จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก พ่อของเด็กหญิงถูกพิษกิ้งกือ โพสต์เตือนเป็นอุธาหรณ์ ก่อนใส่รองเท้าควรเคาะดูให้เรียบร้อยก่อน พร้อมนำภาพเท้าของหนูน้อยวัย 7 ขวบ ที่มีรอยไหม้ โดยได้พาไปหาหมอในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา ทำการรักษาแผลไหม้
โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 21 ก.ย.63 ที่ผ่านมา ภายในบ้าน ถนนบางแสน-อ่างศิลา ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
ล่าสุดวันที่ 22 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบพ่อและเด็กหญิงพลอย (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ เล่าว่า ตอนนั้นกำลังจะไปโรงเรียน เดินไปใส่รองเท้าเดินออกจากบ้าน แต่เหมือนมีอะไรติดเท้า ก็ถอดรองเท้าออก เจอกับกิ้งกือที่คาดว่าเข้าไปนอนอยู่ในรองเท้านานแล้ว ซึ่งตอนนี้มีอาการเป็นผื่นแดง อยากจะเตือนถึงเพื่อน ๆ ว่าจะใส่รองเท้า ควรเคาะก่อนใส่
ด้านนายเอกศักดิ์ พ่อของเด็กหญิง เปิดเผยว่า ตนได้รู้จากภรรยาว่าในช่วงเช้าเมื่อวาน มีกิจกรรมพละที่โรงเรียน ทุกครั้งจะสอนลูกสาวว่าให้มีการเคาะรองเท้าก่อน แต่เนื่องจากรีบร้อน ฝนตกก็ไม่ได้เคาะ และใส่ไปทั้งวัน กลับมาถึงบ้าน ลูกสาวก็ให้ดูเท้าว่ามีแผลเกิดขึ้น ตนเห็นก็ตกใจ รีบพาลูกสาวไปหาหมอ
อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนถึงผู้ปกครองทุกคนในชั่วโมงเร่งรีบ ควรใส่ใจสักนิด โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน จะมีสัตว์เลื้อยคลาน เช่น แมงป่อง ตะขาบ งู หรือ กิ้งกือ ดังนั้นควรจะมีการเคาะรองเท้าก่อนเสมอ ทั้งนี้ โชคดีที่ลูกสาวโดนแค่กิ้งกือ หากเป็นสัตว์มีพิษร้ายแรงคงจะแย่แน่ ๆ
สำหรับกิ้งกือ "ไม่กัด แต่มีพิษ" พิษของกิ้งกือบางสายพันธุ์จะมีต่อมพิษอยู่สองข้างลำตัว สามารถฉีดสารพิษพุ่งออกไปได้ไกล พิษของกิ้งกือมีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีสี สารพิษของกิ้งกือประกอบด้วยสารกลุ่ม ไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide) ฟีนอล (Phenol) กลุ่มเบนโซควินินและไฮโดรควิโนน (Benzoquinones/hydroquinones)
อาการพิษของกิ้งกือมีฤทธิ์ ทำให้ผิวหนังไหม้ แผลไหม้จะมีอาการปวดอยู่ 2-3 วัน รวมทั้งจะมีอาการระคายเคืองร่วมด้วย และถ้าสารพิษเข้าตาจะทำให้ตาอักเสบได้ การดูแลเมื่อถูกพิษของกิ้งกือทำได้โดยการล้างแผล ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดบริเวณที่ถูกพิษ
ข้อมูลจาก : สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์
Advertisement