จากกรณีที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ มีชาวบ้านที่เคยบวชเป็นพระออกมาเปิดโปงถึงพฤติการณ์ว่าถูกเจ้าอาวาสบังคับให้กระทำการสำเร็จความใคร่ทางปาก และล่วงเกินทางทวารหนักนั้น
วันที่ 21 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวเดินทางตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัด พบนายแพง อายุ 52 ปี เคยบวชรับใช้เจ้าอาวาส เล่าว่า ตนถูกกระทำที่กุฏิของพระอาจารย์ เมื่อท่านเรียกเข้าไปในห้อง หลังเกิดเรื่องตนก็ไม่กล้าบอกใครในวัด ไม่กล้าไปปรึกษาใคร ตนก็อดทนไปก่อนเรื่อย ๆ จนทนไม่ไหว
จากนั้นก็มาปรึกษาพระที่วัดว่าการอุปฐากรับใช้พระอาจารย์เป็นแบบไหน ใช่ถูกเขาร่วมเพศทางทวารหนักไหม ให้ใช้ปากกับอวัยวะเพศไหม เพราะตนไม่เคยบวชมาก่อน ซึ่งพระในวัดท่านบอกว่าไม่ใช่ อุปฐากคือเอาภัตตาหารไปให้พระอาจารย์ ซักสบง กวาดกุฏิให้ เป็นการทำงานในวัดเท่านั้น
หลังจากทราบข้อเท็จจริง ตอนหลังพระอาจารย์เรียกตนเข้าพบ ตนก็ไม่ไป เพราะรู้แล้วว่าทำแบบนี้คิดสิ่งผิด หลังจากที่ลาสิกขาออกมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตนก็กล้าออกมาพูดเพื่อเปิดโปงพฤติกรรมดังกล่าว
ด้านนายคมสันต์ ยศวิจิตรไพศาล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเหล็ก กล่าวถึงกรณีนี้ว่า สอบถามผู้เสียหายแล้ว พบว่านอกจากนายแพงแล้ว ยังมีศิษย์วัดอีกคนชื่อนายสอน โดนกระทำอนาจารเช่นกัน จากนั้นตนจึงแจ้งเจ้าคณะตำบล แต่พระรูปนี้หนีไป ไม่กล้าสู้หน้าเผชิญความจริง ตนคิดว่าหากมีพระปฏิบัติตัวเช่นนี้ ก็ไม่สวมควรที่จะอยู่ในชายผ้าเหลือง อยากให้ดำเนินการกับพระรูปนี้โดยสึกจากความเป็นพระ และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย
Advertisement