็เชื่อว่า นี่คือหลักรัฐศาสตร์ที่ใช้มาประกอบ น่าจะใช้มาเพื่ออธิบายตรงนี้

แต่เมื่อมองดูอย่างละเอียดเหตุที่ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่มองในระยะเวลา 82 หรือ 83 วัน จากวันที่ 23 พ.ค. ที่ถูกร้องจนมาถึงวันนี้ 14 ส.ค. ราวๆ 82 หรือ 84 วันเนี่ย มันทำให้คนรู้สึกมันเนิ่นานเกินไปที่มาอ่านคำวินิจฉัย คนมองว่าเป็นสิงหาสับ สิงหามรณะ นั่นเป็นการกระจายสปอร์ตไลท์ โฟกัสความสนใจของผู้คนสังคม ในเรื่องของคนตะขิดตะขวงเรื่องพรรคก้าวไกลว่าถ้าเป็นก้าวไกลยุบแน่ ถ้าเป็นคุณเศรษฐารอดแน่นอน แต่คราวนี้ ไม่เป็นไปตามนั้นสักอย่าง ถ้าเป็นเช่นนี้จะไปกล่าวหาหรือบูลลี่ ศาล รธน. ก็คงไม่ใช่

และเมื่อมองไปกรณีไม่สั่งให้นายกฯ ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ มันจะดูว่าได้ว่านำไปสู่หลักฐาน หรือนำมาต่อสู้ ก็เป็นไปได้ แต่เมื่อเทียบเคียงกับเคส พล.อ.ประยุทธ์ นั่นสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ศาล รธน. ใช้เวลา 45 วัน อ่านคำวินิจฉัย เพราะตอนนั้นมีรักษาการคดีความต่างๆ ที่คั่งค้างไม่ควรจะนานเกินไป แต่กรณีของนายกท่านสามารถดำเนินงานปฏิบัติหน้าที่ได้จนถึงวันมีคำวินิจฉัยวันนี้ 

นักวิเคราะห์ นักนิติศาสตร์ นักรัฐศาสตร์ เชื่อว่าท่านจะรอด แต่มองกลับไปกลับมา ตุลาการเสียงข้างมาก ใช้หลักง่ายๆ ก็คือ หลักกฎหมาย ซึ่งเคสเดียวที่นายกฯ จะไม่รอดก็คือยืนตามหลักของนิติศาสตร์ ซึ่งอธิบายยาก ถ้าในหลักของนิติศาสตร์ คำถามง่ายๆ คือในพรรคเพื่อไทย หรือคนนอกก็ได้ มีคนอื่นไหมที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายนอกเหนือจากคุณพิชิต ชื่นบาน มีเยอะแยะแต่ผมไม่สามารถอธิบายได้ว่า ใครเขียนคำแถลงปิดท้าย อะไรต่างๆ ให้ท่านนายกฯ เรื่องบกพร่องโดยสุจริต หรือไม่สันทัดด้วยกฎหมาย สำหรับผม ผมว่า ใช้ภาษาที่วางยานะ ผมไม่เชื่อว่านายกจะนั่นเองหรืออาจไว้วางใจ อะไรก็แล้วแต่